พระเสลเถระ

ชาติภูมิ
ท่านพระเสละ มีชาติภูมิอยู่ที่ไหน เป็นบุตรของใคร ก็ไม่ปรากฏในตำนาน มีความชำนิชำนาญ เป็นคณาจารย์บอกไตรเพทแก่หมู่ศิษย์ประมาณ ๓๐๐ คน ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ๑๒๕๐ องค์ผู้เป็นบริวาร เสด็จจาริกไปยังอุตตราปถชนบท บรรลุถึงอาปณนิคมเสด็จประทับอยู่ ณ นิคมนั้นฯ เกณิยชฎิล ได้ยินกิตติศัพท์ว่า พระสมณโคดมศักยบุตร เสด็จออกทรงผนวชจากศากยตระกูล ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกในโลกเสด็จมา มีความประสงค์อยากจะเห็นพระองค์ จึงเข้าไปเฝ้า ครั้นได้ฟังธรรมีกถาของพระองค์แล้ว เกิดความเลื่อมใส ได้นิมนต์พระองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ เพื่อเสวยในวันรุ่งขึ้น พระองค์ทรงรับสั่งว่า ดูกรเกณิยะ ภิกษุสงฆ์ที่เป็นบริวารมากถึง ๑๒๕๐ องค์ ทั้งท่านก็ยังเลื่อมใสในลัทธิของพราหมณ์ด้วย เกณิยชฎิลทูลอ้อนวอนนิมนต์อย่างนั้นถึง ๕ ครั้ง พระองค์จึงทรงรับด้วยอาการนิ่งอยู่ เมื่อเกณิยชฎิลทราบว่าพระองค์ทรงรับแล้ว จึงถวายบังคมลากลับมาบอกแก่มิตรสหายและญาติสายโลหิตให้ช่วยกันจัดถวายพระในวันรุ่งขึ้น พวกชนเหล่านั้นต่างคนต่างช่วยกันจัดแจงตามสมควร ส่วนเกณิยชฎิลจัดแจงโรงฉันด้วยตนเองฯ สมัยนั้น เสลพราหมณ์ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสของเกณิยชฎิล พร้อมด้วยมาณพผู้เป็นศิษย์ ๒๐๐ คน เที่ยวเดินเล่นผ่านไปทางอาศรมของเกณิยชฎิล เห็นเขาจัดแจงโรงฉัน จึงไต่ถามทราบความว่านิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมทั้งภิกษุสงฆ์มาฉัน ครั้นได้ทราบอย่างนั้นแล้ว มีความประสงค์อยากจะใคร่เห็นพระองค์ ด้วยคิดว่าจะสมบูรณ์ด้วยมหาปุริสลักษณะจริงหรือไม่ จึงถามเกณิยชฎิลอีกว่า พระสมณโคดมเสด็จประทับอยู่ ณ ที่ไหน เกณิยชฎิลก็ชี้แจงทางให้ไป จึงพาศิษย์ไปเฝ้าพระบรมศาสดา สนทนาปราศรัยไปพลางตรวจดูมหาปุริสลักษณะไปพลาง เห็นมีครบบริบูรณ์ทุกอย่าง จึงเปล่งวาจาชมเชยด้วยความเลื่อมใสแล้ว พร้อมด้วยบริษัทพากันทูลขอบรรพชาอุปสมบทเวลารุ่งเช้า พระองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เสด็จไปในที่นิมนต์ เสวยเสร็จแล้วทรงอนุโมทนา ส่วนท่านพระเสละพร้อมด้วยบริษัทพากันหลีกออกจากหมู่ไม่ประมาท อุตส่าห์บำเพ็ญสมณธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ไม่นานก็ได้สำเร็จพระอรหัตผลฯ ท่านพระเสละนั้นนับเข้าในจำนวนพระสาวกผู้ใหญ่รูปหนึ่ง ท่านดำรงเบญจขันธ์อยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพานฯ



ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab77.htm