ท่อง....ทะเลใจ

กระทู้: ท่อง....ทะเลใจ

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. lek said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ

    ความดีความเมตตาไม่มีที่สิ้นสุด
    แม้ทุกสิ่งหยุดนิ่งยังมีคุณค่าอยู่หนา
    ยิ่งดีมีประโยชน์จะยิ่งอยู่ยืนยงทุกครา
    ทุกสิ่งหล้าล้วนสัญญาหมายมั่นนิรันดร

    พระพุทธเจ้าทรงให้เมตตาทุกหย่อมหญ้า
    ให้คุณค่าทุกสิ่งเร่งเพียรศึกษาให้รอดพ้น
    ให้โอกาสทุกสิ่งรู้กายรู้ใจรู้สติเตือนในตน
    วางเส้นทางให้ค้นหานิพพานทุกท่านเทอญ
     
  2. piangfan said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ



    สวัสดีค่ะ อาจารย์เดฟ อาจารย์ดาว คุณป้าวรรณ ลุงโจ
    พี่นพกรณ์ ลุงเปา ลุงบีบี ครูวิทย์ พี่เกิดแก่ ทั่นยาย พี่โดด พี่อ๋อย
    พี่รักกี้ พี่ปลายฟ้า พี่พญามาร พี่แปดคิว คุณเล็ก คุณน้องรัก และญาติธรรมทุกท่านค่ะ



    ดั่งรักนี้ที่เป็นเช่นเดือนแรม
    เคยแฉล้มแจ่มฟ้านภาเหลียว
    เพียงเมฆามาปิดมืดมิดเชียว
    ยลเพียงเสี้ยวเปลี่ยวเหงาเคล้าน้ำตา


    สาธุค่ะ ลุงเปา พี่นพ ทั่นยาย ลุงบีบี
     
  3. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ

    ตาเปาขออกตัวไว้ก่อนนะว่า ไม่ได้เล่าเรียนมามากอะไร เพียงแต่เคยได้ยินได้ฟังมาว่า
    พระอรหันต์ที่ท่านดับขันธ์เข้าสู่นิพพานแล้วนั้น วิญญาณของท่านก็คงจบสิ้นอยู่ที่นิพพานนั่นเอง
    ไม่มีวิญญาณที่จะล่องลอยไปผุดไปเกิดหรือไปทำอะไรที่ไหนอีกแล้ว
    จบภาระการเป็นวิญญาณอยู่ที่นั่น (แหม..พูดยังกะว่าไปเคยเห็นมา...อิอิ)

    อนุโมทนากับตาเปาค่ะ ที่ได้มาร่วมสนทนาธรรมถกปัญหาธรรมกัน อืม....จากที่พี่นพกับตาเปาพูดมานั้นทั่นยายว่า
    เรากำลังเข้าใจคำว่า จุดสิ้นสุดของวิญญาณกันไปคนละด้านค่ะ คืองี้ค่ะทั่นยายเข้าใจว่า การเกิดนั้นมี รูป เวทนา
    สัญญา สังขาร วิญญาณ เมื่อตาย รูป เวทนา สังขาร สิ้นสุดลง (ในชาตินี้ ) เหลือเพียงวิญญาณ และสัญญา
    ที่ยังอยู่ แล้ววิญญาณก็หอบเอา สัญญาไปเกิดในภพภูมิใหม่ ซึ่งเป็นชาติใหม่ รูปใหม่ เวทนาใหม่ สังขารใหม่
    แต่วิญญาณเก่า สัญญาเก่าค่ะ

    แต่หากเป็นพระอริยที่บรรลุแจ้งแล้ว รูป เวทนา สัญญา สังขาร ทุกอย่างสิ้นสุดลงหมดจะเหลือเพียงวิญญาณ
    ที่บริสุทธิ์เท่านั้นเข้าสู่นิพพาน ทั่นยายจึงเข้าใจว่า วิญญาณไม่มีวันสิ้นสุดนั่นหมายถึงไม่สูญสลายแตกดับไปค่ะ
    แต่ก็ไม่กลับมาเกิดอีกแล้วเพราะไม่มีสัญญาตามไปเหนี่ยวรั้งให้ต้องมากลับมาเกิดตามสัญญาอีก
    แต่ที่พี่นพ กับตาเปาบอกว่าวิญญาณสิ้นสุดที่นิพพานนั้นหมายถึง วิญญาณไม่มีการมาเกิดอีกแล้วสิ้นสุด
    เวียนว่ายอยู่ที่นิพพานนั่นเอง อืม...คำว่าจุดสิ้นสุดนี่ถ้าพิจรณาให้ดีแล้วมีนัยยะสำคัญอยู่เหมือนกันนะ
    จุดสิ้นสุด...คือ...การดับสูญสลายไป
    จุดสิ้นสุด...คือ...หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ไปต่อ
     
  4. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ

    แหม....กำลังตอบกระทู้อยู่ดีๆเชียว แต่โดนขัดจังหวะซะง้าน ขอตอบกระทู้ต่อดีกว่า
    อืม..แต่ในสภาวะ...มึน งง สงสัย..แบบนี้คงคุยต่อไม่รู้เรื่องแน่
    งั้นขอต่อกลอนจะดีกว่า อาจจะทำให้หายมึนได้เนาะ อิ อิ อิ

    วางเส้นทางให้ค้นหานิพพานทุกท่านเทอญ (คุณlek)
    จะเจริญเพลินสุขไม่ทุกข์หนอ
    ภพชาติเวียนวนอยู่ไม่รู้พอ
    มาเถิดหนอเร่งฝีเท้าเข้านิพพาน...

    คุณเล็กขาที่แต่งมาเรียกว่าร่าย..หรือเปล่าคะ

    ***************************

    ดั่งรักนี้ที่เป็นเช่นเดือนแรม (เพียงฝัน)
    เมฆมาแซมแกมชิดปริศนา
    เดือนรูปเคียวเกี่ยวหน่วงถ่วงวิญญา
    ใจเหว่ว้าปรารถนาหาเดือนเพ็ญ...

    เพียงฝันจ๋า กลอนก็เพราะภาพประกอบก็สวยมากเชียวค่ะ
     
  5. lek said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ

    ข้าน้อยก็ไม่รู้เรียกว่าร่ายหรือมั่วๆ
    เพราะในหัวยังต้องฝึกให้ดีกว่านี้
    ปัญญาไม่ค่อยมีกลอนก็เลยไม่พาที
    สอนเป็นปีก็ไม่รู้ว่าจะเก่งขึ้นได้ไหมเอย

    ข้าน้อยต้องฝึกฝนให้มากกว่านี้ขอรับ
    สอนหน่อยได้ป่าวขอรับ ว่าแต่งยังไงดี งงขอรับ
     
  6. bb said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ

    ผังบทกลอนสุภาพ เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือปล่าวก็ ไม่รู้ ขออภัยด้วย ถ้ามีการซ้ำ
     
  7. รูปส่วนตัว ทั่นยาย

    ทั่นยาย said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ

    สวัสดีค่ะ พี่นพกรณ์ ตาเปา ทั่นบีบี ครูวิทย์ เกิดแก่ เพียงฝัน น้องโดด น้องอ๋อย
    ลัคกี้ ปลายฟ้า ทั่นพญามาร ทันแปดคิว คุณเล็ก น้องรัก และญาติธรรมทุกท่านค่ะ


    ทั่นบีบีเอาผังวางอย่างที่เห็น
    ไม่ยากเย็นจะเรียนรู้ตามครูสอน
    หากว่าชอบอรรถรสในบทกลอน
    อย่านิ่งนอนกลอนฝึกระลึกจำ..

    การเขียนกลอนม่ายยากค่ะคุณเล็กขา เพราะพื้นฐานอารมณ์
    คนเรานั้นมีความสุนทรีอยู่แล้ว การเอื้อนเอ่ยวจีให้คล้องจอง
    จึงไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก เพียงแค่คำนึงถึงฉันทลักษณ์
    นิดหน่อยก็ไปได้ฉิวแล้วค่ะ ฝึดเขียนบ่อยๆเดี๋ยวก็ดีเองค่ะ
    งั้นทั่นยายขอแนะนำศิษย์เอกของท่านสุนทรภู่ให้ได้รู้จักไว้ค่ะ
    หากมีปัญหาเรื่องการแต่งกลอนก็ลองปรึกษาได้เลยค่ะ
    พี่นพกรณ์ ทั่นบีบี ตาเปา สามทหฟารเสือผู้เลื่องชื่อ
    เป้นที่เลื่อลือในการเขียนกลอนอันได้อรรถรสยิ่งนักค่ะ

    แต่อย่ามาปรึกษาทั่นยายเลยนะคะ เพราะทั่นยายก็แต่งกลอนมั่วๆ
    เอาตัวไม่รอดเหมือนกันแหล่ะค่ะ เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก
    ขอเป็นกำลังใจให้คุณเล็กเขียกลอนได้ไพเราะยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
     
  8. piangfan said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ

    สวัสดีค่ะ อาจารย์เดฟ อาจารย์ดาว คุณป้าวรรณ ลุงโจ
    พี่นพกรณ์ ลุงเปา ลุงบีบี ครูวิทย์ พี่เกิดแก่ ทั่นยาย พี่โดด พี่อ๋อย
    พี่รักกี้ พี่ปลายฟ้า พี่พญามาร พี่แปดคิว คุณเล็ก คุณน้องรัก และญาติธรรมทุกท่านค่ะ



    ขอบคุณทั่นยายคำโตๆค่ะ ลืมขอบคุณค่ะ อิอิ!!!

    แม่นแล้วค่ะ ทั่นยายขา!! เพียงฝันเองก็มี พี่นพ ลุงเปา ทั่นยาย
    พี่เกิดแก่ พี่ปลายฟ้า ครูวิทย์ พี่โดด พระคุณเจ้าหลวงตา ลุงบีบี
    (มาช่วยขัดเกลาอันนี้ใช้กระดาษทรายเลยค่ะ)
    จนมีเพียงฝันทุกวันนี้ค่ะ หากไม่ได้อาจารย์ทั้งหลายมาช่วยไม่เหลือเพียงฝันแล้วค่ะ
    แต่บางครั้งก็ยังติดขัดสดุจขาตนเองล้มบ่อยค่ะ ล้มแล้วลุกมาใหม่ค่ะ เอิ๊กๆๆๆๆๆ

    เพียงเสี้ยวฝันพลันล่วงพร้อมดวงจิต
    ยิ้มมุมปากกายนิดผิดใดหนา
    ซุกตัวซ่อนนอนหนาวร้าวอุรา
    กี่ผืนผ้าหนานุ่มมิอุ่นเอย?


    คุณเล็กขา เป็นกำลังใจให้ค่ะ

    ขอบคุณทุกๆท่านค่ะ สาธุค่ะ
     
  9. kuwit said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ

    สวัสดีครับทุกท่าน ทั่นเปา ทั่นยาย คุณนพกรณ์ น้องลักกี้ น้องเพียงฝันและทุกท่านครับ
    นานๆๆจะได้เข้ามาเยี่ยมสักทีหนึ่งช่วงนี้เด็กกำลังสอบกลาภาคอีกแล้วครับ กับต้อไปเป็นวิทยากรเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับนาโนเทคโนโลยีให้กับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ เลยต้องเตรียมตัวมากหน่อยเพราะต้องไปให้ความรู้กับครูจากจังหวัดต่างๆครับ ก็ยังคิดถึงทุกท่านครับวันนี้เอากลอนของท่าน ศ. สียวน มาฝากครับ
    ฝนตกต้อง ตามฤดู ลงสู่พื้น
    น้ำฝนลื่น หลั่งไหล ตามไหล่เขา
    น้ำไหลลง ตรงต่ำ ทำนองเนา
    รวมกันเข้า ขังนิ่งหนอ ในบ่อนา
    จิตใจต่ำ อธรรมไหล เข้าในจิต
    ล้วนสิ่งผิด ติดขังอยู่ ดูแน่นหนา
    นำขังนาน พานเน่าเหม็น เป็นธรรมดา
    สะสมรา ไวรัสแพร่ แผ่โรคภัย
    มนุสสา แปลตามศัพท์ ว่าใจสูง
    จงชักจูง ใจตน ขึ้นบนไว้
    กิเลสฝน จะรั่วหล่น ลงเท่าใด
    ก็จะไม่ ขังค้างใจ เราได้เลย
     
  10. lek said:

    Re: ท่อง....ทะเลใจ

    ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้
    ก็ยากอยู่โยงใยช่างซับซ้อน
    กว่าจะเกิดคำให้เป็นบทกลอน
    ผู้รู้สอนสิ่งดีแนะชี้ไป...

    จะให้คล้องเหมาะเจาะตรงตามบท
    ให้งามงดเพราะพริ้งยากยิ่งไซร้...
    ขอแต่งแบบนี้ไปก่อนแต่งตามใจ
    แต่ต้องไม่ลืมทางที่ดีดีหมั่นเพียรเอย

    ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งนะขอรับ