กนิษฐา วิเชียรเจริญ

กระทู้: กนิษฐา วิเชียรเจริญ

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. รูปส่วนตัว DAO

    DAO said:

    กนิษฐา วิเชียรเจริญ






    คุณหญิงกนิษฐา วิเชียรเจริญ
    จากบทความเรื่อง

    สิ้นแม่ชีคุณหญิงกนิษฐา วิเชียรเจริญ

    สิ้นประทีปส่องทางสตรีไร้ที่พึ่งพา

    ที่มา: นสพ.มติชน 14 พ.ค.45
    คัดลอกจาก http://www.phrathai.net/article/show.php?No=45051401

    ในบรรดานักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ไม่ว่าจะเพื่อให้สตรีได้มีบทบาทและได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียมชาย หรือเพื่อให้สตรีที่ถูกข่มเหงเอาเปรียบในสังคม ไร้ที่พึ่งพา ได้มีที่พึ่งพิงและมีชีวิตที่ดีขึ้น

    แม่ชีคุณหญิงกนิษฐา วิเชียรเจริญ นับเป็นผู้ที่มีบทบาทโดดเด่นคนหนึ่ง ไม่ว่าจะในฐานะอดีตนายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมาย อดีตนายกสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ผู้ริเริ่มโครงการจัดตั้งบ้านพักฉุกเฉินสำหรับสตรีและเด็กที่ตกทุกข์ได้ยาก หรือล่าสุดในฐานะที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการก่อวิทยาลัยแม่ชีแห่งแรกของประเทศในชื่อ มหาประชาบดีเถรีวิทยาลัย เพื่อเป็นสถานที่ให้การศึกษาและยกสถานภาพของแม่ชีไทย หลังจากที่ได้ตัดสินใจเดินเข้าสู่หนทางธรรม บวชชีและอุทิศตนให้กับผู้ด้อยโอกาสในสังคมอย่างเป็นรูปธรรมตลอด 9 ปีที่ผ่านมา

    และเมื่อคืนวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประทีปดวงหนึ่งของสตรีและเด็กผู้ยากไร้ ก็ได้ดับลงแล้วอย่างสงบตามครรลองแห่งธรรมด้วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี สิริรวมอายุได้ 82 ปี

    แม่ชีคุณหญิงกนิษฐา เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2463 ในครอบครัว "สามเสน" บิดาเป็นทนายความและคหบดีที่เป็นที่ยอมรับคนหนึ่งในสังคมยุคนั้น จนได้รับแต่งตั้งให้มีบทบาทเสมือนวุฒิสมาชิกคนหนึ่งในยุคหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ใหม่ๆ จึงไม่น่าแปลกที่ได้สนับสนุน 2 บุตรสาว คือ น.ส.กนก และ น.ส.กนิษฐา สามเสน เรียนต่อด้านบัญชีและกฎหมายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง หลังจบมัธยมปลายจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ในยุคที่สตรีไม่ค่อยจะได้รับการสนับสนุนให้เรียนสูงๆ นักด้วยเห็นว่าไม่จำเป็น

    ใครจะคิดว่าในสมัยที่เป็นนักศึกษาสาวเพียงหนึ่งใน 10 คน ของผู้เรียนกฎหมายในชั้นปีเดียวกันสมัยนั้นกว่า 300 คน แม่ชีคุณหญิงกนิษฐาเคยเป็นดาวเด่น ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์มาแล้ว

    ทั้งยังเป็นผู้หญิงที่ไม่ยอมอยู่ในกรอบเดิมๆ ที่สังคมไทยยุคนั้นกำหนดให้ หากแต่ได้ก้าวไปเรียนรู้โลกกว้างเพียงลำพัง นับตั้งแต่จบจากธรรมศาสตร์ โดยอาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้หญิงไทยรุ่นแรกๆ ที่ไปเรียนต่อต่างประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบ โดยมุ่งไปที่สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้วยฝันที่อยากจะเป็นทูต

    แม้ถึงที่สุดแล้วจะไม่ได้ดีกรีด้านนี้มาเป็นเรื่องเป็นราว เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการลุยเดี่ยวผจญภัยในต่างแดนทั้งอเมริกาและยุโรปเสียมากกว่า แต่ประสบการณ์ที่ได้รับก็มีคุณค่าพอที่กระทรวงการต่างประเทศจะอ้าแขนต้อนรับเข้าทำงาน สมกับที่เคยใฝ่ฝัน

    และที่นี่เองแม่ชีคุณหญิงกนิษฐาได้พบรักกับ ด๊อกเตอร์อดุลย์ วิเชียรเจริญ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่รับราชการอยู่ที่นี่ก่อน จนได้ร่วมชีวิตและมีพยานรักด้วยกัน 3 คน ซึ่งหลังจากลาออกจากงานเพื่อทุ่มเทดูแลลูกอยู่ 3 ปี แม่ชีคุณหญิงกนิษฐาก็เริ่มงานใหม่ที่บริษัทสแตนดาร์ด แวคคัม ออยล์ หรือเอสโซ่ในปัจจุบัน ก่อนที่จะมาอยู่ที่องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว และในที่สุดก็มาอยู่ที่องค์การยูซอม และเป็นเลขาธิการสมาคมไทยอเมริกันอยู่ยาวนานถึง 21 ปี

    ระหว่างนั้นเองที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายไปด้วย โดยภารกิจหลักคือระดมนักกฎหมายสตรีมาให้บริการเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้ประชาชนฟรีทุกวันเสาร์ โดยขอยืมใช้สถานที่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั่นเอง และนั่นคือที่มาของการรับรู้ปัญหาของสตรีที่ลึกซึ้งและรอบด้านมากขึ้น ประกอบกับช่วงที่อยู่ต่างประเทศและทำงานกับกระทรวงการต่างประเทศ ได้เห็นผลสำเร็จของการจัดตั้งบ้านพักฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่ถูกเอาเปรียบในสังคม แม่ชีคุณหญิงกนิษฐาจึงริเริ่มจัดตั้งบ้านพักฉุกเฉินขึ้นบ้าง โดยเปิดบ้านตัวเองเป็นที่รองรับ จน 16 เดือนให้หลัง เมื่อได้รับการสนับสนุนที่ดินกว่า 20 ไร่ บริเวณทุ่งสีกัน ดอนเมือง จากผู้มีศรัทธา และได้งบประมาณสนับสนุนจากองค์กร หน่วยงานต่างๆ มากพอ จึงได้มีการจัดสร้างบ้านพักฉุกเฉิน ศูนย์ศึกษาและฝึกอาชีพสตรี สถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายเพื่อการพัฒนา และคลินิกเพื่อรับปรึกษาปัญหาสุขภาพผู้หญิง ขึ้นในบริเวณเดียวกัน

    จนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2536 จึงตัดสินใจบวชเป็นแม่ชี ระหว่างที่ไปร่วมประชุมสตรีชาวพุทธสากล ครั้งที่ 3 ที่ประเทศศรีลังกา ตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่สาวๆ เพื่อมุ่งศึกษาพุทธธรรมและอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างจริงจังโดยมีภาพของแม่ชีคาทอลิกเป็นแบบ และยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสถานภาพแม่ชีไทยให้ได้รับการศึกษาและได้รับการยอมรับ จนในที่สุด'วิทยาลัยมหาประชาบดีเถรีวิทยาลัย'ก็ได้ก่อตั้งขึ้นโดยสังกัดคณะศาสนาและปรัชญา ของมหาวิทยาลัยมหามงกุฎราชวิทยาลัย

    ตลอดชีวิตที่ผ่านมา แม่ชีคุณหญิงกนิษฐาได้สร้างคุณูปการต่อสังคมมากมาย ได้รับการเชิดชูและยกย่องทั้งในระดับประเทศและระดับโลก และขณะนี้ชีวิตได้ก้าวสู่ความสงบแห่งเส้นทางธรรมจนสุดทางแล้ว



    มีต่อคะ





    สิ้นทุกข์สุขที่แท้จึงได้พบพาน
     
  2. รูปส่วนตัว DAO

    DAO said:

    Re: กนิษฐา วิเชียรเจริญ




    แม่ชีคุณหญิงกนิษฐา วิเชียรเจริญ

    ผู้หญิง…..ผู้อุ้มชูผู้หญิง

    คัดลอกจาก http://www.apsw-thailand.org/Kwprofile1.html

    แม่ชีคุณหญิงกนิษฐา วิเชียรเจริญ เกิดเมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๔๖๓ ในสกุลสามเสน ได้รับปริญญาธรรมศาสตร์บัณฑิต ในปีพ.ศ. ๒๔๘๘ แล้วศึกษาต่อด้านความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศใน American University , Columbia University ณ ประเทศ สหรัฐอเมริกา และ Geneva University ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ประกอบกับเป็นผู้สนใจ งานด้านสังคมสงเคราะห์ จึงศึกษาเพิ่มเติมใน Howard University ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วเริ่มต้นทำงานที่กรมสหประชาชาติ กระทรวงต่างประเทศ ,องค์การ USOM (ปัจจุบันคือ UNAID) , บริษัทแสตนดาร์ดแวคคัมออยส์จำกัด (ปัจจุบันคือ ESSO) , องค์การส่งเสริม การท่องเที่ยว (ปัจจุบันคือ ททท.) ตามลำดับ

    นอกจากงานประจำแล้ว ท่านยังได้ทำงานเพื่อสังคมอีกหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะงานด้านสังคมสงเคราะห์และงานด้านศาสนา ด้วยการเป็นประธานกรรมการ / กรรมการที่ปรึกษา ให้แก่คณะทำงานและองค์การต่างๆ เช่น

    นายกสมาคมสตรีนานาชาติแห่งประเทศไทย ,

    นายกสมาคมสวัสดิการเด็กในประเทศไทย ,

    คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ ,

    คณะอนุกรรมาธิการกิจการเยาวชนรัฐสภา ,

    คณะกรรมการประสานงานป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ ,

    คณะกรรมาการที่ปรึกษาสมาพันธ์ศาสนสัมพันธ์เพื่อสันติภาพแห่งประเทศไทย ,

    นายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทยฯ

    ร่วมก่อตั้งสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ , ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และ มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัยฯ ฯลฯ

    จากประสบการณ์ชีวิตและทำงานของแม่ชีคุณหญิงกนิษฐา ทำให้ท่านมองเห็นการเลือกปฏิบัติ ต่อสตรีและความเหลื่อมล้ำระหว่างเพศอันนำไปสู่การริดรอนสิทธิส่วนบุคคล เอารัดเอาเปรียบ ผู้หญิงและเด็กในหลายลักษณะ เช่น ล่อลวง ข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศ บังคับให้ค้าประเวณี จนนำไปสู่ปัญหาท้องเมื่อไม่พร้อม บ้างก็ถูกทารุณกรรม ทอดทิ้ง ติดเชื้อ HIV/AIDS จากบุคคลในครอบครัว ฯลฯ

    แม่ชีคุณหญิงกนิษฐาจึงตั้งปณิธานไว้ว่า นับจากนี้บทบาทของผู้หญิงในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองต้องเปลี่ยนแปลง ท่านจึงได้เริ่มงานส่งเสริมสถานภาพสตรีทางด้านกฎหมาย ด้านสังคมสงเคราะห์ และด้านศาสนาตามลำดับ

    นอกจากจะส่งเสริมสถานภาพสตรีด้วยการรณรงค์ให้เกิดการทบทวน / แก้ไขกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้หญิงและเด็กแล้ว แม่ชี คุณหญิงกนิษฐายังเห็นว่าควรจะมีการให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้หญิง โครงการจัดตั้งบ้านพักฉุกเฉิน เพื่อเป็นที่พักพิงของผู้หญิงที่ประสบปัญหาเดือดร้อนจึงเริ่มต้นขึ้นที่บ้านท่าน ต่อมาเมื่อสถานที่คับแคบ เพราะมีผู้เดือดร้อนมาขอรับ ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ท่านจึงได้หาที่ทำการใหม่ และจดทะเบียนเป็น สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บ้านพักฉุกเฉิน ได้เป็นที่พักพิงชั่วคราวของผู้หญิงและเด็กที่ประสบปัญหาครอบครัว ท้องเมื่อไม่พร้อม ติดเชื้อ HIV/AIDS ฯลฯ ประมาณวันละ ๑๕๐-๒๐๐ คน ทั้งนี้แต่ละคนจะได้รับการดูแลจากนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาตามหลัก สังคมสงเคราะห์

    เมื่อมีบ้านพักฉุกเฉินเป็นที่พึ่งเพื่อบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้า แม่ชีคุณหญิงกนิษฐายังเห็นว่าการศึกษาเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยพัฒนา คุณภาพชีวิตได้ ท่านจึงได้ตั้ง ศูนย์การศึกษาและฝึกอาชีพสตรี ซึ่งเปิดการเรียนการสอนทางไกลสายสามัญในระดับชั้นมัธยมศึกษาและ เสริมหลักสูตรวิชาชีพ ให้แก่สมาชิกบ้านพักฉุกเฉินและผู้สนใจทั่วไป

    เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยม และสร้างการตระหนักรับรู้เกี่ยวกับมิติหญิงชาย แม่ชีคุณหญิงกนิษฐาจึงได้ร่วมกับคุณหญิงกนก สามเสน วิล และ ดร. สุธีรา วิจิจตรานนท์ ก่อตั้งสถาบันวิจัยบทบาท หญิงชายและการพัฒนา เพื่อดำเนินการวิจัยเชิงปฏิบัติการ และรณรงค์ ในระดับนโยบายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของสตรีให้มีส่วนร่วม ใน กระบวนการตัดสินใจทุกระดับ อันจะนำไปสู่ความเสมอภาคระหว่าง หญิงชายในสังคม

    นอกจากนี้ แม่ชีคุณหญิงกนิษฐายังเห็นว่าเยาวชนเป็นพลังสำคัญของชาติ ท่านจึงได้ก่อตั้งศูนย์เยาวชนดอนเมืองร่วมพัฒนาสังคมไทย เพื่อฝึก อบรมเยาวชนให้เป็นผู้นำ กล่อมเกลาให้มีทัศนคติที่ถูกต้องเหมาะสม เคารพในความเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ เท่าเทียมกัน อีกทั้ง ปลูกฝังจิตสำนึกให้รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม

    แม้จะทำงานส่งเสริมสถานภาพสตรีมาแล้วหลายลักษณะทั้งด้านกฎหมายและงานสังคมสงเคราะห์ แต่แม่ชีคุณหญิงกนิษฐาก็ยังเห็นว่าผู้หญิงขาดโอกาสในการศึกษาธรรมอยู่มาก ท่านจึงได้ก่อตั้ง มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย วิทยาลัยการศึกษาพระพุทธศาสนาสำหรับสตรีแห่งแรกในประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้แม่ชีเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ

    เผยแพร่ธรรมะ กล่อมเกลาจิตใจให้แก่ ประชาชนได้ใช้ธรรมะในชีวิตประจำวัน

    ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเททำงานตลอด ๕๒ ปี ทำให้แม่ชีคุณหญิงกนิษฐาได้รับยกย่องอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ว่าเป็นบุคคลที่อุทิศตนเพื่อสังคมอย่างแท้จริงดังจะเห็นได้จากการได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทุติยจุลจอมเกล้า , เป็น ๑ ใน ๑๐ คนที่ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นของโลก , เป็น ๑ ใน ๕ คนที่ได้รับรางวัล Sacred Souls Award , ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนา , ได้รับโล่เกียรติคุณในฐานะบุคคลที่มีผลงานและบทบาทดีเด่นสาขาแก้ไขปัญหาโสเภณี อีกทั้งยังได้รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาพัฒนาสังคม) และปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์




    ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.dharma-gateway.com/ubasik...-main-page.htm





    สิ้นทุกข์สุขที่แท้จึงได้พบพาน