สวัสดีปีใหม่แบบชาวพุทธ โดยท่านอาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร

กระทู้: สวัสดีปีใหม่แบบชาวพุทธ โดยท่านอาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. chai_kmutnb said:

    สวัสดีปีใหม่แบบชาวพุทธ โดยท่านอาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร

    คำว่า “สวัสดีปีใหม่” เป็นการกล่าวถึงความเจริญรุ่งเรืองที่จะเวียนมาถึงในปีพุทธศักราชใหม่ เมื่อกาลเวลาหมุนเข้าสู่พุทธศักราชใหม่ ผู้มีจิตติดอยู่กับสมมุติทางโลก ต่างมีจิตเบิกบานชื่นชมยินดีกับกาลเวลาใหม่ที่จะเวียนมาถึง ตนจะได้เริ่มต้นทำสิ่งดีๆให้กับชีวิต และยิ่งใกล้วันเวลาที่จะเปลี่ยนจากพุทธศักราชเก่า เข้าสู่พุทธศักราชใหม่ บุคคลผู้เดินตามกระแสโลก ต่างจัดเตรียมสถานที่ ตกแต่งสถานที่ เพื่อ countdown อย่างเอาใจจดจ่อ รอวันเวลาเฉลิมฉลองให้กับชีวิตใหม่ที่จะเวียนมาถึง ผู้เขียนบทความต้องขออภัยท่านผู้อ่าน หากอ่านบทความแล้วทำให้ไม่สบายใจ ด้วยคิดว่าผู้เขียนเป็นคนขวางกระแสโลก หรือพูดให้ถูกตรงว่า ขวางกระแสของกิเลส จะถูกต้องมากกว่า ยิ่งใกล้เปลี่ยนพุทธศักราชใหม่เข้าไป คนจำนวนมากแสดงพฤติกรรม ส่อให้เห็นความเป็นทาสของกิเลส ต่างชื่นชมยินดีแสวงหาไขว่คว้าเอาของไม่ดีมาทับถมชีวิตให้ต่ำลง มาทำให้คุณค่าของความเป็นมนุษย์ตกต่ำมากยิ่งขึ้น ผู้มีสติมองเห็นว่า กาลเวลาไม่เคยหยุดหมุน สัตว์บุคคลจะหลับหรือตื่น กาลเวลาย่อมกลืนกินชีวิตให้หดสั้นลง ผู้ขาดสติดีใจที่กาลเวลาใหม่จะเวียนมาถึง ตนจะได้อ้างเอาโอกาสนี้มาประพฤติทุศีลไร้ธรรมได้มากยิ่งขึ้น แต่ละบุคคลมีเวลาเป็นของตัวเอง มีเวลาของชีวิตไม่เท่ากัน ตามกรรมที่บุคคลทำไว้ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความสิ้นสุดของชีวิต เมื่อเวลานั้นมาถึง บุคคลจำเป็นต้องทิ้งขันธ์ลาโลก เพื่อไปหาร่างใหม่อยู่อาศัย ท่านผู้อ่านบทความลองคิดดูเองว่า จิตที่คุณค่าความเป็นมนุษย์เหลือน้อยจิตที่มีบาปสั่งสมอยู่มาก เมื่อจิตทิ้งรูปขันธ์นี้แล้ว จิตวิญญาณเหล่านั้นจะโคจรไปเข้าอยู่อาศัยในร่างใดในภพใด

    พระพุทธโคดมไม่เคยสอนพุทธบริษัท ให้ countdown เพื่อรอเวลาที่จะเอากิเลส เข้าทับถมจิตตนเอง ตรงกันข้ามพระพุทธะสอนพุทธบริษัท ให้กำจัดสิ่งเศร้าหมอง ( กิเลส ) ให้หมดไปจากใจ แล้วเติมเต็มสิ่งดีงามที่ให้ผลเป็นบุญเข้าไว้แทนที่ ดังที่ชาวกัลยาณธรรมได้ประพฤติปฏิบัติกันอยู่ด้วยความเหนื่อยยาก โอกาสที่บุคคลจะทำตัวเองให้มีคุณค่า ทำตัวเองให้เป็นมนุษย์ที่สูงค่า ย่อมหาได้ยาก ชาวกัลยาณธรรมเดินมาถูกตรงแนวทางแล้ว ที่ต่างคนต่างขวนขวายทำสิ่งที่เป็นบ่อเกิดแห่งบุญ คือให้ธรรมที่ถูกตรงตามธรรมวินัยเป็นทานกับมวลชน นับว่าเป็นการให้สูงสุดเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้ ชาวกัลยาณธรรมให้ความสว่างกระจ่างชัดกับมวลชนผู้หลงทาง เปรียบได้ไม่ต่างไปจากการให้แสงสว่างที่เปล่งออกเปลวเทียน ยิ่งส่องสว่างมากเท่าไร สัตว์บุคคลผู้หลงผิดเบาบางย่อมนำตัวเข้าใกล้ ดังที่ประจักษ์แจ้งอยู่กับใจของชาวกัลยาณธรรมทุกคน แม้เนื้อเทียนจะหมดสิ้นเปลืองไปในที่สุด หากพวกเราใช้สติสัมปชัญญะที่ถูกตรงตามธรรม ส่องดูชีวิตของตัวเอง จะเห็นว่า วาระสุดท้ายของชีวิตย่อมเวียนบรรจบ แต่ชีวิตของชาวกัลยาณธรรมมิได้สูญเปล่าดังเช่นคนทั่วไป ที่นำพาชีวิตไหลตามกระแสกิเลส เป็นการเวียนบรรจบที่มากด้วยคุณค่า เพราะชาวกัลยาณธรรมไม่ท้อแท้ในการทำความดีให้กับชีวิต และยิ่งเป็นความดีสูงสุดที่บุคคลผู้มาเกิดอยู่ในห้วงเวลานี้ทำได้ยาก

    ดังนั้นปีใหม่ที่จะเวียนมาถึงนี้ ขออวยพรให้ชาวกัลยาณธรรมทุกคน จงมีสติสัมปชัญญะถูกตรงตามธรรม ส่องนำพาชีวิตไปสู่ความสวัสดี มีความอุตสาหะในการทำความดี มีความอดทนต่อการทำความดี และผลแห่งความดีจงอำนวยประโยชน์ให้กับชีวิต ในห้วงเวลาที่จะเวียนมาถึงข้างหน้า จงทุกท่านทุกคน เทอญ .


    ดร. สนอง วรอุไร

     
  2. รูปส่วนตัว Butsaya

    Butsaya said:

    Re: สวัสดีปีใหม่แบบชาวพุทธ โดยท่านอาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร

    ขออนุโมทนาสาธุกับคุณชัยด้วยนะค่ะ
    ที่เอาบทความดี ๆ มาให้อ่านกัน ณ ที่แห่งนี้ด้วยนะค่ะ

    ธรรมมีทุกหย่อมหญ้า.......สำหรับผู้มีปัญญา