ดอกไม้ให้กำลังใจคนอกหัก <ดอกไม้ดอกไหนเลยที่ว่างาม ยังงามสู้พระธรรมไม่ได้>

กระทู้: ดอกไม้ให้กำลังใจคนอกหัก <ดอกไม้ดอกไหนเลยที่ว่างาม ยังงามสู้พระธรรมไม่ได้>

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. plarm said:

    ดอกไม้ให้กำลังใจคนอกหัก <ดอกไม้ดอกไหนเลยที่ว่างาม ยังงามสู้พระธรรมไม่ได้>

    ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ พระธรรมเจ้าทุก ๆ พระธรรมขันธ์ พระอริยสงฆ์ และท่านทั้งหลายผู้กำลังแสวงหาความเจริญทั้งสิ้น

    วันนี้ก็จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เขียนธรรมะที่ตัวผู้เขียนเข้าใจด้วยปัญญาอันน้อยนิด แต่หวังให้ท่านทั้งหลายได้ความเจริญเป็นที่สุด เรื่องดอกไม้ให้กำลังใจคนอกหักนี้ เป็นเรื่องในชีวิตของตัวผู้เขียนที่ได้พบได้เจอเลยนำมาพิจารณาแล้วเขียนบทความนี้ขึ้นหวังว่าท่านทั้งหลายจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อย


    ดอกไม้ให้กำลังใจคนอกหัก

    ลักษณะของตัวช่อดอกไม้จะแบ่งได้เป็น 3 ส่วนคือ
    1 ส่วนติดกับช่อ 2 ส่วนกลาง และ 3 ส่วนบน

    ส่วนดอกกุหลาบที่ใช้เราจะใช้เป็นสีแดงนะคับเป็นสีแห่งความรักแต่หากเหี่ยวเฉาก็เหมือนกับความรักที่เหี่ยวเฉา แต่ถ้าสดใสก็เปรียบเหมือนความรักที่สดใส และดอกลาเวนเดอร์ ที่เปรียบกับความ ไม่มั่นคง ความลังเล จิตใจที่แปรปรวนและกุหลาบขาวที่เปรียบถึงความรักที่บริสุทธิ์


    หลักในการทำของแต่ละส่วน

    ส่วนที่ 1 ตัวติดช่อเราจะนำดอกกุหลาบที่มีสีสดใสนำไปตากกับแดด ดอกกุหลาบจะดูแห้งไม่สดใส ดูหม่นหมองจึงนำมาติดในช่วงที่ 1 เหมือนคนที่พึ่งอกหักความรักของคนคนนั้นและชีวิตจะดูแย่ดูหม่นหมองและเหี่ยวเฉา ซึ่งสะท้อนอารมณ์ของคนที่อกหัก มานะตอนนั้นนั่นเอง

    ส่วนที่ 2 ส่วนตรงกลาง เราจะนำดอกกุหลาบที่มีสีแดงสดใสมาสลับกับดอกลาเวนเดอร์ตรงส่วนกลางนั่นเอง
    เปรียบได้เสมือนว่าความรักของเราที่ว่าจิงจังสดใสของตัวเรานั้น มันมั่นคงแค่ไหน มันมีความไว้ใจกันหรือเปล่า เป็นการสะท้อนตัวเราเองในดอกไม้ว่า เรารักเขาจริง ๆหรือเปล่า เพราะรักจิงทำไมถึงไม่มั่นคง หรือเขาทิ้งเราไป แสดงความเขาก็ไม่ได้รักเราจิง เหมือนดับลาเวนเดอร์ หมายถึง ความไม่ไว้วางใจ ความไม่มั่นคงนั่นเอง

    ส่วนที่ 3 เราจะคัดแต่ดอกกุหลาบสีแดง ๆสวยงามเท่านั้นนำมาจัดผสมกับดอกกุหลาบสีขาวที่สวยงาม ในส่วนที่ 3 เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงว่าเราจะมามัวเศร้าอยู่ได้อย่างไร ชีวิตต้องเดินต่อไปนึกถึงความสุขจากพ่อแม่เปรียบได้กับดอกกุหลาบสีขาวที่เหมือนความรักที่บริสุทธิ์ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน และดอกกุหลาบสีแดงปรียบได้กับความเบ่งบานรอยยิ้มที่สดใสในชีวิตรเราที่จะต้องมีต่อไปต้องก้าวเดินต่อไม่ใช่จมอยู่กับความทุกข์โดยลืมมองคนรอบข้างตัวเราไปนั่นเอง



    สรุป

    ดอกไม้สำหรับให้กำลังใจคนอกหักเน้นไปที่การมองให้เขาเห็นถึงความเป็นจริงบนโลกใบนี้ มีทั้งเศร้าเมื่ออกหักเหมือนส่วนที่ 1 มีทั้งทุกข์และสุข รวมไปถึงความลังเลไม้ไว้วางใจจากดอกลาเวนเดอร์ ทำให้เรามต้องมองตัวเองว่ามั่นคงแค่ไหน มีความไว้วางใจกันแค่ไหน ในส่วนที่ 3 เมื่อเขาเห็นดังนี้แล้วเขาจะมามัวเศร้าอยู่ได้อย่างไร เป็นการให้กำลังใจเขา ผลักดันเขาให้เขาได้มองเห็นถึงความทุกข์และสุขของตัวเองผ่านช่อดอกไม้สำหรับให้กำลังใจคนอกหัก ให้เขาได้คิดว่าเราตอนนี้กำลังเศร้ารู้สึกหดหู่ไม่มีความสวยงาม แต่หากเรามองต่อไปชีวิตที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้เศร้าแต่อย่างเดียว เราก็มีทั้งสุขและทุกข์ผสมกันไป แต่อยู่ที่เราจะเลือกว่าจะเศร้าจมปักต่อไปในชีวิตเหมือนส่วนที่ 1 หรือจะเลือกเอาว่ามานั่งทุกข์กับมองชีวิตให้มีสีสันมีความสุขเหมือนส่วนที่ 3 ว่าอันไหนดีกว่ากัน ดูดอกกุหลาบสีขาวเป็นหลักเพื่อให้เห็นถึงความรักที่บริสุทธิ์ที่ได้จากพ่อและแม่ เพื่อน ๆ เป็นความรักที่ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน เป็นการมองดอกไม้แล้วมองใจตัวเอง เพื่อให้คิดให้ได้เข้าใจถึงความเป็นจริงที่ต้องเจอ

    ดังนี้แล้วดอกไม้นี้จึงชื่อได้ว่า เป็นดอกไม้สำหรับให้กำลังใจคนอกหัก แม้ว่าชีวิตรจะเศร้า จะสุข์ หรือมีความหวัง ดอกไม้ชุดนี้ได้มีการแบ่งแล้วใน 3 ส่วน 1 เศร้า ส่วน 2 เศร้าแต่ยังได้ทบทวนคิดถึงตัวเอง นั่นคือสติ ส่วนที่ 3 ต้องยืนให้ได้ให้มองดูความรักจาคนรอบข้างจากพ่อและแม่ความรักที่บริสุทธิ์จากคนรอบข้างที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เป็นแรงที่จะทำให้เราได้ยืนขึ้นอีกครั้งพร้อมกับความรักครั้งใหม่

    ดังนี้แล้วจึงขอจบด้วยคำพูดที่ว่า มองดอกไม้แล้วมองเรา ว่าชีวิตรเราก็เหมือนดอกไม้ มีเบ่งบาน มีเหี่ยวเฉา มีความสุข มีความทุกข์ มีความเศร้า แต่เราต้องไม่ลืมถึงรักที่จริงใจนั้นหาได้จาก พ่อและแม่ อย่ามัวแต่ไปวิ่งหาอย่างอื่นจนลืมความรักที่บริสุทธิ์ไปนะคับ



    การแสวงหาธรรมะ คือการแสวงหาตัวเราเอง เมื่อหาตัวเราพบแล้ว เราก็เลิกแสวงหาสิ่งนอกตัวเรา
    การได้ใจที่เป็นธรรมะมาเป็นของเราแล้ว นั่นหมายถึง เข้าถึงธรรมะแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย D E V : 03-07-2014 เมื่อ 09:50 PM
     
  2. Admax said:
    สาธุ ปาล์ม
    ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
    ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
    รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
    การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ