ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้

กระทู้: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. รูปส่วนตัว noppakorn

    noppakorn said:

    ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้

    5 ธันวาฯมหาฤกษ์เกริกสวัสดิ์
    องค์ดวงรัตน์พระบรมราชสมภพสบวิสัย
    83 พระพรรษาองค์พระภูวนัย
    เป็นฤกษ์ชัยมหาสวัสดิ์พิพัฒน์ภิญญ์

    ขอพระองค์ทรงพระเกษมเขมนิรุตม์
    พระทัยผุดเพ็ญพรรณปานกระสินธุ์
    พระหลักเมืองเทพเทวาทั่วธานินทร์
    โปรดราชินทร์ให้พระองค์ทรงพระเจริญ


    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

    ข้าพระพุทธเจ้านายนพกรณ์ กุลตวนิช และครอบครัว
    การตั้งชื่อและแปลชื่อโดยคุณอุบาสกนพกรณ์
    จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน
    - ของดตอบคำถามเป็นการส่วนตัว
    - ของดการแจ้งลบกระทู้ (โดยไม่มีเหตุอันควร) หลังจากที่ได้คำตอบแล้ว
    - กรุณาตั้งคำถามให้ตรงตามหมวดหมู่อักษร
    - ขอตอบวันละ 3 ชื่อ (กรุณารอคิวหากมีผู้ถามเข้ามามาก)


    ขอชื่อใหม่ต้อง...
    1. แจ้งชื่อนามสกุลหรือทักษาเลข
    2. วันเกิด(จ-อ)
    3. อาชีพ
    4. เหตุผล(เพื่อวิเคราะห์ชื่อมงคล)
     
  2. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้




    “ ดอกบัวในใจยังคงบานไม่มีโรยรา”


    ตั้งแต่เช้าจนสายถึงบ่ายคล้อย
    อุบลน้อยโรยราหาทนได้
    เหล่าพสกนิกรร้อนเพียงใด
    ทนรอได้ด้วยหัวใจไม่โรยรา

    ต่างแช่มชื่นเบิกบานสราญจิต
    อยากใกล้ชิดเบื้องพระบาทสมปรารถนา
    เพื่อถวายบังคมสมจินตนา
    เปล่งวาจา..ขอพระองค์...ทรงพระเจริญ

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    ข้าพระพุทธเจ้านามปากกา ทั่นยาย


    บ่ายวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ หญิงชราวัย 102 ปี บ้านธาตุน้อย นครพนม
    ไปรอเฝ้ารับเสด็จในหลวง เพื่อเฝ้าชมพระบารมีแต่เช้า โดยได้นำดอกบัวสายสีชมพูสดสวยมาด้วย จำนวนสามดอก
    เจ้าหน้าที่ได้พาแม่เฒ่ามารอเฝ้ารับเสด็จที่แถวหน้าสุดเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมากที่สุดเท่าที่จะมากได้

    ตั้งแต่เช้าจนบ่าย แสงแดดแผดเผาจนดอกบัวสายในมือเหี่ยวโรย แต่หัวใจแห่งความจงรักภักดีของหญิงชรา
    ยังคงสดใสเบิกบานมิโรยรา เมื่อในหลวงเสด็จมาถึงตรงที่แม่เฒ่าตุ้มรอรับเสด็จอยู่
    แม่เฒ่าได้ยกดอกบัวสายที่เหี่ยวโรยทั้งสามดอกนั้นขึ้นทูนเกล้าเหนือศีรษะ แสดงความจงรักภักดีอย่างสุดซึ้ง
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโน้มพระองค์ลงมาจนพระพักตร์เกือบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่า
    ทรงแย้มพระสรวลอย่างอ่อนโยน พระหัตถ์แตะมือกร้านคล้ำของแม่เฒ่าอย่างนุ่มนวล ไม่มีใครรู้ว่า
    ทรงกระซิบคำใดกับแม่เฒ่า แต่แน่นอนว่า แม่เฒ่าไม่มีวันลืมเช่นเดียวกับที่ในหลวงก็ไม่ทรงลืม
    ราษฎรคนสำคัญที่ทรงพบริมถนนในวันนั้น

    หลังจากที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ แล้ว ทางสำนักพระราชวัง
    ได้ส่งภาพรับเสด็จของแม่เฒ่าตุ้ม พร้อมพระบรมรูปหล่อด้วยปูนพาสเตอร์ ผ่านมาทางอำเภอธาตุพนม
    ให้แม่เฒ่าตุ้มไว้เป็นที่ระลึก พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ อาจมีส่วนทำให้แม่เฒ่ามีอายุยืนยาว
    ด้วยความสุขต่อมาอีกถึง 3 ปีเต็ม จึงถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่ออายุได้ 105 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2501
     
  3. piangfan said:

    Re: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้

    ทำความดีทั้งใจกายถวายพ่อ
    รู้จักพอชีพสบายคลายปัญหา
    เฉลิมพระชนม์ฯมิ่งขวัญห้าธันวา
    ปฎิบัติบูชาถวายพระพร



    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    ข้าพระพุทธเจ้านามปากกา เพียงฝัน
     
  4. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้





    ทรงอ่อนน้อมถ่อมพระองค์มาก เวลาที่เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร
    ทรงโน้มพระวรกาย คุกเข่า และประทับพับเพียบเข้าหาประชาชน


    เคยมีคนต่างชาติสงสัยว่า "ทำไมคนไทยจึงรักในหลวง"
    คำตอบคือ ............"คุณมีเวลามากพอที่จะฟังหรือเปล่า
    "




     
  5. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้



    "เดิมพันของเรา"

    ครั้งหนึ่ง เมื่อหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า
    "เคยทรงเหนื่อย ทรงท้อบ้างหรือไม่"

    ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสตอบว่า
    "ความจริงมันน่าท้อถอยหรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้
    เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านคือเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ

    ข้อมูลจาก ไทยรัฐ ฉบัย 5 ธ.ค.32

     
  6. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้




    "รถติดหล่มกับถนนสายนั้น"

    หากย้อนกลับไปค้นหาจุดเริ่มต้นของพระราชกรณียกิจในด้านการพัฒนาแล้ว
    ชื่อของ "ลุงรวย" และ "บ้านห้วยมงคล" คือสองชื่อที่ลืมไม่ได้
    เรื่องราวของ "ลุงรวย" เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2495 หรือมากกว่าห้าสิบปีล่วงมาแล้ว
    ที่บ้านห้วยมงคล ตำบลหินเหล็กใน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    บ้านห้วยมงคลนี้อยู่ทั้ง "ใกล้และไกล" ตลาดหัวหิน ใกล้เพราะระยะทางที่ห่างกันนั้น
    ไม่กี่กิโลเมตร แต่ไกลเพราะไม่มีถนน หากชาวบ้านจะขนพืชผักไปขายที่ตลาดต้องใช้เวลาเป็นวัน ๆ
    ห่างไกลความเจริญถึงเพียงนี้ แต่วันหนึ่งกลับมีรถยนต์คันหนึ่งมาตกหล่มอยู่ที่หน้าบ้านลุงรวย
    เมื่อเห็นทหารตำรวจกว่าสิบนายระดมกำลังกันช่วยรถคันนั้นขึ้นจากหล่ม
    ลุงรวยผู้รวยน้ำใจสมชื่อก็กุลีกุจอออกไปช่วยทั้งงัด ทั้งดัน ทั้งฉุด จนที่สุดล้อรถก็หลุดจากหล่ม

    เมื่อรถขึ้นจากหล่มแล้ว ลุงรวยจึงได้รู้ว่ารถคันที่ตัวทั้งฉุดทั้งดึงนั้นเป็นรถยนต์พระที่นั่งและคนในรถนั้นคือ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชินีนาถ แม้จะตื่นเต้นตกใจที่ได้เฝ้าฯ
    ในหลวงอย่างไม่คาดฝันแต่ลุงรวยก็ยังจำได้ว่าวันนั้น "ในหลวง" มีรับสั่งถามลุงว่า หมู่บ้านนี้มีปัญหาอะไรบ้าง..

    ลุงได้กราบบังคมทูลว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดคือไม่มีถนน จึงนอกจากจะโชคดีได้รับพระราชทาน "เงินก้นถุง" จำนวน 36 บาท
    ซึ่งลุงนำไปเก็บใส่หีบบูชาไว้เป็นสิริมงคลจนถึงทุกวันนี้แล้วอีกไม่นานหลังจากนั้น ลุงรวยก็ได้เห็นตำรวจพลร่มกลุ่มหนึ่ง
    เข้ามาช่วยกันไถดินที่บ้านห้วยมงคล และเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น ชาวบ้านก็ได้ถนนพระราชทาน



     
  7. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้




    "ราษฎรยังอยู่ได้"

    ปีพุทธศักราช 2513 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎร
    ในตำบลหนึ่งของอำเภอเมืองพัทลุงอันเป็นแหล่งที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ปฏิบัติการรุนแรงที่สุดในภาคใต้เวลานั้น

    ด้วยความห่วงใยอย่างยิ่งล้น ทางกระทรวงมหาดไทยได้กราบบังคมทูลขอให้ทรงรอให้สถานการณ์ดีขึ้น
    กว่าที่เป็นอยู่เสียก่อน แต่คำตอบที่ทางกระทรวงมหาดไทยได้รับก็คือ

    " ราษฎรเขาเสี่ยงภัยยิ่งกว่าเราหลายเท่า เพราะเขาต้องกินอยู่ที่นั่นเขายังอยู่ได้
    แล้วเราจะขลาดแม้แต่จะไปเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของเขาเชียวหรือ


    ข้อมูลจากคำอภิปรายเรื่อง "พระบิดาประชาชน

     
  8. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้



    "สามร้อยตุ่ม"

    มีหลายหนที่ทรงงานติดพันจนมืดสนิท ท่ามกลางฝูงยุงที่รุมตอมเข้ามากัดบริเวณพระวรกาย รอบพระศอ พระกร พระพักตร์
    รวมทั้งแมลงตาง ๆ ที่เข้ามารุมรบกวนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะยังทรงทอดพระเนตรแผนที่
    อยู่ภายใต้แสงไฟฉายที่มีผู้ส่องถวายอยางไม่สะดุ้งสะเทือน อย่างมากที่ทรงทำคือโบกพระหัตถ์ปัดไล่เบา ๆ เท่านั้น
    ครั้งหนึ่งทรงมีรับสั่งเล่าเรื่อง "ยุง" ด้วยพระอารมณ์ขันว่า
    "..ที่บางจาก แต่ไม่มีจากหรอกนะ ยุงชุมมากเลย ไปยืนดูแผนที่ เลยโดนยุงรุมกัดขาทั้งสองข้าง กลับมาขาบวมแดง
    ไปสกลนครกลับมาแล้วถึงได้ยุบลง มองเห็นเป็นตุ่มแตง ลองนับดูได้ข้างละร้อยห้าสิบตุ่ม สองข้างรวมสามร้อยพอดี "



     
  9. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้




    มีอยู่ครั้งหนึ่ง พระองค์ท่าน เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    ที่บ้านหนองปรือ อ.กระสัง ผ่านท้องนา ทอดพระเนตรเห็นชาวบ้านอายุ 55 ปี แต่งตัวด้วยผ้าขาวม้าผืนเดียว
    กำลังหาปลาในนา พระองค์ท่านทรงรับสั่งไต่ถามอย่างไม่ถือพระองค์ สร้างความปลาบปลื้มปีติให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง
     
  10. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ขอเชิญร่วมถวายพระพรชัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วาระครบ 83 พรรษาในวันเฉลิม5ธค.นี้



    “เก็บร่ม”
    การเสด็จพระราชดำเนินทุกครั้ง แม้จะต้องเผชิญกับแดดร้อนหรือลมแรง
    ราษฎรก็ไม่เคยย้อท้อที่จะอดทนรอรับเสด็จให้ถึงที่สุด แม้ฝนจะตกหนักแค่ไหนก็ไม่มีใครยอมกลับบ้าน
    ร้อยเอกศรีรัตน์ หริรักษ์ เล่าไว้ในบทความ “พระบารมีปกเกล้าฯ ที่อำเภอท่ายาง”
    ตีพิมพ์ในหนังสือ “72 พรรษาราชาธิราชเจ้านักรัฐศาสตร์” ว่า ครั้งหนึ่งที่โครงการห้วยสัตว์ใหญ่
    เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฎว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ราษฎรและข้าราชการ
    ที่มาเข้าแถวรอรับเสด็จต่างเปียกปอนกันหมด แต่ก็ยังตั้งแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่อย่างนั้น
    เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ นายตำรวจราชองค์รักษ์ที่ตามเสด็จได้เข้าไปกางร่มถวาย
    ทรงทอดพระเนตรเห็นบรรดาข้าราชการและราษฎรที่มายืนตั้งแถวรอรับเสด็จอยู่ต่าง ก็เปียกฝนโดยทั่วกัน
    จึงมีรับสั่งให้นายตำรวจราชอครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงพระดำเนินเยี่ยมข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเสด็จ
    โดยทรงเปียกฝนเช่นเดียวกับข้าราชการ และราษฎรทั้งหลายที่ยืนรอรับเสด็จในขณะนั้น