จากการศึกษาทราบว่า กายวิญญาณจิต เป็นวิบากจิต เป็นผลของกรรมในอดีต เวทนาที่เกิดร่วมกับกายวิญญาณจิตคือ สุขหรือทุกข์ทางกาย ก็ย่อมเป็นวิบากด้วย เป็นผลแห่งกรรมในอดีตด้วย แต่จากพระสูตร สิวกสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "....ดูกรสิวก เวทนาบางอย่างเกิดขึ้น มีดีเป็นสมุฏฐานก็มี...มีเสมหะเป็น สมุฏฐานก็มี...มีลมเป็นสมุฏฐานก็มี...มีการประชุมแห่งเหตุเป็นสมุฏฐาน ก็มี...เกิดจากความแปรปรวนแห่งอุตุก็มี...เกิดจากบริหารตนไม่สม่ำเสมอ ก็มี...เกิดจากถูกทำร้ายก็มี...เกิดจากผลกรรมก็มี ข้อที่เวทนา...เกิดขึ้น โดยมี (สิ่งที่กล่าวมาแล้ว) เป็นสมุฏฐาน เป็นเรื่องที่รู้ได้ด้วยตนเอง ทั้ง ชาวโลกก็รู้กันทั่วว่าเป็นความจริงอย่างนั้น ในเรื่องนั้น สมณพราหมณ์เหล่าใด มีวาทะ มีความเห็นอย่างนี้ว่า “บุคคลได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม เวทนาทั้งหมดนั้น เป็นเพราะกรรมที่กระทำไว้ในปางก่อน” สมณ พราหมณ์เหล่านั้น ชื่อว่าแล่นไปไกลล่วงเลยสิ่งที่รู้กันได้ด้วยตนเอง แล่น ไปไกลล่วงเลยสิ่งที่ชาวโลกเขารู้กันทั่วว่าเป็นความจริง ฉะนั้น เรากล่าว ว่าเป็นความผิดของสมณพราหมณ์เหล่านั้นเอง " เลยไม่ทราบว่า พระสูตรกับพระอภิธรรม อธิบายเรื่องนี้ต่างกันอย่างไร วานผู้รู้ให้ความกระจ่างด้วยครับ ขอบคุณมาก