คำสาปแช่งของบุพการี

กระทู้: คำสาปแช่งของบุพการี

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. Yosita said:

    คำสาปแช่งของบุพการี

    สวัสดีค่ะ... ขอรบกวนอีกครั้งนะค่ะ คือ หนูพอจะกระจ่างบ้างกับ 'กรรม'ของใครของมัน ใครทำใครรับ หรือต่างคนต่างมีที่มา-ที่ไป ก็เพราะกรรมที่เคยได้กระทำไว้ :P
    แต่อีกเรื่องที่ใกล้ตัวหนูก็ประมาณว่า ยายของหนูมีลูกทั้งหมด5คน และแม่ก็เป็นคนแรก พอแม่แต่งงานไม่กี่ปีก็หย่ากับพ่อ ตอนนั้นหนูยังเล็กมาก ผ่านไปจนหนู10ขวบแม่มีแฟนใหม่ และผ่านไปจนหนูโตพอจะเข้าใจได้ว่าสิ่งที่ยายกำลังพูดนั้น ด่าทอ หรือ สาปแช่งแม่ ก่อนแม่จะล้มป่วย คือหนูกับยายเป็นอะไรที่(ขอโทษนะค่ะถ้าขอใช้คำว่าต่างคนต่างเกลียด)โดยส่วนตัว แม่มักจะต่อว่ายายเกี่ยวกับเรื่องที่ยายไม่สมควรเอาเรื่องของลูกๆหลานๆไปนั่งนินทาต่อว่า แม้กระทั้งสาปแช่งลูกหลานตนเอง ยายเค้าก็ไม่พอใจ เค้าบอกว่าไม่ได้พูด แล้วหันมาด่าทอ สาปแช่งแม่นานาสาระพัด แม่ก็เหนื่อยกับงานมากพอแล้ว ยังมาพบเจอกับเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก แม่ตัดปัญหาเลือกเดินหนีไป
    เหลือหนู(ตั้งใจจะถาม)กับยาย ยายยังไม่หยุดด่าแช่งแม่เล๊ย หนูไม่ทนหรอกค่ะ จะด่าว่าหนู หนูอาจจะพอทน แต่กับแม่ไม่ได้.. จิงๆแล้วแม่เป็นคนรักพี่รักน้องนะค่ะ และเป็นลูกคนเดียวที่รับดูแลยาย ส่วนลูกอีก4คนที่เหลือเค้าพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เอา..จิงๆนะค่ะ ลำพังตัวหนูบางครั้งยังมีความรู้สึก 'ช่างมันเถอะ' แกแก่แล้ว สงสารแก(69ปีแต่แข็งแรงกว่าแม่ซะอีก) แต่สิ่งดีๆมีให้แค่เเวปเดียว ก็มีปัญหาอีก ล่าสุด 2 วันที่ผ่านมาเลยค่ะ ไปนินทาเพื่อนร่วมแก๊งค์เข้า แล้วเค้าจะเอาเรื่อง ติดตรงเค้าสงสารแม่ เลยเข้ามาขออนุญาตแม่ว่าครั้งนี้ขอให้ยายหยุดนะให้จบ แต่หากยังไม่จบอีก เค้ากราบขอโทษแม่ไว้ตรง กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับยาย ...แม่ก็ไปบอกไปกล่าวกับยายตามปกติว่าให้หยุดพูดเรื่องคนอื่นสักที แต่ครั้งนี้ยายมาโหดค่ะ มีลงไม้ลงมือกับแม่หนูด้วย ทั้งๆที่แม่ใช้แขนซ้ายได้ข้างเดียว โชคดีมากที่แม่ไม่ล้ม มีคนโทรบอกหนู ..5นาทีหนูถึงที่เกิดเหตุ แต่ยายหายไปแล้วค่ะ คงรู้ หนูโมโหมาก และสงสารแม่ หันไปมองหน้าแม่ แม่ก็พูดเพียงแม่ไม่เป็นไรๆ หนู พูดอะไรไม่ออก มันแค้นนะค่ะ ยิ่งแม่เป็นแบบนี้เค้ายังทำกับแม่ได้ลงคอ มิหนาซ้ำยังสาปแช่งแม่ด่าทอแม่ คนเป็นแม่คนจิงๆเค้าไม่ทำกับลูกอย่างนี้ แม่หนูมีแต่ให้และปกป้องหนู พี่ค่ะ..หนูขอคำตอบที่ถ้าคำแช่งเหล่านี้มีส่วนจิง ขอให้บอกกับหนูตรงๆว่าจิง ถ้าไม่มีส่วนใดๆจิง ก็ขอให้บอกตรงๆนะค่ะ คือพี่อย่ากังวลกับผลทั้งทางใจทางกายในคำตอบ หนูก็แค่...ต้องมีสติ ขอบคุณค่ะ
     
  2. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: คำสาปแช่งของบุพการี


    สวัสดีคับ คุณ Yosita


    พี่ค่ะ..หนูขอคำตอบที่ถ้าคำแช่งเหล่านี้มีส่วนจิง
    ขอให้บอกกับหนูตรงๆว่าจิง ถ้าไม่มีส่วนใดๆจิง ก็ขอให้บอกตรงๆนะค่ะ

    อ่ะคับ งั้นขอบอกอย่างตรงไปตรงมาเลยนะคับ
    เคยได้ยินคำนี้มั้ยคับ... "ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว" ...นี่ตรงที่สุดเลยคับ

    คนเราจะดีจะชั่วไม่ได้อยู่ที่คำพูดจากปากใคร
    แต่อยู่ที่การกระทำของตัวเราเอง
    และการกระทำที่เราได้ทำนั้นเองที่เรียกว่า กรรม
    ถ้ากระทำดีก็เรียกว่า กรรมดี (กุศลกรรม)
    ถ้ากระทำชั่วก็เรียก กรรมชั่ว (อกุศลกรรม)

    เมื่อมีการกระทำกรรมอันเป็นเหตุ...ก็ย่อมได้รับวิบากอันเป็นผล
    ซึ่งถ้าเป็นผลที่ดีก็คือ กุศลวิบาก
    ถ้าเป็นผลที่ไม่ดีก็คือ อกุศลวิบาก

    ดังนั้น เมื่อเราเข้าใจกฎแห่งกรรม (กฎแห่งเหตุและผล)
    เราก็จะเข้าใจคำว่า... "ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว" ...อย่างแท้จริงเลยคับ

    ทั้งนี้...ต้องขออนุโมทนากับคุณแม่ของคุณ Yosita ด้วยนะคับ
    ท่านเป็นลูกกตัญญูอย่างแท้จริงเลยคับ
    เพราะคุณยายของคุณ Yosita ก็คือแม่ผู้มีพระคุณของท่าน
    ไม่ว่าแม่จะร้ายจะดีอย่างไร ผู้เป็นลูกก็อ่อนน้อมและสำนึกในบุญคุณเสมอ

    คุณแม่ของคุณ Yosita เป็นตัวอย่างของลูกกตัญญูที่ดีอย่างยิ่งเลยคับ
    สมควรที่เราจะดูเป็นตัวอย่าง และกระทำให้ได้อย่างท่านอ่ะคับ ...ซ้าทุ




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  3. Yosita said:

    Re: คำสาปแช่งของบุพการี

    ขอบคุณค๊าพี่เดฟ
    สำหรับคำแนะนำ อธิบายให้หนูเข้าใจง่ายดีค่ะ
    แต่พี่เดฟค่ะ ส่วนตัวหนูคือไม่ใส่ใจกับคำนินทาว่าร้ายของคนพวกนี้อยู่แล้วค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้คิดกังวลเพราะเป็นห่วงแม่ อยากให้มีแต่ความสบายใจ ได้ฟังได้คุยแต่สิ่งดีๆ หนูเคยได้ยินคนแก่ๆเค้าพูดว่า "ใครจะด่าจะแช่งเราไม่เป็นไรแต่ห้ามคนเป็นแม่สาปแช่งลูกหลานตัวเอง โบราณเค้าถือ" หรือจะเป็นแค่ความเชื่ออาค่ะ
     
  4. Yosita said:

    Re: คำสาปแช่งของบุพการี

    อีกอย่าง หนูเป็นสมาชิกแล้วเท่ากับหนูเป็นคนนึงในบ้านแล้วนะค่ะ หนูอาจมีเรื่องให้รบกวนบ่อย เพราะทุกวันนี้หนูเหมือนตัวคนเดียว ต้องคิดเอง ทำเอง แก้เอง คือทุกอย่าง ก็แม่ร่างกายไม่พร้อมจะคิดหรือทำอะไรหนักๆ ต้องพักผ่อนกับปล่อยวางให้ได้ก่อน หลายๆอย่างหนูเกือบรักษามันได้ แต่ก็มีที่หลุดหายไป อย่างเรื่องบ้านที่แม่ซื้อเก็บเอาไว้ แต่ใช้ชื่อคนอื่นก็ญาติๆแหละค่ะ เมื่อเดือนที่แล้วเองค่ะ แม่ตกลงขายบ้านกับใครหนูไม่รู้เรื่องนี้เลย จนแม่มาบอกหนูเองว่าขายบ้านได้แล้ว หนูตกใจอ่ะก็ไม่รู้อะไรเลย กลัวเค้าจะโกงเห็นอยู่ว่าแม่เป็นอะไร พูดได้บ้างแต่นึกคิดค่อนข้างนาน แต่สรุปบ้านที่ขายนะ เป็นเทาว์เฮา2ชั้น แม่บอกขายไป หกแสนห้า แต่ตังเหลือมา แสนกับแปดหมื่น หนูถามว่าที่เหลือล่ะแม่ แม่บอกหนูว่าเสียค่าโอนบ้านไปด้วยเลยเหลือแค่นี้ @ หนูสว่างเลยค่ะ บอกกับตัวเองไว้ว่า เสียแล้วก็เสียไป หนูรับปัญหามาช้า แล้วจะให้หนูแก้ หนูไปไม่เป็นอ่ะ
    ค่ะ ต่อไปนี้รบกวนด้วยนะค่ะ พี่อย่าเบื่อกับตัวหนูนะ ถ้าหนูถามมากไปหรือบ่อยไป คิดซะว่า "โยษิตา เด็กตาดำๆ" ขอบคุนค๊า
     
  5. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: คำสาปแช่งของบุพการี


    วัดเกาะฯ ยินดีเป็นอย่างยิ่งคับ คุณ Yosita
    ตามสบายเลยนะคับ ไม่ต้องเกรงใจ แวะมาได้เสมอเลยคับ

    อนุโมทนากับคุณ Yosita ด้วยนะคับ ที่รักและเป็นห่วงคุณแม่
    เอาน่ะ เราก็คิดซะว่า...คุณแม่กับคุณยายเค้าแม่ลูกกันอ่ะเนอะ มีไรเค้าก็คงจะเคลียร์กันได้น่ะคับ
    เราปลอบโยนคุณแม่ได้...แต่อย่าไปเคืองคุณยายซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของคุณแม่เลยนะคับ


    หนูเคยได้ยินคนแก่ๆเค้าพูดว่า "ใครจะด่าจะแช่งเราไม่เป็นไรแต่ห้ามคนเป็นแม่สาปแช่งลูกหลานตัวเอง โบราณเค้าถือ" หรือจะเป็นแค่ความเชื่ออาค่ะ
    แหม่...นี่ถ้าพ่อแม่แช่งลูกหลานตัวเองแล้วเป็นจริง
    น่าจะขอให้พ่อแม่แช่งเยอะๆ นะคับ อิอิ

    ...ไอ้ลูกขี้เกียจ หนังสือหนังหาไม่ยอมดู
    ขอให้แกสอบได้ทุกวิชาอย่าได้ตก...โห๋ แช่งแล้วได้เอทุกวิชาเล้ยยย

    ...ไอ้หลานแว้นซ์ หลานสก๊อยต์ วันๆ เอาแต่เที่ยว เล่นเกมส์
    ขอให้แกเอนท์ติดหมอ วิศวะ ฯลฯ...อ๊ะ เอนท์ติดจริงๆ ด้วยยยย

    ...หรือลูกหลานทำมาค้าขาย
    ก็แช่งให้รวยซะให้เข็ดทีเท้อออ เจ้าประคู๊ณณณณ อิอิ

    คือ จริงๆ แล้วการด่าทอสาปแช่งกัน
    ไม่ว่าใครมันก็ไม่ดี ไม่น่าฟัง ทั้งนั้นอ่ะคับ
    แล้วนี่ยิ่งถ้าเป็นพ่อแม่ด่าทอสาปแช่งลูก...ลูกก็คงจะเสียใจมาก
    ก็เลยเป็นคติเตือนใจว่าอย่าถึงกับไปด่าทอสาปแช่งลูกหลานเสียๆ หายๆ เลย
    อีกอย่าง ก็เป็นการเตือนลูกหลานด้วย
    ว่าอย่าไปขัดใจหรือทำอะไรไม่ดีให้พ่อแม่ต้องเสียใจ
    จนท่านโกรธถึงขนาดเอ่ยปากด่าทอสาปแช่งน่ะคับ
    อยู่ด้วยกัน พ่อแม่ลูก รักใคร่กลมเกลียว
    พูดจาเพราะๆ แก่กัน ครอบครัวก็อบอุ่น มีความสุขใช่มั้ยคับ

    (แต่ถ้าลูกหลานดื้อนัก บางทีก็อาจจะหวดซักป้าบบบบ อิอิ)




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  6. *8q* said:

    Re: คำสาปแช่งของบุพการี

    ซ้่าทุๆๆๆๆ
    เต้นรับน้องใหม่
    ก่อนเกิดใครเป็นเรา<br />เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร<br /><br />สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่<br />ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า<br /><br />ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน<br />มองในสิ่งที่ไม่เห็น<br />ทำในสื่งที่ไม่มี
     
  7. Yosita said:

    Re: คำสาปแช่งของบุพการี

    ขอบคุณพี่เดฟนะค่ะ ตอนนี้หนูรู้สึกเป็นกันเองมากกว่าวันแรกตั้งเยอะเลยอ่ะ ฮิฮิ มีความสุขจัง
    และขอบคุนพี่ *q8* นะค่ะที่ให้เกียรมาต้อนรับทักทายกับน้องใหม่ เอ่อ..พี่มีชื่อที่เรียกง่ายกว่านี้ป่าวค่ะ มันพิมยากอ่ะ ฮิฮิ หรือลองเปลี่ยนแล้วตั้งใหม่ดีมั้ย...ค่ะ
    ขอบคุณวัดบ้านเกาะ ที่สร้างเวปที่ให้ทั้งประโยชน์ให้ทั้งความรู้ แก่ชาวพุทธด้วยกัน อย่างน้อยก็ทำให้วัดใกล้ตัวหนูยิ่งขึ้น
     
  8. Admax said:

    Re: คำสาปแช่งของบุพการี

    สาธุ
    ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
    ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
    รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
    การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ
     
  9. *8q* said:

    Re: คำสาปแช่งของบุพการี

    แปดคิวครับง่ายๆเอง
    ก่อนเกิดใครเป็นเรา<br />เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร<br /><br />สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่<br />ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า<br /><br />ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน<br />มองในสิ่งที่ไม่เห็น<br />ทำในสื่งที่ไม่มี
     
  10. nakamol said:

    Re: คำสาปแช่งของบุพการี

    ถ้าไม่ได้ระบุอายุเอาไว้
    อาจจะเข้าใจว่าคนที่บ้านเข้ามาเล่าเลยนะคะ
    เนื่องจากคล้ายกันมาก
    มากจริงๆ