ในฐานะที่เป็นคนจังหวัดระยอง ก็อยากจะเอาสุดยอดวรรณกรรมที่เป็นนิทานคำกลอนของ สุนทรภู่ มาให้อ่านคือ เรื่องพระอภัยมณี
ความจริงวรรณกรรมเรื่องพระอภัยมณี เป็นนิทานคำกลอนที่ค่อนข้างยาว ประมาณว่า 2000 หน้ากระดาษ A4 ถ้านำมาลงให้อ่านทุกวัน วันละ 1 หน้า A 4 ก็จะใช้เวลาประมาณ 5 ปีเศษ อายุของผมอาจจะอยู่ไม่ถึงก็ได้ ฉนั้น ถ้าท่านอ่านแล้วสนุกน่าติดตาม ก็อย่าเสียใจถ้าอ่านได้ไม่จบเรื่อง อย่างไรก็ดี ผมคิดว่าจะลงให้อ่าน วันละ 2 หน้า และอาจจะไม่ได้อ่านทุกวัน
ประการหนึ่งขอให้ทราบว่า เมื่อมีโรงพิมพ์ขึ้นในประเทศไทย หมอสมิต ผู้เป็นเจ้าของ ได้พิมพ์หนังสือเรื่องพระอภัยมณี จำหน่ายเล่มละ 1 บาท และจัดว่าเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย
เรื่องพระอภัยมณี ตอนที่ 1
พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา
แต่ปางหลังยังมีกรุงกษัตริย์
สมมุติวงศ์ทรงนามท้าวสุทัศน์
ผ่านสมบัติรัตนานามธานี
อันกรุงไกรใหญ่ยาวสิบเก้าโยชน์
ภูเขาโขดเป็นกำแพงบุรีศรี
สพรึบพร้อมไพร่ฟ้าประชาชี
ชาวบุรีหรรษาสถาวร
มีเอกองค์นงลักษณ์อรรคราช
พระนางนาฎนามประทุมเกศร
สนมนางแสนสุรางคนิกร
ดังกินนรน่ารักลักขณา
มีโอรสสององค์ล้วนทรงลักษณ์
ประไพพักตรเพียงเทพเลขา
ชื่ออภัยมณีเป็นพี่ยา
พึ่งแรกรุ่นชัณษาสิบห้าปี
อันกุมารศรีสุวรรณนั้นเป็นน้อง
เนื้อดังทองนพคุณจำรุญศรี
พึ่งโสกันต์ชัณษาสิบสามปี
พระชนนีรักใคร่ดังนัยยา
สมเด็จท้าวปิตุรงค์ดำรงราชย์
แสนสวาทลูกน้อยเสน่หา
จะเษกสองครองสมบัติขัตติยา
แต่วิชาสิ่งใดไม่ชำนาญ
จึงดำรัสเรียกพระโอรสราช
มาริมอาสน์แท่นสุวรรณแล้วบรรหาร
พ่อจะแจ้งเจ้าจงจำคำโบราณ
อันชายชาญเชื้อกษัตริย์ขัตติยา
ย่อมพากเพียรเรียนไสยศาสตร์เวท
สิ่งวิเศษสืบเสาะแสวงหา
ได้ป้องกันอันตรายนัครา
ตามกษัตริย์ขัตติยาอย่างโบราณ
พระลูกรักจักสืบวงศ์กษัตริย์
จงรีบรัดเสาะแสวงแห่งสถาน
หาทิศาปาโมกข์ชำนาญชาญ
เป็นอาจารย์พากเพียรเรียนวิชาฯ
บัดนั้นพี่น้องสองกษัตริย์
ประนมหัตถ์อภิวันท์ด้วยหรรษา
จึงทูลความตามจิตต์เจตนา
ลูกคิดมาจะประมาณก็นานครัน
หวังแสวงไปตำแหน่งสำนักปราชญ์
ซึ่งรู้ศาสตราเวทวิเศษขยัน
ก็สมจิตต์เหมือนลูกคิดทุกคืนวัน
พอแสงจันทร์แจ่มฟ้าจะลาจร
แล้วก้มกราบปิตุราชมาตุรงค์
ทั้งสององค์ลูบหลังแล้วสั่งสอน
จะเดินทางไกลในป่าพนาดอน
จงผันผ่อนตรึกจำคำโบราณ
จะพูดจาสารพัดบำหยัดยั้ง
จนลุกนั่งน้ำท่ากระยาหาร
แม้นหลับนอนผ่อนพ้นที่ภัยพาล
อดบันดาลโกรธขึ้งจึงสบาย
พระพี่น้องสององค์ทรงสดับ
เคารพรับบังคมด้วยสมหมาย
พระเชษฐาบัญชาชวนน้องชาย
มาทรงสานสาคเรศบนเตียงรอง
แล้วแต่งองค์สอดทรงเครื่องกษัตริย์
เนาวรัตน์เรืองศรีไม่มีสอง
แล้วลีลามาสถิตบนแท่นทอง
จนย่ำฆ้องสุริยนสนธยา
จึงชวนกันจรจรัลจากสถาน
ออกทวารเบื้องบูรพาทิศา
ศศิธรจรแจ้งกระจ่างตา
ทั้งสองราเดินเรียงมาเคียงกัน ฯ
ล่วงตำบลชนบทไปหลายบ้าน
เข้าดอนด่านแดนไพรพอไก่ขัน
เสียงเสือกวางกลางเนินพนมวัน
ให้หวั่นหวั่นวังเวงหวาดฤทัย
จนแสงทองรองเรืองอร่ามฟ้า
พระสุริยาเยื้องเยี่ยมเหลี่ยมไศล
คณานกเริงร้องคนองไพร
เสียงเรไรจักระจั่นสนั่นเนิน
ทั้งสององค์เหนื่อยอ่อนเข้าผ่อนพัก
หยุดสำนักลำเนาภูเขาเขิน
ครั้นหายเหนื่อยเมื่อยล้าอุสาห์เดิน
พิศเพลินมิ่งไม้ในไพรวัน
บ้างผลิดอกออกผลพวงระย้า
ปีบจำปาสุกรม นมสวรรค์
พระอภัยมณี ศรีสุวรรณ
ต่างชิงกันเก็บพลางตามทางมา
พระพี่เก็บกาหลงส่งให้น้อง
เดินประคองเคียงกันด้วยหรรษา
พระน้องเก็บมลุลีให้พี่ยา
ทั้งสองราเดินดมแล้วชมเชย
เห็นมะม่วงพวงผล พึ่งสุกห่าม
ทำไม้ง่ามน้อยน้อยสอยเสวย
อร่อยหวานปานเปรียบรสนมเนย
อิ่มแล้วเลยล่วงทางมากลางดง
ครั้งสิ้นแสงสุริยาทิพากร
สำนักนอนเนินผาป่าระหง
ทั้งสองแสนเหนื่อยยากลำบากองค์
บาทบงส์บวมบอบระบมตรม
พระเชษฐาอาไลยถึงไอศวรรย์
กับกำนัลน้อยน้อยนางสนม
น้องคนึงถึงพี่เลี้ยงแลนางนม
กับบรมปิตุเรศพระมารดา ฯ
สิบห้าวันดั้นเดินในไพรสณฑ์
ถึงตำบลบ้านหนึ่งใหญ่นักหนา
เรียกว่าบ้านจันตคามพราหมณ์พฤฒา
มีทิศาปาโมกข์อยู่สองคน
อาจารย์หนึ่ง ชำนาญ ในการยุทธิ์
ถึงอาวุธซัดมา ดังห่าฝน
รำกระบอง ป้องกัน กายสกนธ์
รักษาตน มิให้ต้อง คมศาสตรา
อาจารย์หนึ่งชำนาญในการปี่
ทั้งดีดสีแสนเสนาะเพราะหนักหนา
ผู้ใดได้ฟังวังเวงในวิญญา
เคลิ้มนิทราลืมกายดังวายปราณ
อันสองท่านราชครูนั้นอยู่ตึก
จดจารึกอักขราไว้หน้าบ้าน
เป็นข้อความตามมีวิชาการ
แสนชำนาญเลิศลบภพไตร
แม้ผู้ใดใครจะเรียนวิชามั่ง
จงอ่านหนังสือแจ้งแถลงไข
ถ้ามีทองแสนตำลึงมาถึงใจ
จึงจะได้ศึกษาวิชาการ ฯ
วันนั้นพระอภัยมณีศรีสุวรรณ
จรจรัลเข้ามาถึงหน้าบ้าน