พระนาลกเถระ


ชาติภูมิ
ท่านพระนาลกะ เป็นบุตรของน้องสาวอสิตดาบส หรือกาฬเทวิลดาบส ในกรุงกบิลพัศดุ์ เมื่อครั้งพระมหาบุรุษประสูติใหม่ กาฬเทวิลดาบสไปเยี่ยมเยียน ได้เห็นพระลักษณะของพระมหาบุรุษถูกต้องตามตำราพยากรณ์ของพราหมณ์ ว่าพระองค์จะเสด็จออกทรงผนวช แล้วจัดได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกของโลก จึงมาแนะนำนาลกะผู้หลานชายให้ออกบวชประพฤติพรตตามลัทธิของพราหมณ์ คอยพระองค์อยู่ นาลกะก็กระทำตามคำแนะนำฯ

อุปสมบท – ประพฤติโนไนยปฏิบัติ
เมื่อพระมหาบุรุษเจ้าเสด็จออกทรงผนวชได้ตรัสรู้แล้ว นาลกะได้ทราบข่าว จึงเข้าไปเฝ้ากราบทูลถามปัญหาโมไนยปฏิบัติ พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ให้โดยนัยเป็นต้นว่า พึงทำจิตให้เสมอในสัตว์และบุคคลทั้งปวง อย่าโกรธอย่าโทมนัสขัดแค้นในเมื่อถูกบริภาษ เมื่อเวลาจบพยากรณ์ปัญหา นาลกะเกิดความเลื่อมใส จึงทูลขอบรรพชาอุปสมบทในพระธรรมวินัย ครั้นได้อุปสมบทแล้วทูลลาพระบรมศาสดาเข้าไปสู่ป่า อุตส่าห์พยายามทำความเพียรในโมไนยปฏิบัติอย่างอุกฤษฎ์ ไม่ทำความสนิทสนมกับชาวบ้าน ไม่ติดในบุคคลและถิ่น เป็นผู้มักน้อยในที่จะเห็น เป็นผู้มักน้อยในที่จะฟัง เป็นผู้มักน้อยในที่จะถาม ไม่ช้าไม่นานท่านก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล ท่านเป็นผู้ปฏิบัติโมไนยปฏิบัติอย่างอุกฤษฏ์ เป็นธรรมเนียมของผู้บำเพ็ญโมไนยปฏิบัติอย่างอุกฤษฏ์ จะคงมีชีวิตอยู่ได้ ๗ เดือนเป็นอย่างน้อย ๗ ปีเป็นอย่างกลาง ๑๖ ปีเป็นอย่างสูง และในศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ๆ จะมีพระสาวกผู้บำเพ็ญโมไนยปฏิบัติเพียงองค์เดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นในพระพุทธศาสนา ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โคตมะนี้ จัดว่าพระนาลกะ เป็นผู้บำเพ็ญเพียรโมไนยปฏิบัติอย่างอุกฤษฏ์ นับแต่วันที่ท่านได้บรรลุพระอรหัตผลมา ท่านดำรงชนมายุสังขารอยู่ได้เพียง ๗ เดือนเท่านั้นก็ดับขันธปรินิพพาน ด้วยอิริยาบถยืน เฉพาะพระพักตร์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ



ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab79.htm