ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

กระทู้: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. starter said:

    ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

    กราบนมัสการหลางพ่อนะครับ
    กระผมตกงานเเละไม่มีรายได้ มานาน มีสภาพความเป็นอยู่ไม่ต่างอะไรกับสุนัขตัวหนึ่ง หันหน้าไปหาใคร มีเเต่คนหลบหน้าไม่มีใครอยากจะคุยด้วย หนี้สินรุมเร้า เเทบจะไม่มีที่อยู่ เคยคิดอยากฆ่าตัวตายเเต่ก็สงสารพ่อเเม่ กลัวไม่มีคนเลี้ยงท่าน หากไม่คิดว่ากระทำลงไปแล้วผิดศิล กระผมคงยืมตังหลวงพ่อ หรือไม่ก็คงจะขอข้าววัดทาน เเล้ว หลวงพ่อ พอจะมีคำเเนะนำหรือพอจะช่วยเหลือกระผมหาทางออกได้หรือเปล่าครับ
     
  2. Rakdeawjaideaw said:

    Re: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

    [quote=starter ]
    กราบนมัสการหลางพ่อนะครับ
    กระผมตกงานเเละไม่มีรายได้ มานาน มีสภาพความเป็นอยู่ไม่ต่างอะไรกับสุนัขตัวหนึ่ง หันหน้าไปหาใคร มีเเต่คนหลบหน้าไม่มีใครอยากจะคุยด้วย หนี้สินรุมเร้า เเทบจะไม่มีที่อยู่ เคยคิดอยากฆ่าตัวตายเเต่ก็สงสารพ่อเเม่ กลัวไม่มีคนเลี้ยงท่าน หากไม่คิดว่ากระทำลงไปแล้วผิดศิล กระผมคงยืมตังหลวงพ่อ หรือไม่ก็คงจะขอข้าววัดทาน เเล้ว หลวงพ่อ พอจะมีคำเเนะนำหรือพอจะช่วยเหลือกระผมหาทางออกได้หรือเปล่าครับ



    ขอโอกาสพระอาจารย์ด้วยขอรับ

    อยากบอกคุณ starter นะครับว่า คุณไม่ใช่คนแรกที่ตกงานนะ ยังมีคนอีกเยอะนะที่ตกอยุ่ในสถานการณ์เดียวกับคุณ ไม่ใช่คุณคนแรกที่ไม่มีเงิน ไม่มีใครอยากพบหน้า เพราะทุกคนก็เดือดร้อนเอาตัวเองไม่รอดเหมือน ๆ กัน สาธุนะครับที่เคยคิดอกุศล การได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานี่ยากมาก ๆนะ ถ้าฆ่าตัวตาย

    ก็เท่ากับตัดแขนตัดขาพ่อแม่ไปเลยทีเดียว สำหรับคนที่รุ้คุณพ่อแม่ คุณยังเป็นคนมีจิตสำนึกดี ยังคิดเลี้ยงดูตอบแทนพ่อแม่ ความดีตรงนี้แหละไม่นานคุณก็จะได้งาน อย่าหวั่นอย่าท้อ คุณไม่ได้เกิดมาโดยมีทุกสิ่งทุกอย่าง วันที่คุณจากไปคุณก็จะไม่ได้เอาอะไรไปสักอย่าง วันนี้คุณต้องมีกำลังใจให้ตัวเอง เพื่อพ่อและแม่เพือชีวิตที่ยังเหลืออยู่เป็นกำลังใจให้นะครับ สุ้ ๆ
     
  3. *8q* said:

    Re: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

    ตอนนี้อย่าพึ้งเลือกงานครับมีไรทำได้ก็ทำไปก่อน

    จะได้เงินมาจุนเจือครอบครัวครับ


    ๔๒. ทำไมจึงเป็นคนอาภัพ[JUSTIFY] ถาม คนอาภัพ เกิดจากสาเหตุอะไร ทุกวันนี้ผมมีปมด้อยมาก เพราะเป็นคนอาภัพ ไม่ค่อยมีเพื่อนฝูง

    ตอบ คำว่า คนอาภัพ ในทางโลกกับทางธรรมนั้นไม่เหมือนกัน คนอาภัพทางโลกนั้นคือคนที่อยากได้อะไรหรืออยากเป็นอะไรแล้วก็ไม่สมหวัง อยากมีเพื่อนฝูงอย่างคุณผู้ถามเป็นต้น ก็ไม่ค่อยมี แล้วก็กล่าวว่าเป็นคนอาภัพ นี่เป็นความหมายของคนอาภัพทางโลก
    แต่คนอาภัพทางธรรมนั้น หมายถึงคนที่ไม่อาจบรรลุมรรคผลในชาตินี้ ท่านเรียกว่า อภัพพบุคคล ได้แก่คน ๔ ประเภทคือ
    ๑. คนที่เกิดด้วยอุเบกขาสันตีรณะอเหตุกกุศลวิบาก คือเกิดด้วยปฏิสนธิจิตที่เป็นผลของกุศลที่ไม่มีเหตุประกอบ เป็นกุศลที่มีกำลังอ่อน เกิดเป็นบ้าใบ้ ตาบอด หูหนวก ปัญญาอ่อนมาแต่กำเนิด คนพวกนี้เป็นคนอาภัพเพราะไม่อาจบรรลุมรรคผลได้ แม้จะได้หันเหชีวิตมาเจริญมรรคมีองค์ ๘ ก็ตาม
    ๒. คนที่ทำกรรมหนักชนิดที่เรียกว่าอนันตริยกรรม คือฆ่าแม่ ฆ่าพ่อ ฆ่าพระอรหันต์ ทำโลหิตพระพุทธเจ้าให้ห้อ ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน คนที่ทำกรรม ๕ อย่างนี้ แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านเรียกว่าอภัพพบุคคล เพราะแม้จะฉลาดอย่างไรก็ไม่อาจบรรลุมรรคผลได้ เพราะได้ทำกรรมหนักที่จะต้องนำไปสู่นรกทันทีเมื่อตายลง กรรมดีใดๆ ไม่อาจขวางกั้นกรรมหนักได้ กรรมหนักทั้ง ๕ นี้ต้องให้ผลก่อน
    ๓. เป็นมิจฉาทิฏฐิ คือเป็นคนมีความเห็นผิด ไม่เชื่อบุญเชื่อบาปเป็นต้น ใครจะชี้แจงแสดงเหตุผลอย่างไรก็ไม่ยอมเชื่อฟัง คนอย่างนี้เป็นคนอาภัพเช่นกัน เพราะไม่มีทางบรรลุมรรคผลในชาตินี้ได้
    ๔. คนที่แม้จะเกิดมาด้วยไตรเหตุ ไม่ทำกรรมหนัก เป็นสัมมาทิฏฐิ คือเชื่อบุญเชื่อบาปแล้ว แต่ว่าไม่มีศรัทธาประพฤติปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ หรือเป็นผู้เกียจคร้านไม่มีฉันทะในการทำกุศล พวกนี้พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่าเป็นคนอาภัพเช่นกัน เพราะไม่อาจบรรลุมรรคผลได้
    บุคคล ๔ พวกนี้แหละ คือคนอาภัพในความหมายของทางธรรม
    คณะสหายธรรมก็ยังเป็นคนอาภัพในทางธรรมเช่นท่านผู้ฟังอีกหลายท่าน รวมทั้งผู้ถามด้วย เพราะฉะนั้นอย่าได้น้อยใจไปเลย เพราะคนที่ยังเป็นคนอาภัพเช่นเดียวกับท่านผู้ถามยังมีอีกมากเหลือเกิน คงจะเกือบทั้งโลกกระมัง
    ก็ในเมื่อคนทั้งโลก มีคนที่บรรลุมรรคผลเป็นพระอริยะ พ้นจากการถูกเรียกว่าคนอาภัพน้อยมาก เพราะฉะนั้นอย่าได้น้อยใจไปเลย ผู้ถามมีพรรคพวกประเภทเดียวกันมากมาย
    คราวนี้ขอพูดถึงคนอาภัพทางโลกบ้าง ซึ่งก็ได้ให้ความหมายของคำว่าคนอาภัพในทางโลกไว้แล้วว่า ได้แก่คนที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ ไม่สมหวังไปเสียทุกอย่าง อยากมีเพื่อนก็ไม่มีเพื่อนเป็นต้น อันนี้จัดเป็นผลของอกุศลกรรมที่ทำไว้
    คนที่ทำบุญไว้หลายๆ อย่าง คือทานก็ทำ ศีลก็รักษา ซ้ำเวลาทำทานรักษาศีลก็ไม่ทำคนเดียว เที่ยวชักชวนพรรคพวกเพื่อนฝูงญาติพี่น้องให้ทำทานรักษาศีลร่วมกับตนด้วย การทำอย่างนี้แหละ เป็นเหตุให้เมื่อต้องการสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้นตามประสงค์ การชักชวนคนอื่นๆ ให้ทำดี เป็นเหตุให้ได้บริวารมาก
    ในอดีตคุณคงทำบุญไว้น้อย เวลาทำแล้วไม่ได้ชักชวนคนอื่นๆ ด้วย คุณจึงขาดเพื่อนฝูง ถึงอย่างนั้นคุณก็อย่าน้อยใจในความอาภัพของคุณเลย เพราะเราไม่อาจแก้ไขสิ่งที่เราทำไปแล้วได้ เพราะฉะนั้นคุณต้องทำเหตุในชาตินี้ของคุณให้ดีให้ถูก เพื่อคุณจะได้ไม่ต้องเป็นอย่างนี้ในชาติต่อไป
    ในปัจจุบันนี้ เราก็หาเพื่อนได้ไม่ยากเลย ถ้าเรามีเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่นอยู่เสมอ ใครๆ ก็อยากคบหาผู้นั้น

    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ผู้ให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้
    นั่นคือถ้าเราเป็นผู้ให้คือเผื่อแผ่อยู่เสมอแล้ว เป็นธรรมดาใครๆ ก็ย่อมจะรักใคร่เรา คุณลองทำดูเถิด รับรองว่าคุณจะมีเพื่อนมากมายจนคบไม่หวาดไหว แต่ว่าการจะได้เพื่อนกินหรือเพื่อนแท้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของเพื่อนแท้ เราดูกันประเดี๋ยวประด๋าวไม่ได้ ต้องคบกันนานๆ จึงจะตัดสินใจ

    คณะคิดว่าคนอาภัพทางโลกไม่สำคัญ เรามีมิตรดี มิตรแท้ ที่จะชักนำเราไปในทางดี ไม่ประพฤติชั่วเพียงคนสองคนก็พอแล้ว แต่คนอาภัพทางธรรมสิสำคัญมาก เพราะถ้าเราอาภัพทางธรรมอยู่ทุกๆ ชาติ เราก็ต้องพบกับความทุกข์ต่างๆ รวมทั้งการเป็นคนอาภัพเพื่อนฝูงด้วยอยู่ทุกๆ ชาติ ถ้าเราพ้นจากความอาภัพทางธรรมเสียแล้ว ความอาภัพทางโลกจะมีได้อย่างไร เพราะฉะนั้นควรสนใจเรื่องความอาภัพทางธรรมดีกว่า แล้วทำตนให้พ้นจากความเป็นคนอาภัพในทางธรรมเสีย แล้วคุณจะไม่พบกับความอาภัพทั้งทางโลกและทางธรรมอีกเลย ________________________________________[/JUSTIFY]ที่มา อ้างอิง และแนะนำ :-
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓
    ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค
    อภัพพสัตว์เป็นไฉน [URL=http://84000.org/tipitaka/book/v.php?v.php?B=31&A=3121&Z=3129]http://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=31&A=3121&Z=3129

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
    อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
    อักขณสูตร[URL=http://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=23&A=4639&Z=4716]http://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=23&A=4639&Z=4716

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
    สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
    อาฬวกสูตร[URL=http://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=15&A=6878&Z=6943]http://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=15&A=6878&Z=6943

    พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
    พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
    คำว่า อาภัพ , อภัพบุคคล[URL=http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อาภัพ]http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อาภัพ[URL=http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อภัพบุคคล]http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อภัพบุคคล

    คำว่า มิตรเทียม (ลักษณะมิตรเทียม)[URL=http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=มิตรเทียม]http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=มิตรเทียม

    คำว่า มิตรแท้ (ลักษณะมิตรแท้)[URL=http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=มิตรแท้]http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=มิตรแท้
    ก่อนเกิดใครเป็นเรา<br />เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร<br /><br />สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่<br />ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า<br /><br />ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน<br />มองในสิ่งที่ไม่เห็น<br />ทำในสื่งที่ไม่มี
     
  4. piangfan said:

    Re: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

    เป็นกำลังใจให้ค่ะstarter
    เข้าใจยามชีวิตลำเค็ญค่ะ
    สักวันฝันจะเป็นจิงค่ะ
    สู้ๆค่ะ

    สาธุค่ะ คุณพี่แปดคิว คุณ Rakdeawjaideaw
     
  5. Rakdeawjaideaw said:

    Re: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

    สาธุครับ คุณ8q คุณpiangfan

    http://www.eto.ku.ac.th/trbk/people_...ession_51.html

    http://info.matichon.co.th/rich/

    http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?siminar=2

    ช่องทางหารายได้เพิ่มลองดูนะครับ
     
  6. arkom said:

    Re: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

    อืม !! อย่างที่หลายท่านบอกน่ะครับ ไม่ใช่มีแต่เรา (ผมตอนนี้ก็ตกงานเหมือนกัน) เราทุกคนก็มีแต่ให้กำลังใจแหละครับ แต่จะให้ทำอย่างไรนั้นมันก็บอกยากนะครับ สรุปผมไม่รู้และยังไม่มีข้อแนะนำแต่จะบอกว่าผมและอีกหลายคนก็มีปัญหาที่ต่างกัน และผมก็เป็นกำลังใจให้ขอให้ได้งาน ไวๆ นะครับ ปล.ค่อยๆคิดและอย่าเลือกงานหากเราตั้งใจที่จะทำงานเพื่อตัวเราและพ่อแม่จิงๆ ก็คงมีหนทางไวๆนี้แหละครับ
     
  7. Rakdeawjaideaw said:

    Re: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

     
  8. Vipawee said:

    Re: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

    ใจเย็นๆค่ะ วี เคย เจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว แต่วีไม่คิดทำร้ายตัวเอง ไม่มีใครคุยด้วยก็อยู่คนเดียว แล้วคิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมาทำไมเราถึงขาดทุนกับการค้าขายผิดพลาดตรงใหนหาหนังธรรมมาอ่านอ่านคิดตามผลสุดท้ายก็มีทางออกค่ะ วี เข้าวัดปฏิธรรมช่วยเหลือสังคมบ้างทุกอย่างที่เลวร้ายก็ค่อยๆจางหายไป ตอนนี้วี มีพี่ๆที่วัดเกาะหลายท่านเป็นที่ปรึกษาในปัญหาทุกอย่างชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นค่ะอย่าท้อนะค่ะวี เป็นกำลังใจให้ค่ะ
     
  9. รูปส่วนตัว noppakorn

    noppakorn said:

    Re: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

    เรื่องตกงานเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิต หลายๆคนมักจะเคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วทั้งนั้น
    เพียงแต่ขอให้เรามีความฝันและความตั้งใจเท่านั้นก็จะสามารถผ่านพ้นไปได้ในที่สุด ชีวิต
    ผมเองก็เคยตกงาน ธุรกิจล้มไม่มีงานทำอยู่ 2 ปี ไม่มีเงินติดกระเป๋าแม้แต่บาทเดียว
    จนในที่สุดก็คิดได้ว่า เรามัวแต่เลือกงาน มัวไปฝันแต่อดีตที่เคยรุ่งเรือง ลืมปัจจุบันว่า ไม่ทำก็ไม่มีกิน
    ในทีสุดเมื่อคิดได้ ก็ไปขับแท๊กซีอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ไปสมัครงานขับรถให้แก่เจ้านาย โดยใช้วุฒิ
    สมัยเรียน มศ.3ไปสมัคร ช่วงนี้ทำไปก็หางานไป ในที่สุดก็ได้งานที่เราชอบใจหลังจากต้องขับรถเสียปีกว่า
    จากเคยเป็นผู้จัดการกินเงินเดือนสมัยนั้นเกือบสามหมื่นบาท เขาจ้างเราเพียง หกพันกว่าบาท
    ต้องส่งบ้านเดือนละ สีพันบาท ไหนลูกเมียไหนค่าเล่าเรียน ต้องประหยัดเอาอาหารไปทานที่ทำงาน
    จนในที่สุดเขาเห็นผลงานก็เลยขยับขึ้นมาเรื่อยๆ ในที่สุดได้ออกมาทำธุรกิจเอง ในอีกสิบปีให้หลัง

    ขอเพียงคุณอย่าเลือกงาน อย่าเกี่ยงเงินเดือนน้อย พยายามดิ้นรนไป สักวันก็จะประสบความสำเร็จครับ
    ขอเอาใจช่วยน่ะครับ
    การตั้งชื่อและแปลชื่อโดยคุณอุบาสกนพกรณ์
    จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน
    - ของดตอบคำถามเป็นการส่วนตัว
    - ของดการแจ้งลบกระทู้ (โดยไม่มีเหตุอันควร) หลังจากที่ได้คำตอบแล้ว
    - กรุณาตั้งคำถามให้ตรงตามหมวดหมู่อักษร
    - ขอตอบวันละ 3 ชื่อ (กรุณารอคิวหากมีผู้ถามเข้ามามาก)


    ขอชื่อใหม่ต้อง...
    1. แจ้งชื่อนามสกุลหรือทักษาเลข
    2. วันเกิด(จ-อ)
    3. อาชีพ
    4. เหตุผล(เพื่อวิเคราะห์ชื่อมงคล)
     
  10. Thai said:

    Re: ตกงาน จะทำยังไงกับชีวิตดีครับ

    สวัสดีคุณเจ้าของกระทู้และเพื่อนๆธรรมชาววัดเกาะครับ

    ตามกระทู้คำถาม...เรื่องตกงาน...ผมเองก็เคยตกงานได้ร่วมๆ 4 เดือนเศษครับ ตอนนั้นกลุ้มใจมากๆครับ
    จนไม่มีกระจิตกระใจทำอย่างอื่นเลยครับ พอได้งานทำก็ต้องมาใช้หนี้อีก....(เหนื่อยมากๆครับ)
    มีวันนึงได้ดูข่าวภาคเที่ยง นักข่าว เชิญคุณ ฐิตินาถ ณ.พัทลุง มาพูดเรื่องประสบการณ์ชีวิต อย่างย่อ
    มีใจความนึงที่ให้ข้อคิดมากเลยครับ เธอพูดว่า "เราควรเอาความเครียดวางไว้ที่หนึ่งก่อน เราอย่างพึ่งไปยุ่งกับมัน
    และมันจะว่างจากความเครียด เมื่อว่างก็จะมีความคิดดีๆที่จะหาหนทางในการต่อสู้ชีวิตต่อครับ" (ประมาณนี้น่ะ)
    จำได้ไม่หมด ผมก็ลองทำ ก็ได้ผลครับก็เลยมาบอกต่อครับ...

    ปล.กำลังใจที่หาง่ายที่สุด ก็เริ่มจากตัวเรานี่ละครับ สู้ๆนะครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับ