เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ

กระทู้: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. Aday said:

    เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ

    สวัสดีครับ

    ตอนนี้ผมกำลังทุกข์ใจเพราะหาทางออกไม่ได้ คือ ผมเหมือนกำลังเดินอยู่ในเขาวงกต ผมอยากได้คำแนะนำจริงๆครับ เรื่องมีอยู่ว่า " ผมไปบ้านเพื่อน(สมมติว่าชื่อ ก.) แล้วไปนั่งดื่มสังสรรค์กันนิดหน่อยและได้รู้จักกับเพื่อนของ ก. ด้วย (สมมติว่าชื่อ ข.) นะครับ พอถึงตอนจะกลับบ้านผมอาศัยรถของนาย ข. ออกมาที่ถนนใหญ่เพื่อเรียกรถแท็กซี่ ซึ่งก็เป็นทางกลับบ้านของนาย ข.อยู่แล้ว ส่วนผมต้องต่อแท็กซี่เพราะบ้านของผมอยู่ไกลมาก นานๆ จะได้มาเที่ยวที่บ้านเพื่อน ก.ในวันหยุดสักครั้งครับ

    ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้ยังไง มันเร็วมากครับ นาย ข. ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มาถึงทางเลี้ยวแต่ไม่เปิดไฟเลี้ยว(จากสำนวนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งมา) จึงชนประสานงากับมอเตอร์ไซค์อีกคัน ซึ่งคันนั้นเสียชีวิตคาที่เลยครับ ส่วนตัวผมก็แขนหักสองท่อน เอ็นขาอักเสบ และฟกช้ำตามตัว โดยนาย ข. มีแผลถลอกเล็กน้อยเท่านั้น

    โชคไม่ดีของผม คือ ผมหมดสัญญาจ้างงานพอดี เลยไม่ได้รับเงินชดเชยการขาดงานใดๆ นอกจาก พรบ.และประกันสังคมร่วมกันจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ แพทย์ระบุให้ผมพักงาน 3 เดือนขึ้นไป (ถือว่าสาหัสครับ) และทางฝ่ายนาย ข. ยังบอกว่าเรามีความผิดร่วมกันด้วย จริงๆ แล้วต้องชดใช่ค่าเสียหายให้ผู้เสียชีวิตด้วยกันคนละครึ่ง ทางฝ่ายครอบครัวของผมเองบอกว่าไม่จริง คนซ้อนไม่ผิด ให้ผมฟ้องกลับและเรียกค่าสินไหมด้วย ทางแม่ของนาย ข.ก็โทรมาขอความเห็นใจว่าเขาเป็นผู้จ่ายค่าสินไหมให้ผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายหมื่นบาท คงไม่มีเงินทองอะไรมาช่วยทางผม ผมเองก็ไม่ได้คิดจะเอาอะไร คิดซะว่ารอดมาได้แล้วก้ดีอยู่แล้ว แต่ตามหลักความเป็นจริง ผมก็ต้องกลับมาอาศัยเงินทองของพ่อแม่ที่ต้องช่วยเหลือค่าอยู่ค่ากินให้ผม (ทางตำรวจก็ให้เรามาตกลงกันเองนะครับป อีกอย่าง ถ้าเขาต้องไปหาเงินมาให้ผมด้วยความทุกข์กายและใจ ผมคงรู้สึกผิดและบาปติดตัวติดใจไปตลอด แต่พอหันมามองทางครอบครัวตัวเอง พ่อแม่ก็ลำบาก ค่าเดินทางพาผมไปหาหมอทุกสัปดาห์ ค่าผ่าตัดเอาเหล็กออกในอนาคต(ถ้ายังไม่ได้งานทำ ประกันสังคมก็ไม่ออกให้) ค่ากินค่าอยู่ 3 มื้อ ค่าอื่นๆ อีก ผมสงสารพ่อแม่ แต่กลัวบาปที่ไปคาดคั้นเอากับคนไม่มี ที่ความจริงก็ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า

    ผมจะเลือกทางไหนดีครับ ในเมื่อทางนาย ข.ก็ไม่ได้เสนอความช่วยเหลืออะไรเลย บอกแต่ว่าไปด้วยกัน ผิดด้วยกัน ซึ่งประโยคนี้ผมยังไม่ได้รายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจนะครับ ไม่อยากให้เรื่องยาว เพราะเท่าที่ทราบมาคนซ้อนไม่ผิดอยู่แล้ว แต่ถ้ายังตกลงอะไรกันไม่ได้ และมีท่าทีว่าไม่ได้ ผมก็ต้องแจ้งตำรวจไปอย่างนั้น เพิ่มบาป เพิ่มเวรกรรมเข้าไปอีก

    จากใจผมนะ ผมคิดว่าเป็นดวงของผมเอง ที่ไปซ้อนเขา แต่ตามกฎหมายมันก็อีกแบบหนึ่ง ผมจะทำยังไงดีครับ
     
  2. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ


    สวัสดีคับ คุณ Aday


    ขอให้ร่างกายฟื้นตัวไวๆ และสุขภาพแข็งแรงดังเดิมนะคับ

    อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นน่ะคับ
    แม้ว่าผู้นั้นจะประมาทหรือระมัดระวังอย่างดีแล้วก็ตาม
    การที่เราต้องได้รับความทุกข์เจ็บปวดกายนั้น
    ไม่ว่าจะมีบุคคลกระทำหรือแม้ไม่มีบุคคลกระทำ
    ก็เป็นอกุศลวิบากที่เกิดขึ้นให้เราต้องได้รับผลนั้น

    หากแต่ในทางกฎหมาย
    ก็มีการกำหนดบุคคลที่ต้องรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    ผู้ที่ขับขี่โดยประมาทก็ควรรับผิดชอบการกระทำของตน

    กรณีนี้...ทางตำรวจยืนยันแล้วใช่มั้ยคับว่าผู้ขับขี่เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
    การที่เค้าพยายามพูดว่าเรามีส่วนร่วมความผิดกับเค้าด้วย
    ก็คงพูดไปเพราะความกลัว
    เพราะต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมากให้กับผู้เสียชีวิต
    ก็คงจะเดือดร้อนมากยิ่งขึ้นถ้าต้องชดใช้ให้กับเราด้วย

    ในขณะเดียวกันครอบครัวเราเองก็เดือดร้อน
    ทีนี้...ก็ขึ้นอยู่กับคุณ Aday แล้วล่ะคับ
    ว่าจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการเรียกร้องค่าเสียหายหรือไม่
    หากเราไม่ได้มีจิตใจมุ่งหวังที่จะทำร้ายใครให้เดือดร้อน
    ไม่ใช่ด้วยจิตที่คิดผูกโกรธอาฆาตแต่อย่างใด
    แต่ให้การไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
    กระบวนการทั้งหลายก็ย่อมดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
    ส่วนเค้าจะผูกโกรธอาฆาตเราหรือไม่
    นั่นก็เป็นอกุศลจิตส่วนของเค้าเองน่ะคับ

    แต่...หากคุณ Aday เกิดความเมตตา
    เพราะเห็นว่าเค้าเองก็ไม่ได้มีเจตนาจะให้เราต้องบาดเจ็บ
    ถ้าจะให้ความกรุณาไม่เรียกร้องเอาความ
    ก็เป็นกุศลที่คุณ Aday มีต่อเค้า

    แต่ทั้งนี้...คุณ Aday จะตัดสินใจอย่างไร
    ก็คงต้องปรึกษาและตกลงกันกับคุณพ่อคุณแม่
    ซึ่งท่านเป็นผู้แบกรับภาระในส่วนนี้โดยตรง
    ว่าท่านไหวมั้ยถ้าเราจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ
    ให้ท่านเกิดกุศลจิต...ถือซะว่าเป็นการสร้างกุศล

    ถ้าท่านไม่ไหวและอยากให้ช่วยแบ่งเบาภาระท่านบ้าง
    ก็อาจต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย
    แต่ก็พอจะอะลุ้มอล่วยด้วยความเห็นอกเห็นใจผู้ที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย
    โดยไม่เรียกร้องเต็มจำนวนหรือมากเกินไปนัก
    อาจจะพูดคุยกันให้เค้าเข้าใจว่าเราขอแค่ครึ่งเดียวละกันนะ...ไหวมั้ย
    หรือขอแค่จำนวนหนึ่งที่จะไม่หนักหนาแก่อีกฝ่ายจนเกินไป
    ลองถามเค้าก็ได้ว่าแค่ไหนที่เค้าพอไหว ไม่ทำให้เดือดร้อนเกินไป
    และทางเราเองก็ยอมที่จะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วยตัวเราเองส่วนนึง

    ถ้าเป็นไปได้...อาจจะขอความช่วยเหลือจากคุณตำรวจให้อยู่ช่วยเจรจาด้วย
    บอกถึงเจตนาของเราว่าไม่ได้ต้องการอะไรมาก ไม่ได้ต้องการทำให้เค้าเดือดร้อน
    แต่ทางเราเองก็เดือดร้อนจริงๆ ขอแค่แบ่งเบาภาระเราบ้างนิดหน่อยก็ยังดี
    ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เหลือเราก็จะดิ้นรนช่วยเหลือตัวเราเอง
    ถ้าคุณตำรวจอยู่ช่วยเจรจาด้วยอาจจะง่ายขึ้นน่ะคับ
    เพราะถ้าเจรจากันไม่สำเร็จก็ต้องทำเรื่องส่งฟ้องศาล
    ทีนี้ล่ะเรื่องยาว...อีกนานกว่าจะจบอ่ะคับ
    และไม่รู้จะคุ้มกันหรือเปล่ากับค่าชดเชยความเสียหายเล็กๆ น้อยๆ

    ยังไงก็...ลองปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่อีกทีนะคับ
    เพราะการตัดสินใจของเรานั้นควรให้ท่านเห็นชอบด้วย
    เนื่องจากท่านเป็นผู้ต้องแบกรับภาระในส่วนนี้โดยตรงน่ะคับ

    ขอเอาใจช่วยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคับ
    วัดเกาะฯ ยินดีต้อนรับเสมอคับ




    เดฟ

    ปล. เรื่องการชดเชยสิทธิประโยชน์ต่างๆ
    คุณ Aday คงปรึกษากับผู้รู้แล้วใช่มั้ยคับว่ามีหน่วยงานใดรับผิดชอบส่วนใดบ้าง
    ทั้งจาก พ.ร.บ., ประกันสังคม หรืออื่นๆ ถ้ามี
    ไม่ทราบว่าได้ลองปรึกษากับคุณหมอเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลด้วยหรือไม่
    อย่างกรณีที่ต่อไปต้องไปผ่าตัดเอาเหล็กออก
    ถ้าเรายังไม่ได้งาน ประกันสังคมไม่จ่าย เราจะใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทได้หรือไม่
    ยังไงลองปรึกษาดูหลายๆ ทางนะคับ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  3. Admax said:

    Re: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ

    ขอให้หายโดยไวนะครับ
    ส่วนความคิดเห็นมันขึ้นอยู่กับคุณเหมือนพี่เดฟบอกอะครับ
    ถ้าในส่วนที่ผมคิดนะทางเราก็ลำบากอยู่ แต่นาย ข. เขาก็ชดใช้ในหลายอย่างเช่นกัน
    ถ้าหากว่าเขาเป็นคนจ่ายให้ทางผู้ตายทั้งหมดเองโดยที่เราไม่ได้จ่ายซักบาท และไม่ให้เราต้องมาจ่ายด้วย
    ตรงเรื่องนี้ผมว่าเราลองหาช่องทางบัตรต่างๆที่เราพอมีสิทธิในการใช้ดูครับว่าจะช่วยได้ไหม อย่างพี่เดฟว่า บัตรทอง 30 บาทน่าจะได้นะครับ
    หากตรงนี้สามารถช่วยเราได้ก็คงไม่ต้องห่วงอะไรอีก
    ส่วนเรื่องงานหากตอนนี้คุณพิมพ์คอมพิวเตอร์ได้ และ ที่บ้านมีเครื่องคอมพิวเตอร์คุณลองรับจ้างพิมพ์งาน พวก Word Excel Powerpiont ไปก่อนลองติดป้ายรับจ้างดูครับ
    ไม่แน่เวบนี้คนที่เขามีเงินเยอะที่ทำบุญเยอะๆใจบุญเขามาเจอข้อความคุณเขาอาจจะติดต่อเพื่อช่วยเหลือบ้างในเรื่องงานหรืออื่นเป็นต้น

    สุดท้ายก็ขอให้หายไวๆนะครับ ขอคุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครอง
    ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
    ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
    รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
    การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ
     
  4. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ


    สวัสดีคับ คุณ Aday

    อนุโมทนากับคุณ Aday และคุณพ่อคุณแม่นะคับ
    ที่มีจิตเมตตา กรุณา ไม่ฉกฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเค้าอ่ะนะคับ

    ก็อย่างที่คุณ Aday บอกน่ะคับ
    เงินจำนวนนั้นก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก
    หากทางเราพอจะอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินจำนวนนั้น
    ก็อย่าไปติดใจอะไรเลยคับถ้าเค้าบ่ายเบี่ยงไม่เต็มใจให้
    เงินแค่นี้ไม่ได้ทำให้เรารวยขึ้นหรือหายป่วยเร็วขึ้นหรอกน่ะคับ
    แต่ถ้าเค้าเต็มใจจะให้...เราก็ยินดีรับไว้

    ช่วงนี้เราก็ลองปรึกษาหารือกับคุณหมอ...เล่าความจำเป็นให้คุณหมอฟัง
    ขอคำแนะนำว่าพอจะมีทางทำเรื่องขอใช้สิทธิ 30 บาทมั้ย
    น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระลงไปได้เยอะเหมือนกันน่ะคับ

    อื่มมม...ไม่ทราบว่าค่าผ่าตัดเอาเหล็กออกนี่ประมาณเท่าไหร่อ่ะคับ...พอจะทราบมั้ยคับ?

    ส่วนที่เพื่อนๆ บอกคุณ Aday ว่าเค้ามีฐานะ
    ก็ต้องเข้าใจว่า...เค้าจะมีเงินหรือไม่มีเงินนั่นก็ส่วนของเค้า
    แต่จิตใจของเราไม่ได้หวังจะกอบโกยอะไรจากเค้าอยู่แล้ว
    ติ้ต่างว่า...ถ้าเค้าลำบากจริง ไม่มีจะชดใช้ให้เราจริงๆ
    ก็เป็นกุศลจิตในส่วนของคุณ Aday และคุณพ่อคุณแม่
    ที่ไม่เรียกร้องเอาความใดๆ ให้เค้าต้องลำบากเดือดร้อนยิ่งขึ้น
    แต่ถ้าเค้ามีฐานะ สามารถจะชดใช้ค่าเสียหายให้เราได้
    แต่กลับบ่ายเบี่ยงเลี่ยงความรับผิดชอบ ก็เป็นอกุศลจิตในส่วนของเค้าเอง

    ยังไงก็...เลือกตัดสินใจในแบบที่เราสบายใจที่สุดละกันนะคับ
    จะรอฟังข่าวด้วยคนคับ...ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคับ




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  5. *8q* said:

    Re: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ

    เจอบ่อยครับ
    พูดแล้วยาวๆๆๆๆๆ
    ก่อนเกิดใครเป็นเรา<br />เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร<br /><br />สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่<br />ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า<br /><br />ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน<br />มองในสิ่งที่ไม่เห็น<br />ทำในสื่งที่ไม่มี
     
  6. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ


    สวัสดีคับ คุณ Aday

    ยินดีนะคับที่เข้ามาส่งข่าว

    อ้อ แล้วที่ว่าต้องต่อประกันสังคมโดยจ่ายเงินสมทบเองแบบไม่มีนายจ้าง
    ไม่ทราบว่าพอจะบอกได้มั้ยคับว่าต้องส่งเดือนละเท่าไหร่อ่ะคับ
    อย่าคิดว่าเป็นการละลาบละล้วงเลยนะคับ
    ต้องการทราบไว้เป็นข้อมูลน่ะคับ
    แต่หากไม่สะดวกบอกก็ไม่เป็นไรนะคับ

    ยังไงก็ลองปรึกษาขอคำแนะนำกับผู้รู้หรือเจ้าหน้าที่ประกันสังคม
    เกี่ยวกับระเบียบวิธีปฏิบัติและเงื่อนไขต่างๆ ดูนะคับ
    เพื่อรักษาสิทธิ์ของเราและสามารถใช้สิทธิ์ได้อย่างเต็มที่น่ะคับ

    อันนี้เป็นเว็บไซท์สำนักงานประกันสังคมนะคับ
    เผื่ออยากจะเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ
    http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?lang=th&cat=79




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  7. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ


    สวัสดีคับ คุณ Aday

    เท่ากับว่า คุณ Aday ต้องส่งเงินประกันสังคมทุกเดือน
    ตีซะว่าเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ใช่มั้ยคับ

    จะเป็นไรมั้ย...ถ้าจะกรุณาให้เดฟได้ช่วยแบ่งเบาภาระในส่วนนี้
    รบกวนคุณ Aday ช่วยแจ้งเลขที่บัญชีให้ด้วย
    อย่าเกรงใจหรือคิดว่าเป็นคนอื่นคนไกลเลยนะคับ




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  8. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ



    http://studiorane1.tripod.com/music/season.wma


    ★ ★ ฤดูที่แตกต่าง ★ ★

    อดทนเวลาที่ฝนพรำ
    อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
    เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ
    ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ....

    หากเปรียบกับชีวิตของคน
    เมื่อยามสุขล้นจนใจมันยั้งไม่อยู่
    ก็คงเปรียบได้กับฤดู คงเป็นฤดูที่แสนสดใส

    แต่ถ้าวันหนึ่งวันใดที่ใจเจ็บทนทุกข์
    ดังพายุที่โหมเข้าใส่
    บอกกับตัวเองเอาไว้ ความเจ็บต้องมีวันหาย
    ไม่ต่างอะไรที่เราต้องเจอทุกฤดู

    อดทนเวลาที่ฝนพรำ
    อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
    เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ
    ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ....

    เมื่อวันที่ต้องเจ็บช้ำใจ
    จากความผิดหวังจนใจมันรับไม่ทัน
    เป็นธรรมดาที่เราต้องไหวหวั่น
    กับวันที่อะไรมันเปลี่ยนไป

    แหละถ้าวันหนึ่งวันไหนที่ใจเจ็บทนทุกข์
    ดังพายุที่โหมเข้าใส่
    บอกกับตัวเองเอาไว้ ความเจ็บต้องมีวันหาย
    ไม่ต่างอะไรที่เราต้องเจอทุกฤดู

    อดทนเวลาที่ฝนพรำ
    อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
    เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ
    ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ

    อย่าไปกลัวเวลาที่ฟ้าไม่เป็นใจ
    อย่าไปคิดว่ามันเป็นวันสุดท้าย
    น้ำตาที่ไหลย่อมมีวันจางหาย
    หากไม่รู้จักเจ็บปวด ก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ

    อดทนเวลาที่ฝนพรำ
    อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
    เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ
    ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ



    ขอมอบเป็นกำลังใจให้คุณ Aday คับ




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  9. tal said:

    Re: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ

    เป็นกำลังใจให้คุณ Aday ผ่านพ้นปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยดีนะคะ
    สู้ๆ ๆ ๆ ค่ะ
    http://image.dek-d.com/15/1200662/14459648<br />อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน <br />อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด <br />&nbsp;
     
  10. Lilly said:

    Re: เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด - เมตตาเขา แต่ เราทุกข์ใจ


    สวัสดีค่ะ อ.เดฟ และ ท่านเจ้าของกระทู้

    '' เท่ากับว่า คุณ Aday ต้องส่งเงินประกันสังคมทุกเดือน
    ตีซะว่าเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ใช่มั้ยคับ

    จะเป็นไรมั้ย...ถ้าจะกรุณาให้เดฟได้ช่วยแบ่งเบาภาระในส่วนนี้
    รบกวนคุณ Aday ช่วยแจ้งเลขที่บัญชีให้ด้วย
    อย่าเกรงใจหรือคิดว่าเป็นคนอื่นคนไกลเลยนะคับ ''

    ลิลลี่ไม่ได้เข้ามาซะนาน ยุ่งๆค่ะ แม่ลิลลี่ก็เกิดอุบัติเหตุค่ะ มีปัญหาเรื่อง แขน ขา เหมือนกัน
    ยังงัยถ้าจำเป็นหรือเดือดร้อนจริงๆ ลิลลี่ยินดีช่วยตามกำลังด้วยค่ะ แบ่งกับอ.เดฟ คนละ 3 เดือนก็ได้ค่ะ
    ถือว่าทำกุศลให้คุณแม่กลับมาเดินได้
    สู้ๆค่ะ ลิลลี่ก็สู้ค่ะ ถึงท่านไม่สู้ ลิลลี่ก้จะสู้ให้ท่านกลับมาเดินได้ปรกติค่ะ

    ลิลลี่สีมัวๆ