กสินรูปแบบใหม่

กระทู้: กสินรูปแบบใหม่

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. tewada said:

    กสินรูปแบบใหม่

    ในวิสุทธิมัค
    โยคีบุคคลพึงภาวนาลืมตาแต่พอดี จับเอานิมิตในปถวีกสิณนั้น โดยอาการอันสม่ำเสมอ เหมือนดูเงาหน้าในบานกระจก ฉะนั้น และอย่าพิจารณาถึงสีของดิน อย่าเอาใจใส่ถึงลักษณะของดินเช่นความแข็งของดินเป็นต้น แต่ก็มิใช่จะปฏิเสธสีเสียทีเดียว พึงตั้งจิตไว้ในคำบัญญัติว่าดิน ด้วยอำนาจธาตุดิน เป็นสิ่งที่มากกว่าธาตุอื่น แล้วพิจารณาดินพร้อมกับสีที่อาศัยพร้อม ๆ กันไป
    แหละ ในบรรดาชื่อของดินทั้งหลายในคำบาลี เช่น ปถวี, มหี, เมทนี, ภูมิ, วสุธา และ วสุนธรา เป็นต้น โยคีบุคคลปรารถนาชื่อใด และชื่อใดสำเร็จเป็นเครื่องเกื้อหนุน แก่ความจำของเธอ เธอก็พึงระบุเอาชื่อนั้น หรือพระอาจารย์พึงบอกชื่อนั้นแก่เธอ
    จำเป็นต่องตั้งจิตไว้ในคำบัญญัติไหม เพราะเราถอนคำสมมุตบัญญัติไป90%ละ จะพิจจารนาโดยไม่มีคำสมมุตใด้ไหม(ดินเอามาเป็นตัวอย่างเท่านั้น)
     
  2. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:
    สวัสดีครับ คุณ Tewada

    กสิณทั้ง 10 นั้นมีบัญญัติเป็นอารมณ์
    การใช้คำบริกรรมในเริ่มต้นเพื่อโน้มนำจิตให้ตั้งมั่น ประคองจิตไว้ไม่ให้ซัดส่าย
    จนจิตตั้งอยู่มั่นคงในนิมิตอันเป็นบัญญัติอารมณ์ของกสิณ ก็ไม่ต้องใช้คำบริกรรม
    สำหรับผู้ที่มีวสีเกิดฌานจิตได้แคล่วคล่องว่องไว ก็อาจไม่ต้องพึ่งพาคำบริกรรมครับ

    คุณ Tewada เจริญกรรมฐานใดอยู่หรือครับ ?



    เดฟ
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย D E V : 08-04-2016 เมื่อ 08:25 AM

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  3. tewada said:
    กำลังหาอยู่ คิดว่าจิตตอนนี้มีกำลังมากละเริมมีความชำนาญละ คิดว่าถ้าหลุดตอนนี้ไปคงหาอีกไม่ใด้ มองหากสินที่ไม่ต่องเพ่งด้วยลูกตา เอาที่เพ่งในสัญญาไปเลย เราคิดว่าภาพตางๆที่เราเห็นคือปฏิภาคนิมิต แต่ขาดปัจจัยคือกสินเลยไม่มีคุณวิเษศเกิด มีกสินหรือวิธีอะไรดีๆแนะนำใด้นะ
     
  4. tewada said:
    เมื่อคืนลองเพ่งไฟในสัญญาแบบไม่มีบัญญัตก็พอใด้นะแต่หลับก่อน
     
  5. Admax said:
    สาธุ
    ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
    ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
    รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
    การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ
     
  6. Admax said:
    แสงง่ายสุดหลับตาก็เห็นแสงววุ้งวิ้งๆแระ ไม่เชื่อลองหลับตาดูสินายจะเห็นแสงสว่างๆเล็กๆบ้างเท่าหัวเข็มหมุดอยู่ต่อหน้าแม้หลับตา เพ่งเอาแสงนั้นแหละ นั่นแหละใช้เป็นนิมิตได้ดีนัก ถ้าสมาธิรวมตัวจะเกิดวูบหนึ่งเหมือนอาการที่ตัวเราที่ดิ่งลงไปหานิมิตนั้น มีความสงบ เห็นนิมิตที่กำหนดรู้อยู่นั้นชัดเจน แสงจะอยู่จุดเดียวแล้วส่องสว่างใหญ่ขึ้น เราอธิษฐานให้นิมิตนั้นใหญ่หรือเล็กได้ เปลี่ยนมุม หมุน 360 องศาได้ จิตก็มีกำลังมาก
    กสินท่านมีนิมิตเป็นอารมณ์ เอานิมิตอันไหนก็ได้ในกสิน 10 เป็นอารมณ์ แล้วยกจิตขึ้นจากนิมิตนั้นโดยหน่วงนึกถึงสิ่งที่จะทำ ท่านเรียกอธิษฐาน
    เพ่งกสิน พออารมณ์ที่มันสงบจากภายนอกแล้ว พิจารณาไปอยู่อย่างนั้นนิมิตก็ไม่หายไป อธิษฐานได้ดังใจ ตั้งอยู่ได้นาน ตอนนี้แหละอธิษฐานเปิดตาทิพย์ดูได้เลย อยากเห็นอะไรก็ไปเห็นแต่อย่างเราๆที่ฉันเคยเห็นน่ะ มันแค่ปุถุชนเห็นเป็นแบบภาพในมุมมืดเหมือนไฟสลัว ไม่ชัดเจนมาก แต่พอรู้ว่าเป็นอะไรบ้างเท่านั้น เคยเห็นเป็นภาพสีชัดแจ๋วอยู่แค่ 2 ครั้งในชีวิต เห็นติดกันหลายวันตามแต่จะทำสมาธิอยากไปเห็น แล้วไปถามคนที่เราไปดูเขา เขาก็ตอบว่าจริง แถมว่าเราไปแอบดูเขาใช่มั้ยถึงรู้ แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้จักกสินคิดแค่ว่ามันคือพลังจิตเลยไปต่อไม่เป็น 555

    ยินดีด้วยเทวดาที่จับกรรมฐานเป็นชิ้นเป็นอันได้ตามที่ชอบแล้วถูกจริตได้แล้ว

    แต่อย่าไปหลงสิ่งที่เห็นล่ะ เพราะมันมีทั้งจริงไม่จริง ให้ดูแล้วใช้เป็นฐานต่อยอดให้สูงยิ่งๆขึ้นไปนั่นจะมีค่าต่อนาย
    ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
    ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
    รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
    การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ
     
  7. tewada said:
    เมื่อก่อนเราเห็นบ่อยนะภาพสีตอนนี้ไม่มีเลยมีแต่ขาวดำ อาจจะเรามีแต่ของเดิมเมื่อชาตก่อน เลยต่องปลุกมันขึ้นมาใหม่ กรณีที่มีแสงเวลาหลับตาเราเคยถามเดฟนะคำตอบประมานว่าใช่ไม่ใด้เราเลยหยุด ฝากคำถามแสงในตาเวลาเราหลับตาด้วยละกันนะเดฟ มันงายดีว่าใช้เป็นนิมิตใด้ไหม ตอนนี้รู้สึกว่าสมิธิเราพอใช้ใด้ แต่สตินี้ถือว่าเซียนพอสมควร เพราะสติปฐานเกื่อกูลเราไว้
     
  8. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:
    การอบรมสมาธิเพื่ออภิญญา

    แม้แต่ ฌานลาภีบุคคลที่ได้ฌานสมาบัติทั้ง ๙ แล้ว จะมีอภิญญาโดยทั่วหน้าก็หาไม่ จะมีอภิญญาได้ก็ต่อเมื่อได้ฝึกฝนอบรมกันเป็นพิเศษอีกถึง ๑๔ นัยก่อน ดังต่อไปนี้

    http://abhidhamonline.org/aphi/p9/055.htm




    เดฟ

    ปล. สติปัฏฐาน คือทางสายเอก นำไปสู่การละคลายจนดับกิเลสได้อย่างแท้จริงครับ
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย D E V : 08-05-2016 เมื่อ 02:12 PM

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  9. tewada said:
    แล้วแสงที่เวลาเราหลับตาละมันจะมีแสงแว้บๆๆๆ ใช้เป้นนิมิตแสงใด้ไหม ตามอี่แอบบอกนะ
     
  10. tewada said:
    ตามแอดบอก(ตอนท้ายพิมผิด)