พระอภัยมณี ตอนที่ ๔ ศรีสุวรรณพบนางเกษรา
สงสารนางแก้วเกษรา ธิดาท้าว เมื่อครั้งคราวจะได้คู่ สู่สงวน
สถิตอยู่แท่นสุวรณ ให้รัญจวน แต่อักอ่วนป่วนใจ ไม่ไสยา
พอหลับลงทรงซึ่ง สุบินนิมิตร ประหวัดจิตต์นุชนาฏ หวาดผวา
ตื่นสดุ้งรุ่งแสง พระสุริยา พระธิดานึกแหนง แคลงฤทัย
จึงเรียกสี่พี่เลี้ยง มาเคียงข้าง นุชนางเล่าแจ้ง แถลงไข
ฉันฝันว่าวาสุกรี อันเกรียงไกร เข้าในแท่นสุวรรณ อันบรรจง
เกี่ยวกระหวัดรัดรอบ อุราน้อง ฉันร่ำร้องอยู่บนเตียง จนเสียงหลง
ให้ร้อนรุ่มกลุ้มจิตต์ พิษภุชงค์ หมายว่าปลงชีวา นิคาไลย
จนเดี๋ยวนี้นึกกลัว ยังตัวสั่น อันความฝันพี่เห็น เป็นไฉน
พี่เลี้ยงฟังนั่งนึก แต่ในใจ ยิ้มละไมในหน้า แล้วว่าพลัน
ลักษณะพระสุบิน นิมิตรแม่ ครั้นจะแก้กลัวจะโกรธ พิโรธฉัน
สมุดมีอยู่ที่ริม แท่นสุวรรณ ตำราฝันทรงดู ให้รู้ความ
จะได้ลาภหรือกระไร ก็ไม่ช้า ด้วยเวลานั้นก็ล่วง เข้ายามสาม
พี่จะช่วยอวยพร พงางาม ให้สมความปรารถนา ไม่ช้าวัน
ทูลพลางทางพลิก สมุดถวาย ถูกที่ทายงูขบ สบกับฝัน
ยุพยงทรงอ่าน อักษรพลัน มีสำคัญว่างู หมู่กุมภา
แม้นขบกัดรัดใคร ในนิมิตร จะได้ชมสมสนิท เสน่หา
แม้นงูร้ายฝ่ายคู่ ภิรมยา วาสนาฟุ้งเฟื่อง เรืองเจริญ
นางฟังเรื่องเคืองขัด ปัดสมุด ให้แสนสุดอับอาย ระคายเขิน
สี่พี่เลี้ยงเคียงข้าง เห็นนางเมิน ต่างอวยชัยให้เจริญ พระชนมาน
พระบุตรีโกรธตรัส ด้วยขัดแค้น พี่นี้แสนเล่ห์ลมประ สมประสาน
เห็นว่าเกลียดแล้วมาแสร้ง แกล้งประจาน ชวนให้อ่านแต่ตำหรับ ที่อัปรีย์
นี่หากเห็นเป็นผู้ใหญ่ ยังไว้หน้า หาไม่ว่าเสียให้อาย กับสาวศรี
แล้วผันผินพักตรา ไม่พาที ทำเข้าที่ไสยาสน์ บนอาสน์ทอง
ทั้งสี่นางต่างคน เห็นเคืองขัด ชุลีหัตถ์นบนอบ ไม่ตอบสนอง
ครั้งสุริยาฉายแสง ขึ้นเรืองรอง ออกจากห้องไสยา ปรึกษากัน
พระบุตรีนิมิต ผิดประหลาด ที่เราคาดนั้นก็งาม กับความฝัน
แสนสงสารเจ้าพราหมณ์ ก็ครามครัน จะโศกศัลย์อยู่ในสวน รัญจวนใจ
เราออกไปถามดู ให้รู้แจ้ง อยู่ตำแหน่งนัคเรศ ประเทศไหน
ลวงกำนัลกัลยา ว่าจะไป เก็บดอกไม้มาถวาย พระบุตรี
เห็นพรักพร้อมยอมใจ เข้าในห้อง เปิดคันฉ่องส่องตะบอย สอยเกศี
กระเหม่าจีนจับซ้ำ ให้ดำดี กรีดสำลีเรียบร้อย ที่รอยไร
แล้วผัดหน้าทาจันท์ กระแจะฟุ้ง ต่างคนนุ่งยกทอง ล้วนผ่องใส
ห่มกรองทองรองแสด เป็นซับใน เรียกสาวใช้คนรัก มาชักชวน
ให้ถือซองสลา ผ้าเช็ดปาก แล้วออกจากประตูข้าง ทางฉนวน
ทำกรีดชาย กรายก้อย เที่ยวลอยนวล ตรงไปสวนมาลี ด้วยปรีดาฯ
ฝ่ายสองเฒ่าเฝ้าผลัด กันนอนนั่ง เวียนระวังพราหมณ์น้อย ในเคหา
ครั้นรุ่งรางส่งแสง พระสุริยา อียายเฒ่าจึงว่า ตาแก่พลัน
บ่าวเรามีสี่คน ล้วนหนุ่มหนุ่ม ตาเอ๋ยคุมออกไปใช้ ในสวนขวัญ
ทั้งจอบเสียมมีดพร้า หาให้มั่น ให้ช่วยกันถางหญ้า กว่าจะเย็น
ตาเฒ่าผัวหัวเราะ ว่าจริงอยู่ ปัญญากูมืดมิด คิดไม่เห็น
เสียแรงมีบ่าวไพร่ ใช้ไม่เป็น นิ่งให้มันนอนเล่น เสียทั้งวัน
จึงร้องเรียกเจ้าพราหมณ์ ตามบ้านนอก เด็กเอ่ยออกมานี่ ขมีขมัน
แล้วรีบรัด จัดจอบให้ คนละอัน มาช่วยกันถากหญ้า จะพาไปฯ
หน่อกษัตริย์ขัดแค้น คำอ้ายเฒ่า จะใคร่เอาจอบสับ ให้ตักไสย
พี่เลี้ยงพราหมณ์สามคน เข้ายุดไว้ แล้วแก้ไขบอกเล่า เฒ่าชรา
น้องข้าเจ้าเจ็บอยู่ อย่าจู้จี้ เกณฑ์หน้าที่สักเท่าไรจงใช้ข้า
จะถากทำแทนกัน ไม่ฉันทา ตรงไหนหญ้าจะให้ทำ จงนำไปฯ
ส่วนตาเฒ่าเหย่าย่าง มาข้างสระ เห็นระยะหญ้าแพรก แตกไสว
จึงวัดวาหน้าที่ ให้ทันใด ใครทำให้ค้างอยู่ กูไม่ฟัง
แล้วตาเฒ่าเข้าใต้ ต้นชมพู่ เอาผ้าปูปัดผง ลงเอนหลัง
ระหวยหิวหาวนอน อ่อนกำลัง ลืมระวังพราหมณ์น้อย ม่อยหลับไปฯ
ฝ่ายเจ้าพราหมณ์สามนาย ชายฉลาด เห็นหน่อนาถมัวหมอง ไม่ผ่องใส
จึงเลือกเด็กดอกลำดวน ที่ยวนใจ มายื่นให้อนุชา แล้วพาที
ถึงมาดแม้นตกยาก ต้องถากหญ้า จะอาสาแทนน้อง อย่าหมองศรี
เรารอรั้งฟังกัน ดูวันนี้ ถ้าแม้นพี่คาดผิด จึงคิดการ
ธรรมดามาเที่ยว เกี้ยวผู้หญิง ต้องอ้อยอิ่งอดเปรี้ยว ไว้กินหวาน
เราอุตส่าห์พยายาม ตามโบราณ คงเป็นการมั่นคง อย่าสงกา
ว่าพลางทางจับ เอาจอบสวน เริงสำรวลชวนกัน เข้าฟันหญ้า
ไม่เคยทำซ้ำสับ แผ่นสุธา แต่เปลี่ยนซ้ายย้ายขวา อยู่สามคนฯ
หน่อกษัตริย์ขัดเคือง ชำเลืองค้อน สะท้อนถอนหฤทัย พิไรบ่น