ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ พระธรรมเจ้าทุก ๆ พระธรรมขันธ์ พระอริยสงฆ์ และท่านทั้งหลายผู้กำลังแสวงหาความเจริญทั้งสิ้น

ขอนมัสการพระคุณเจ้าผู้เจริยญทุกๆท่านและ ขอเจริญพรญาติโยมทั้งหลายที่กำลังแสวงหาความเจริญทุกๆท่านๆ เมื่อสองวันมานี้อาตมา
ได้มีโอกาสไปอบรมณ์พระวิปัสนา เมื่อได้ฟังพระอาจารย์ท่าน 1 มาบรรยายแล้วมองเห็นว่าเป็นความรู้เรื่องพระที่แปลกใหม่ เลยถือโอกาสนี้มาเขียนเรื่องที่ว่า เรื่องพระๆที่โยมกับพระยังไม่รู้

ทุกวันนี้เราจะได้เห็นพระหลายรูปแบบ ตามที่อาตมาได้ฟังบรรยายมาเขาแบ่ง พระเป็น 5 แบบได้แก่ 1.พระสร้าง 2.พระสวด 3.พระเสก
4.พระสอน 5.พระสงบ แล้วพอได้ความรู้จริงคิดที่จะมาอธิบายเขียนบรรยายเรื่องพระๆให้พระและโยมได้รู้

1.พระสร้าง คือบางคนอาจจะเห็นว่าพระองค์นี้ สร้างอย่างเดียว เดียวสร้างศาลา สร้างพระ สร้างโบสถ์ บางคนอาจจะมองว่าโหจะสร้างอะไรเย่อะแยะขนาดนั้น แต่หากท่านทั้งหลายมองว่าท่านสร้างไว้เพื่อนใคร ก็บอกได้ตรงนี้เลยว่าสร้างให้ให้พวกท่านทั้งหลายได้ใช้
โบสถ์สร้างไว้ทำไม ก็สร้างไว้ให้ลูกหลานของท่านได้บวช พระก็สร้างไว้ให้พวกท่านได้สักการะกราบไหว้บูชา ฉะนั้นอย่าได้ว่าพระที่คอยสร้างเลย เพราะทุกอย่างที่ท่านสร้างนั้นก็เพื่อพวกเราและท่านทั้งหลาย

2.พระสวด คือบางคนอาจจะเห็นว่าหลวงตาองค์นี้ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย นอกจากไปงานสวดมนต์ ทำบุญบ้าน สวดงานศพบ้าง สวดงานบุญบ้าง สวดอย่างเดียวไม่ค่อยจะได้ทำอะไรเลย แต่หากเรามองกลับกัน ถ้าพระท่านไม่สวดให้ญาติโยมทั้งหลายแล้วใครจะไปสวดหละ
ที่สวดก็ไม่ได้สวดผิดเพี้ยนอะไร สวดตรงตามพระบาลี ขอให้ท่านทั้งหลายอย่าได้ว่าพระสวดเลย แต่มองกลับกันว่าถ้าไม่มีพระสวดแล้ว งานอวมงคลและงานมงคลต่างๆ จะให้ใครทำหละท่าน...

3.พระเสก คือ พระเสกบางท่านอาจจะมองว่าเอ๋พระองค์นี้สร้างแต่วัตถุมงคลอย่างเดียวเลย แต่ไม่เคยมองเลยว่า โบสถ์หลังใหญ่ที่โยมได้ใช้บวชลูกบวชหลาน ก็มาจากวัตถุมงคลของท่านที่ท่านได้สร้างไว้เพื่อนสืบอายุพระพุทธศาสนา แล้วนำปัจจัยนั้นมาสร้างเป็น โบสถ์
ศาลาการเปรียญ สิ่งต่างๆล้วนมาจากเงินญาติโยมที่ศรัธธา นับว่าท่านทั้งหลายก็ได้ทำบุญด้วยในการสร้าง ฉะนั้นอย่าไปว่าพระท่านชอบเสกพระเย่อะแยะเลย ขอยกคำหลวงปู่ดู่ที่ว่า ติดในวัตถุมงคล ดีกว่าไปติดในวัตถุอัปมงคลเลย

4.พระสอน คือ พระที่คอยสอนทั้งญาติโยมและสอนพระด้วยกัน บางทีพระก็จะมองว่าพระองค์นี้สอนอย่างเดียวเลย บางทีโยมก็บอกว่าพระองค์นี้จู้จี้จุกจิกจังเลย แต่ไม่ได้มองเลยว่าที่ท่านสอนนะ เป็นการสอนที่ดีให้มองเห็นถึงการทำบาปโดยไม่รู้ตัว อาทิเช่น เวลาท่านมาที่วัดพระใช้น้ำใช้ไฟวัด บางทีพระก็สอนว่าโยมเมื่อมาใช้แล้วก็อย่าลืมทำบุญชำระหนี้สงฆ์ โยมบางท่านก็อย่ามองเลยว่าทำไมพระองค์นี้งกจังมาทำบุญก็มาทำ แล้วทำไมต้องมาใช้หนี้สงฆ์อีก ถ้าเราลองแยกกันดูว่า น้ำไฟมันเป็นของสงฆ์นั่นคือของส่วนกลาง ไม่ใช่ของสงฆ์องค์ใดองค์หนัง บางคนมาก็เหยียบเอาทรายวัดติดไป เมื่อก่อนจะมีประเพณีขนทรายเข้าวัดเพื่อชำระนี่สงฆ์นี่เอง ฉะนั้นอย่าไปว่าเลยที่พระท่านบอก ก็เพื่อให้เราได้รู้แล้วไม่ต้องไปทำอะไรที่ผิด ฉะนั้นขอให้ท่านทั้งหลายและพระต้องขอบคุณพระสอนเย่อะๆ

5.พระสงบ คือสมัยนี้พระที่บวชใหม่เข้ามาในพระพุทธศาสนามีมาก บางองค์บวช 7 วันบ้าง 10 วันบ้าง 15 วันบ้าง เมื่อบวชมาแล้วท่านยังไม่ได้มนต์บทไหน เวลาไปสวดก็ทำตัวให้สงบเข้าไว้ เวลาไปบิณฑบาตก็เดินให้สงบเข้าไว้ ท่านลองนึกภาพว่าเวลาไปสวดมนต์แล้วทำตัวยุกยิก เดินทำตัวลุ่มล่ามต่อญาติโยม แล้วโยมเขาจะศรัทธาหรือเปล่า เวลาโยมเขาเห็นเขาไม่ได้แต่ไม่ศรัทธาท่านองค์เดียว จะพลอยไปว่าพระองค์อื่นที่ท่านไม่รู้ให้โดนว่าด้วย ทำให้ศาศนามัวหมอง แต่กลับกันเวลาไปไหน ท่านสงบถึงจะสวดไม่ได้ก็หลับตาสงบ โยมเขาเห็นก็รู้ว่าพระองค์นี้บวชใหม่ ยังไม่ได้มนต์แต่มีความสงบเรียบร้อยน่าเลื่อมใส นั่นหมายถึงโยมเข้าได้เลื่อมใสในพระและศาสนาด้วย

ฉะนั้นเมื่อท่านทั้งหลายได้อ่านดูแล้วก็ขอให้ได้เจริยญๆในทางโลกทางธรรม มีความเข้าใจในพระทั้ง 5 แบบว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พระท่านทำไว้ ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่เพื่อนสืบอายุพระพุทธศาสนา ให้รุ่นลูกรุ่นหลานเรายังมีศาสนาพุทธให้ได้นับถือ คงไม่มีใครอยากเห็น
รุ่นลูกรุ่นหลานเรา ไปนับถือจอมปลอก ต้นไม้ ฉะนั้นขอให้ท่านทั้งหลายเมื่อเข้าใจแล้วก็ช่วยๆกันเจริยญพร

สุดท้ายนี้มีคำคมของท่านพุทธธาตุมาทิ้งไว้ให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณา มหาพิจารณาเอา พิจารณาตามสติปัญญาของแต่ละบุคคลดังนี้

กูว่าแล้ว โลกนี้ มีปัญหา
เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามอย่างนี้ ที่ว่ามา ไม่ผิดเลย
โปรดวางเฉย ใครถือสา ก็บ้าตาย
โดยท่าน พุทธธาตุ สาธุ สาธุ สาธุ