พระสภิยเถระ


ชาติภูมิ
ท่านพระสภิยะ มีชาติภูมิอยู่ที่ไหน เป็นบุตรของใคร ไม่ปรากฏในตำนาน ปรากฏแต่ว่าท่านเป็นปริพาชก ชื่อว่า สภิยะ สมัยเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับอยู่ที่พระเวฬุวันมหาวิหาร อันเป็นกลันทกนิวาปสถาน ในกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้นเทวดาที่เคยเป็นญาติสายโลหิตกันมาแต่ชาติก่อน ได้ผูกปัญหาให้แก่สภิยปริพาชกแล้วสั่งความว่า ดูก่อนสภิยะสมณพราหมณ์ผู้ใดแก้ปัญหาที่ท่านถามนี้ได้แล้ว ท่านพึงประพฤติพรหมจรรย์ในสำนักของสมณพราหมณ์ผู้นั้น สภิยปริพาชกเรียนเอาปัญหาในสำนักของเทวดานั้นจำได้แล้ว เที่ยวถามสมณพราหมณ์ผู้เป็นคณาจารย์ใหญ่มียศปรากฏ ชื่อเสียงในครั้งนั้น มีครูทั้งหก คือ ปูรณกัสสปะ, มักขลิโคศาล, อชิตเกสกัมพล, ปกุทธกัจจายนะ, สัญชัยเวฬัฏฐบุตร และนิคันถนาฏบุตร เป็นต้น ครูเหล่านั้นก็พากันแก้ไม่ได้แม้สักคนเดียว ซ้ำยังกลับพูดเยาะเย้ยสภิยปริพาชกมีประการต่าง ๆ เสียอีกฯ ครั้งนั้นสภิยปริพาชก เมื่อถูกครูทั้งหลายเยาะเย้ยแล้วก็เกิดความท้อใจ คิดจะกลับไปเป็นคนเลวบริโภคกามคุณ ครั้นมาหวนคิดถึงพระสมณโคดมขึ้นได้ จึงตกลงใจนะไปเฝ้า แต่ยังมีความสงสัยในใจว่า พวกสมณพราหมณ์ มีครูทั้งหกเป็นต้น ก็เป็นคนผู้เฒ่าผู้แก่ บวชมาเป็นเวลานานเป็นคณาจารย์สั่งสอนแก่หมู่ศิษย์มาก ยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ แล้วไฉนพระสมณโคดมยังเป็นเด็กอยู่ ทั้งบวชใหม่ด้วย จะแก้ปัญหานี้ได้เทียวหรือ และได้บรรเทาความสงสัยด้วยตนเองว่า ถึงแม้พระสมณโคดมจะยังเด็กเล็กอยู่ก็จริง แต่พระองค์เป็นผู้มีฤทธิ์มาก มาอานุภาพใหญ่ จึงได้เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดาที่เวฬุวันมหาวิหาร ในกรุงราชคฤห์ กราบทูลขอโอกาสถามปัญหา เมื่อพระองค์ทรงอนุญาตแล้ว ได้ทูลถามปัญหาหลายหมวดหลายตอน ในที่สุดแห่งการพยากรณ์ปัญหา สภิยปริพาชกเกิดความเลื่อมใส แล้วทูลขอบรรพชาอุปสมบทในพระธรรมวินัย พระองค์รับสั่งให้อยู่ติตถิรปริวาส (วิธีอยู่กรรมสำหรับเดียรถีย์ที่ขอบวชในพระพุทธศาสนา) ครบกำหนด ๔ เดือนแล้ว ก็ได้อุปสมบทเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา หลีกอยู่ผู้เดียวไม่ประมาท อุตส่าห์บำเพ็ญเพียรไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคลนับเข้าในพระสาวกผู้ใหญ่รูปหนึ่งฯ ท่านพระสภิยะนั้นดำรงเบญจขันธ์อยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพานฯ



ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab76.htm