นางสุปปิยา เอตทัคคะในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้

กระทู้: นางสุปปิยา เอตทัคคะในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. รูปส่วนตัว DAO

    DAO said:

    นางสุปปิยา เอตทัคคะในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้




    นางสุปปิยา
    เอตทัคคะในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้

    นางสุปปิยา เกิดในตระกูลหนึ่ง ในกรุงพาราณสี เมื่อเจริญวัยแล้วได้สามีผู้มีฐานะใกล้
    เคียงกัน นางเป็นผู้มีอุปนิสัยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแน่วแน่
    ต่อมา เมื่อพระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เป็นบริวาร เสด็จจาริกไปยังกรุงพาราณสี
    นางได้ทราบข่าวการเสด็จมาจึงเข้าเฝ้าพร้อมกับพุทธบริษัทอื่น ๆ ได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้วได้
    บรรลุโสดาปัตติผล
    วันหนึ่งนางได้ไปฟังธรรมที่วัด และก่อนที่จะกลับบ้านได้เดินเยี่ยมเยือนพระภิกษุภายใน
    วัดนั้น พบพระภิกษุอาพาธรูปหนึ่ง ได้ถามอาการของท่านแล้วจึงถามต่อไปว่า:-
    “ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระคุณเจ้าต้องการสิ่งใดบ้าง ?”
    “อุบาสิกา อาตมาต้องการอาหารที่มีเนื้อจ้ะ”
    “เอาเถาะ พระคุณเจ้า ดิฉันจะจัดมาถวายตามที่พระคุณเจ้าต้องการ”
    เฉือนเนื้อตัวเองถวายพระ
    วันรุ่งขึ้น นางได้ใช้ให้ทาสีไปหาซื้อเนื้อที่ตลาด ปรากฏว่าวันนั้นทั่วทั้งตลาดไม่มีเนื้อ
    เหลืออยู่เลย นางทาสีจึงกลับมามือเปล่า อุบาสิกาเมื่อไม่มีเนื้อจะปรุงอาหารถวายพระก็ร้อนใจ
    ว่า:-
    “เราได้บอกกับพระคุณเจ้าไว้ว่า จะจัดอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อมาถวาย ถ้าเราไม่มีส่งไป
    พระคุณเจ้าก็จะลำบาก ควรที่เราจะส่งเนื้ออย่างใดอย่างหนึ่งไปถวาย”
    เมื่อนางคิดดังนั้นแล้วก็เข้าไปในห้อง ใช้มีดเฉือนเนื้อที่ขาของตนเองออกมาก้อนหนึ่ง
    แล้วส่งให้นางทาสีจัดการปรุงอาหาร พร้อมทั้งสั่งให้นำไปถวายพระคุณเจ้าที่วัด ถ้าพระคุณเจ้า
    ถามถึงก็ให้บอกว่าอุบาสิกาเป็นไข้
    นางทาสีก็ทำตามที่อุบาสิกาผู้เป็นนายสั่งทุกประการ
    พระบรมศาสดาเมื่อทรงทราบว่านางสุปปิยาไม่สบาย ครั้นวันรุ่งขึ้นจึงพร้อมด้วยภิกษุ
    สงฆ์เป็นบริวารเสด็จไปยังบ้านของนางสุปปิยาอุบาสิกา นางเมื่อทราบว่าพระผู้มีพระภาคเสด็จ
    มา ได้ปรึกษากับสามีว่า ตนไม่สามารถที่จะเข้าเฝ้าถวายการต้อนรับได้ ขอให้สามีจัดการกราบทูล
    อาราธนาพระบรมศาสนาให้ประทับนั่ง ณ ที่อันควรแล้วถวายพระกระยาหาร
    พระบรมศาสดา เสด็จมาถึงบ้านของนางสุปปิยา ประทับนั่งบนพุทธอาสน์ที่จัดไว้แล้ว
    ตรัสถามถึงนางสุปปิยาว่า:-
    “อุบาสก นางสุปปิยาไปไหน ?”
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นางเป็นไข้นอนอยู่ในห้อง พระเจ้าข้า”
    “จงเรียกนางมาเถิด อุบาสก”
    นางสุปปิยา นอนอยู่ในห้องได้ยินพระพุทธดำรัสที่ตรัสกับสามีโดยตลอดจึงคิดว่า “พระ
    บรมศาสดา ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณสงเคราะห์เกื้อกูลแก่ชาวโลกทั้งปวง คงจะทรงทราบเหตุ
    เรื่องราวของเราแล้วจึงรับสั่งเรียกหา” เมื่อคิดดังนี้แล้ว เกิดปีติปราบปลื้มลืมความเจ็บปวด จึงรีบ
    ลุกขึ้นจากเตียง โดยเร็วด้วยหวังจะเข้าเฝ้า ทันใดนั้น เหตุอัศจรรย์อันเกิดจากพุทธานุภาพ บาด
    แผลที่ขาของนางก็หายสนิท ผิวราบเรียบไม่มีร่องรอยของบาดแผล ผิวพรรณผ่องใสยิ่งกว่าเดิม
    นางยิ่งเกิดปีติศรัทธามากขึ้น รีบจัดแจงแต่งกายเรียบร้อยแล้วออกมาเข้าเฝ้า กราบถวายยังคมด้วย
    เบญจางคประดิษฐ์แล้วนั่ง ณ ที่อันควรแก่นตน
    พระพุทธองค์ทรงพระดำริว่า “อุบาสิกานี้ไม่สบายด้วยเหตุอุไรหนอ” ดังนี้แล้วจึงได้
    ตรัสถาม นางสุปปิยา ก็ได้กราบทูลเรื่องราวที่ตนกระทำทั้งหมดให้พระพุทธองค์ได้ทรงทราบ


    ทรงบัญญัติสิกขาบทห้ามภิกษุฉันเนื้อมนุษย์
    พระบรมศาสดาครั้งเสร็จกิจแล้วเสด็จกลับพระวิหารรับสั่งให้ประชุมสงฆ์แล้วทรงตำหนิ
    ภิกษุรูปนั้นเป็นอย่างมากแล้ว ทรงบัญญัติสิกขาบทห้ามภิกษุฉันเนื้อมนุษย์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
    ต่อมาพระบรมศาสดาขณะประทับอยู่ ณ พระเชตะวันมหาวิหาร เมื่อทรงสถาปนา
    อุบาสิกาทั้งหลายในตำแหน่งต่าง ๆ ได้ทรงปรารภอุปนิสัยศรัทธาของนางสุปปิยาแล้ว ได้ทรง
    สถาปนานางไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่า อุบาสิกาทั้งหลายในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้
    เนื้อที่ภิกษุฉันไมได้ ๑๐ อย่าง
    ๑. เนื้อมนุษย์
    ๒. เนื้อช้าง
    ๓. เนื้อม้า
    ๔. เนื้อสุนัข
    ๕. เนื้องู
    ๖. เนื้อราชสีห์
    ๗. เนื้อหมี
    ๘. เนื้อเสือโคร่ง
    ๙. เนื้อเสือดาว
    ๑๐. เนื้อเสือเหลือง

    สัตว์ที่ภิกษุไม่ควรฉัน ๔ ประเภท
    ๑. สัตว์ที่เห็นเขาฆ่า
    ๒. สัตว์ที่ได้ยินเขาฆ่า
    ๓. สัตว์ที่เขาจงใจฆ่าให้ฉัน
    ๔. สัตว์ที่เลี้ยงไว้เอง




    ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.84000.org/one/4/07.html





    สิ้นทุกข์สุขที่แท้จึงได้พบพาน
     
  2. รูปส่วนตัว Butsaya

    Butsaya said:

    Re: นางสุปปิยา เอตทัคคะในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้

    เอตทัคคะ หมวดอุบาสิกา - นางสุปปิยา
    เอตทัคคะในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้




    ให้เสียงโดย : พระมหาธีรนาถ อคฺคธีโร

    ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เข้ามารับชมรับฟังแล้วเกิดกุศลจิตทุกท่านค่ะ
    ขอขอบคุณที่มาของการอัปโหลด :: โดย hiphoplanla
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย Butsaya : 06-02-2012 เมื่อ 08:28 AM

    ธรรมมีทุกหย่อมหญ้า.......สำหรับผู้มีปัญญา