ชวนกันไปปฏิบัติธรรม

กระทู้: ชวนกันไปปฏิบัติธรรม

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. รูปส่วนตัว Butsaya

    Butsaya said:

    ชวนกันไปปฏิบัติธรรม

    อยากทราบการที่เราชวนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ พากันไปปฏิบัติธรรม
    ถ้าเราแยกแยะทางธรรมนี่จะเกี่ยวข้องกับข้อธรรมส่วนไหนบ้างอะค่ะ
    สำหรับคนชวน และคนที่ไปปฏิบัติธรรมด้วยกันนะคะ และถ้ามีการเลือกสถานที่ 2 แบบคือ มีตารางปฏิบัติแบบเข้มงวด กะ ไปแบบสบาย ๆ แล้วมีสอนบ้างแต่เป็นบางช่วงเวลา เราควรเลือกที่จะไปแบบไหนดีอะค่ะ ที่จะทำให้เราได้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นมงคลกับเราอะค่ะ

    ธรรมมีทุกหย่อมหญ้า.......สำหรับผู้มีปัญญา
     
  2. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: ชวนกันไปปฏิบัติธรรม


    ปฏิบัติธรรม ก็คือการประพฤติตามธรรม
    ได้แก่การประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ดีงาม
    ประพฤติตามพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา

    ขณะที่มีการสละให้เป็นทาน
    ขณะนั้นก็เป็นการประพฤติปฏิบัติธรรม...ในขั้นทาน

    ขณะที่ละเว้นจากการกระทำทุจริตกรรมต่างๆ
    ขณะนั้นก็เป็นการประพฤติปฏิบัติธรรม...ในขั้นศีล

    ขณะใดที่มีการเจริญความสงบของจิตจากอกุศลต่างๆ
    หรือเจริญความรู้ความเข้าใจ ให้เกิดความเห็นถูกต้องตรงตามความเป็นจริงของสภาพธรรม
    เข้าใจถูกในสภาพธรรมทั้งหลายที่กำลังปรากฎ
    ขณะนั้นก็เป็นการประพฤติปฏิบัติธรรม...ในขั้นภาวนา (ภาวนา หมายถึงทำให้มีขึ้น เพิ่มขึ้น เจริญขึ้น)

    ดังนั้น บุคคลใดที่มีความประพฤติดีงาม ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน
    บุคคลนั้นก็ชื่อว่าเป็นผู้ ปฏิบัติธรรม
    ส่วนจะปฏิบัติได้มากหรือน้อย
    ปฏิบัติในธรรมขั้นพื้นฐาน หรือ ขั้นขัดเกลาละเอียดยิ่งขึ้น
    ก็ย่อมเป็นไปตามกำลังของแต่ละบุคคลน่ะคับ




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  3. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: ชวนกันไปปฏิบัติธรรม


    ในการดำเนินชีวิตประจำวันซึ่งเราต้องพบปะเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย
    เราสามารถที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นในรูปแบบต่างๆ
    สามารถที่จะละเว้นการกระทำทุจริตกรรมต่างๆ
    แม้ในขณะที่นั่ง นอน ยืน เดิน เดินทาง ทำกับข้าว รับประทานอาหาร
    อาบน้ำ ซักผ้า กวาดบ้าน แชท หรือประกอบกิจการงานต่างๆ ฯลฯ
    ก็สามารถที่จะเจริญกายานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา
    เจริญพรหมวิหารธรรม เจริญอนุสติ เจริญอาหาเรปฏิกูลสัญญา ฯลฯ
    และอื่นๆ ตามอัธยาศัย เป็นต้น

    ดังนี้แล้ว ทุกขณะในชีวิตประจำวันก็คือการประพฤติปฏิบัติในธรรม
    และสำหรับบางท่านที่พอมีเวลาว่างจากภารกิจ เช่น วันหยุด วันพักร้อน
    สามารถที่จะหยุดพักภารกิจต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ชั่วระยะหนึ่ง
    แทนที่จะใช้เวลาส่วนตัวนั้นไปกับสิ่งที่ไม่ใช่สาระอันเป็นประโยชน์
    ก็อาจน้อมไปในสัปปายะ เช่น วัด หรือ สำนักธรรมต่างๆ
    ซึ่งแต่ละที่ก็อาจมีข้อกำหนดต่างๆ ของสถานที่นั้นๆ
    เมื่อเราไปอยู่ในที่นั้น ก็พึงกระทำตามข้อปฏิบัติของสถานที่นั้น
    ซึ่งก็คือการประพฤติปฏิบัติในธรรม
    ตามข้อวัตรปฏิบัติที่กำหนดขึ้นในสถานที่แห่งนั้น

    จึงเห็นได้ว่า
    ไม่มีการแบ่งแยกว่าเฉพาะผู้ที่ไปสำนักปฏิบัติ คือผู้ปฏิบัติธรรม
    ส่วนผู้ที่ไม่ได้ไป ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติธรรม
    หรือ เฉพาะผู้ที่นั่งกรรมฐาน เดินจงกรม คือ ผู้ปฏิบัติธรรม
    ส่วนผู้ที่ไม่ได้นั่งหลับตา เดินวนครบรอบ ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติธรรม
    เหล่านี้เป็นการแบ่งแยกกันเอาเอง เพราะไม่เข้าใจคำว่า ปฏิบัติธรรม




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  4. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: ชวนกันไปปฏิบัติธรรม


    สำหรับการเลือกสถานที่ไหน
    มีข้อวัตรเข้มงวด หรือ สบายๆ
    ก็ย่อมแล้วแต่อัธยาศัยของผู้นั้นเองอ่ะคับ

    หากเป็นผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับข้อกำหนดต่างๆ มากมาย
    ก็อาจลองไปในที่ที่มีข้อกำหนดไม่มากมายนัก
    แต่หากเป็นผู้ที่ปรับตัวง่าย หรือ อยากรู้ว่าข้อกำหนดต่างๆ นั้นเป็นอย่างไร
    ก็อาจลองไปที่ที่เราว่าเข้มงวดก็ได้

    ทั้งนี้ ความเพียรย่อมเกิดได้ทุกที่
    ที่เข้มงวดก็ช่วยให้เกิดความเพียร
    เพียรที่จะรักษา กาย วาจา ใจ ให้อยู่ในข้อวัตรปฏิบัติ
    ที่สบายๆ ก็ต้องอาศัยความเพียร
    เพียรที่จะไม่เผลอไผลแล่นไหลไปตามกิเลส...ตามอำเภอใจตน

    ประโยนช์ที่เกิดสูงสุดคือ
    ไปที่ไหนก็ตาม เพื่อลดละคลาย โลภะ โทสะ โมหะ และอกุศลทั้งหลาย
    มิใช่ไปเพื่อเพิ่มความติดข้องต้องการให้ได้ดังใจ
    หรือไปเพื่อเพิ่มความขุ่นข้องขัดเคืองเมื่อไม่ได้ดังใจ
    และไม่ว่าจะไปที่ไหน เมื่อกลับมาดำเนินภารกิจในชีวิตประจำวัน
    ก็สามารถสืบเนื่องต่อกันไปได้
    ไม่ใช่ไป 3 5 7 9 วัน พอกลับมากิเลสก็ฟูฟ่องต่อไปอ่ะคับ




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย