ปาฏิหาริย์พระบรมสารีริกธาตุและอรหันตธาตุ ๐๒
ของคุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต
โดยทองทิว สุวรรณทัต
หนังสือพระธาตุปาฏิหาริย์
a8a8a8a8a8a8a8a8a8a
พระธาตุเสด็จ !
พระอาจารย์แบน ธนากโร
พระธาตุเสด็จ !
พระอาจารย์แบน ธนากโร
ในปี ๒๕๒๔ นั้นเอง เมื่อทอดกฐินที่วัดป่าอุดมสมพรแล้วเราก็ไปทอดผ้าป่าที่วัดดอยธรรมเจดีย์ด้วย คุณปัญจมา ผดุงชีวิตเธอช่างคิด ว่าวันนั้นวันที่ ๒๓ ตุลาคม วันเกิดของข้าพเจ้า เธอจัดพระธาตุใส่ตลับมาให้ข้าพเจ้าถวายพระทำบุญวัดละ ๙ องค์ เธอเตรียมมาให้ทุก ๆ วัด
พอถึงวัดดอยธรรมเจดีย์ กำลังถวายผ้าป่า ท่านพระอาจารย์แบน ธนากโร คุณปัญจมาก็จัดส่งตลับพระธาตุซึ่งปิดผนึกอย่างดีมาให้
ขณะที่ท่านอาจารย์รับประเคนแล้ว มือถือตลับพระธาตุยังไม่ทันเปิด เราทุกคนก็เห็นแสงสีขาวลอยลงมาในมือของท่านอีกสายหนึ่ง พอตกถึงมือของท่านก็กลายเป็นพระธาตุสีขาว เสียงร้องกันให้เซ็งแซ่ว่า พระธาตุเสด็จ ! พระธาตุเสด็จ ! คนหกร้อยกว่าคนฮือกันเข้ามารุมล้อมรอบท่านอาจารย์เต็มไปหมด
เพื่อให้มั่นใจ บางคนก็ขอให้ท่านอาจารย์นับพระธาตุในตลับดูเผื่อจะตกออกมาข้างนอกบ้าง
ท่านอาจารย์บอกว่า อาตมาระวังอยู่ ยังไม่ได้เปิดตลับเลยท่านเองก็เห็นพระธาตุเสด็จลงมาเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เมื่อท่านอาจารย์เปิดตลับซึ่งมีสก๊อตเทปติดอย่างแน่นหนาออก ก็ปรากฏว่าพระธาตุในตลับยังคงมีจำนวน ๙ องค์เช่นเดิม
สำหรับพระธาตุซึ่งเสด็จใหม่เป็นองค์ที่ ๑๐ นั้น มีลักษณะองค์ใหญ่ ยาว สีขาว คล้ายสีสังข์
ท่านอาจารย์แบนบอกพวกเราว่า ท่านได้ยินเรื่องพระธาตุเสด็จอยู่เสมอ แต่ที่เห็นกับตานี่เพิ่งเป็นครั้งแรก
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะต่าง ๆ
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะเพชร
พระบรมสารีริกธาตุสีทองอุไร
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะข้าวสาร
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะมุกดา
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะ
เมล็ดพันธ์ผักกาด
พระบรมสารีริกธาตุ
ลักษณะเมล็ดถั่วแตก
น่าประหลาด
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะต่าง ๆ
ปกติพระบรมสารีริกธาตุมักจะมีขนาดต่าง ๆ กัน และรูปพรรณสัณฐานแตกต่างกัน
เรารับรู้ว่าเราอดลำเอียงไม่ได้ที่จะเชยชมองค์ที่มีลักษณะกลมหรือมนงามเป็นเงาเลื่อม ส่วนจะใสเป็นแก้วหรือขุ่นเหมือนมุก เราไม่ค่อยพิถีพิถันนัก
ส่วนองค์ที่มีลักษณะเหมือนหินแตกขุ่น ๆ เราก็จะไม่ค่อยสนใจ บางทีก็คิดสงสัยว่า พระบรมสารีริกธาตุ แปลกปลอมมาหรือไม่ และบางทีข้าพเจ้าก็ต้องเชิญท่านลงลอยน้ำพิสูจน์
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะเพชร
พระบรมสารีริกธาตุขนาดเมล็ดพันธุ์ผักกาดหรือถั่วแตกจะลอยบุ๋มลงไปในน้ำมีรัศมีเป็นประกายงามมาก และถ้าอยู่ห่างกันท่านจะวิ่งมารวมกันเป็นแพเหมือนมีแม่เหล็กดูดเสมอ ส่วนใหญ่ท่านก็ผ่านการทดสอบของเรา
วันหนึ่งกำลังทดสอบก็มีพระบรมธาตุปรากฏขึ้น ๔ องค์พร้อมกัน และแปลกที่ว่าตามปกติพระธาตุปาฏิหาริย์มามักจะมีลักษณะงดงามเสมอ แต่ปาฏิหาริย์ ๔ องค์ครั้งนี้มีงามมากเพียงองค์เดียว อีกองค์หนึ่งงามพอใช้ได้อีก ๒ องค์เหมือนหินแตก
กำลังนึกสงสัย ก็มีเสียงสอนขึ้นว่า อย่าดูแต่ความงามภายนอกพระบรมสารีริกธาตุเมตตาเสด็จมาสอนธรรมแก่เรา !
พระบรมสารีริกธาตุสีทองอุไร
แต่อย่างไรก็ดี สำหรับพระบรมธาตุที่จะแจกกรรมการกฐินนั้น ข้าพเจ้าจะต้องพิถีพิถัน ระวังไม่จัดอย่างชนิดที่ป่นเล็กหรือมีลักษณะเป็นกรวดหินแตกมาก ๆ ให้ไป ด้วยเกรงว่าผู้ได้รับจะรังเกียจ
พระบรมสารีริกธาตุที่มีลักษณะที่เราไม่กล้าให้ใครนี้ ตอนปีแรก ๆ ข้าพเจ้าจะห่อใส่กระดาษเล็ก ๆ เขียนไว้ว่า ใช้ไม่ได้ และบอกจำนวนองค์ไว้ด้วย เช่นว่าใช้ไม่ได้ ๔๘ องค์ ใช้ไม่ได้ ๓๔ องค์ เป็นต้น
คืนหนึ่งกำลังจัดโต๊ะ ห่อพระธาตุที่เขียนว่า ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ ก็ตกลงมา ห่อกระดาษยับยู่ยี่ แสดงว่าไม่มีคนเอาใจใส่มานานปี
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะข้าวสาร
เมื่อแกะห่อออกดูปรากฏว่าพระธาตุทุกองค์งาม และเปล่งประกายมีรัศมีสว่างเรืองไปหมด และทุกห่อก็เป็นเช่นนั้น จนข้าพเจ้าอดนึกไม่ได้ว่า ไม่เคยเห็นพระธาตุที่ไหนสวยอย่างนี้
ใจก็คิดว่า ท่านคงหมั่นไส้เรา ว่าท่านใช้ไม่ได้ ท่านเลยสวยเสียจนน่าประหลาดใจ
เห็นพระธาตุสวยก็คิดถึงพวกน้อง ๆ ที่ที่ทำงาน ตอนเช้าจึงนำห่อพระธาตุเหล่านั้นติดตัวไปที่ทำงาน ว่าจะเล่าเรื่องอัศจรรย์ให้ฟังและจะแบ่งพระธาตุให้ทุกคนนำไปบูชา
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะมุกดา
น่าประหลาดที่พอเปิดห่อเหล่านั้น พระธาตุทกองค์กลับเปลี่ยนสภาพจากที่เห็นเมื่อคืนหมด กลับเป็นเหมือนกรวดเล็ก ๆ แตกบิ่นหมดก็บ่นว่า แล้วจะแจกกันอย่างไร ใครจะเชื่อว่า เมื่อคืนท่านเปลี่ยนเป็นงาม มีประกายรุ้งสวยอย่างนั้น
น้อง ๆ รำพันว่า ท่านคงไม่อยากให้พวกหนูกระมัง
ข้าพเจ้าว่า พวกหนูก็ช่วยงานกุศลทั้งนั้น ทำไมจะให้ไม่ได้ เสียดายแต่ว่า ท่านกลับเป็นไม่สวยอย่างนี้ เด็ก ๆ ก็จะนึกว่า พี่ไม่เต็มใจให้
บ่นอย่างนั้นแล้ว มองไปอีกทีหนึ่ง ทุกคนก็เห็นพระธาตุทุกองค์สวยเหมือนกันหมด บอกว่า
พระบรมสารีริกธาตุลักษณะ
เมล็ดพันธ์ผักกาด
ฟังพี่เล่าว่าสวย สวย นึกไม่ออกว่า ท่านจะสวยได้ถึงอย่างนี้
บางคนก็ว่า ดีแล้ว ที่เห็นท่านไม่สวยเมื่อเช้านี้ แล้วกลับสวยตอนนี้ ถ้าสวยมาแต่แรกก็ไม่ได้เห็นปาฏิหาริย์น่ะซี
ได้แจกกันไปเป็นสิบ ๆ คนโดยให้ต่างคนต่างเลือกเอา
พระบรมสารีริกธาตุ
ลักษณะเมล็ดถั่วแตก
พอดีมีอีกคนหนึ่งอยู่ต่างฝ่าย ไม่ทราบเรื่องมาก่อน ข้าพเจ้าจึงเล่าเรื่องให้ฟัง เธอดีใจที่จะได้พระธาตุปาฏิหาริย์ แต่พอเปิดห่อก็ต้องร้องอย่างตกใจ เพราะพระธาตุกลับเป็นหินแตกอีกครั้งหนึ่งแล้ว
เธอบ่นเสียใจว่า ท่านไม่ต้องการให้ผมน่ะครับ
ข้าพเจ้าไม่ทราบจะทำอย่างไรก็พูดดัง ๆ อีก
แหมคุณ ช่วยงานกุศลเราบ่อย ๆ ให้สวย ๆ ได้ซีคะ
ไม่รู้ว่าพูดกับใคร พูดทำไม แต่มันก็หลุดปากไป ซึ่งก็แปลกที่ว่า พระธาตุกลับงามอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ผู้รับดีใจมากกว่าได้เห็นปาฏิหาริย์กับตา
พระอรหันต์ธาตุ
พระสาวกผู้ใหญ่ซึ่งสมเด็จพระพุทธองค์ทรงสรรเสริญว่ามีคุณสมบัติเป็นเลิศในด้านต่าง ๆมี ๘๐ องค์ เรียกกันว่า พระอสีติมหาสาวก
เฉพาะพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะทรงยกย่องเป็นพิเศษเรียกพระอัครสาวก หรือ พระอัครมหาสาวก
ที่มีชื่อรู้จักกันทั่วไป อาทิเช่น
พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวา เลิศทางปัญญา อีกนามเรียก ธรรมเสนาบดีก็เรียก
พระโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้าย เลิศทางมีฤทธิ์มาก
พระสิวลี เลิศทางโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์
พระอัญญาโกณฑัญญะ ปฐมสาวก เลิศทางรัตตัญญูภาพ คือรู้ราตรีนาน
พระอนุรุทธะ เลิศทางทิพยจักษุ
พระกัจจายนะ เลิศทางแตกฉานในปฏิสัมภิทา
พระพิมพาเถรี เลิศทางผู้ระลึกในมหาอภิญญา ฝ่ายภิกษุณี
พระภัททิยะ เลิศทางตระกูลสูง
พระอานนท์ เลิศทาง
๑. เป็นพหูสูต
๒. มีสติ
๓. มีคติ คือเป็นผู้ฉลาด
๔. มีธิติ คือทรงจำ
๕. พุทธุปัฏฐาก
พระกาฬุทายีเถระ เลิศทางยังตระกูลใหญ่ให้เลื่อมใส
พระมหากปินะ เลิศทางสอนภิกษุ
พระกังขาเรวัตตะ เลิศทางเจริญฌาน
พระอุบลวรรณาเถรี ยอดแห่งอัครสาวิกาผู้มีฤทธิ์มาก
พระกุมารกัสสปะ เลิศทางกล่าวธรรมอันวิจิตร เป็นต้น
ในเวลาสมเด็จพระพุทธองค์ทรงปรินิพพาน เวลาถวายเพลิงและเวลาทำปฐมสังคายนา มีชื่อพระมหาอสีติสาวกเหลืออยู่เพียง ๕ องค์ คือ พระอนุรุทธะ พระมหากัสสปะ พระอุบาลี พระอานนท์ และพระอุปวาณะ องค์อื่นคงจะนิพพานก่อนพระพุทธเจ้า หรือชรามากและอยู่ไกลจนมาร่วมชุมนุมไม่ได้
ตามตำราและตำนานอัฐิธาตุของพระสาวกได้แสดงรูปร่างลักษณะพระธาตุขอท่านไว้ต่างกัน แต่ไม่ครบทั้ง ๘๐ องค์
พระธาตุพระโมคคัลลานะ
พระธาตุของพระโมคคัลลาน์นั้น เมื่อได้รับมา มีผู้บอกว่าเป็นพระธาตุของพระโมคคัลลานะ ลักษณะเป็นรอยร้าว เป็นลายดังไข่มุก และร้าวเป็นสายเลือด เราไม่กล้าคิดว่าเป็นพระธาตุพระโมคคัลลาน์จริง ได้แต่เรียกท่านว่าเป็น พระธาตุพระโมคคัลลาน์
วันหนึ่งเปิดดู เห็นมีทองคำเปลวมาปิดก็ประหลาดใจ อีกไม่กี่วันก็มีมาปิดอีกจุดหนึ่ง ครั้งนี้เห็นทองคำเปลวกำลังปลิวพะเยิบพะยาบ ติดไม่สนิท ก็เลยปิดผอบไว้รอ ๒-๓ วันมาเปิดดู ทองคำเปลวนั้นได้ติดเรียบร้อย
ต่อมาเราจึงเรียก พระธาตุพระโมคคัลลาน์ กันอย่างสนิทปาก
แต่สำหรับทองคำเปลวนั้นเวลานี้เมื่อมีผู้มาขอชมบ่อย ๆ ใช้นิ้วลูบไล้ไปมา ทองคำเปลวเลื่อนไป ๑ จุดแล้ว
พระธาตุพระสีวลี
พระธาตุพระสิวลี เพิ่งมีผู้นำมาฝากไว้ให้เมื่อต้นปี ๒๕๒๘ นี้เอง ลักษณะมีสัณฐานดังผลยอป่า สีพิกุลแห้ง
พระธาตุพระอรหันต์นิรนาม
วันหนึ่งได้มีผู้นำถุงผ้าเก่า ๆ มาให้ บอกว่าภายในบรรจุพระธาตุพระอรหันต์ ซึ่งท่านเองก็ไม่ทราบว่าเป็นพระอรหันต์องค์ใด ได้รับมรดกจากคุณพ่อ คุณพ่อได้รับจากคุณปู่ คุณปู่ได้จากเจดีย์ร้างทางภาคเหนือ
เมื่อเทสิ่งที่อยู่ภายในออกมาจากถุงผ้า ปรากฏมีลักษณะป่นคล้ายเปลือกหอยแตก ข้าพเจ้าไม่เชื่อว่าเป็นพระธาตุ จึงจัดใส่จานวางทิ้งไว้บนหลังตู้ ๆ หนึ่งที่ที่ทำงาน
ประมาณ ๓ ปีต่อมา ไปดูเห็นบางส่วนเปลี่ยนลักษณะเป็นพระธาตุ แต่ที่ยังไม่เป็นพระธาตุนั้นมีมากกว่าหลายเท่า.
ทำให้คิดว่าบางกรณีการที่อัฐิจะเปลี่ยนเป็นพระธาตุนั้นใช้เวลานานถึงกว่า ๓ ชั่วคน ก็ยังเป็นพระธาตุได้ไม่หมด
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถร
อัฐิกลายเป็นพระธาตุ
ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ เป็นพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานแห่งอีสาน ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ
ท่านได้มรณภาพไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๔๙๒ แต่หลังจากการถวายเพลิงศพ ซึ่งมีขึ้นในเดือนเมษายน ๒๔๙๓ ไม่นานก็ปรากฏว่า อัฐิของท่านได้กลายเป็นพระธาตุ มีลักษณะดังที่ท่านผู้รู้บรรยายไว้ว่า เป็นลักษณะพระธาตุของพระอรหันต์สาวก ทำให้พุทธศาสนิกชนในไทยเรามีความปีติชื่นชมโสมนัสเพราะเชื่อได้ว่าพระอรหันต์นั้นมิได้ว่างเว้นจากแผ่นดินไทย
ความที่คิดกันว่าพระอรหันต์ในยุคนี้สมัยนี้ไม่มีอีกแล้วนั้นไม่เป็นความจริง จริงแท้ดังที่สมเด็จพระบรมศาสดาเคยมีพุทธดำรัสไว้ว่า หากปฏิบัติจริง ทำจริงการสำเร็จอรหัตผลย่อมเป็นไปได้
ศิษย์ของท่านหลายต่อหลายองค์ ที่บำเพ็ญเพียรภาวนารับการอบรมจากท่าน มีความเคารพรักเลื่อมใส สืบต่อระเบียบปฏิบัติและปฏิปทาของท่านอย่างเคร่งครัด เมื่อมีชีวิตอยู่เป็นที่เคารพสักการะเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนชาวไทยโดยทั่วไป และเมื่อมรณภาพแล้ว อัฐิของท่านเหล่านั้นก็ได้แปรสภาพไปเป็นพระธาตุเฉกเช่นอัฐิธาตุขององค์บูรพาจารย์ของท่านเช่นเดียวกัน
สำหรับเรื่องอัฐิท่านพระอาจารย์มั่นกลายเป็นพระธาตุปรากฏเป็นที่ทราบแพร่หลายครั้งแรกนั้น ข้าพเจ้าใคร่ขออัญเชิญข้อความจากหนังสือ ประวัติท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ ซึ่งท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เขียนไว้ เฉพาะตอนที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาลงไว้ ด้วยความเคารพอย่างสูงสุดดังนี้
จนกาลล่วงไปแล้ว ๔ ปี คุณวัน คมนามูล เจ้าของร้านศิริผลพานิชและโรงแรมสุทธิผล จังหวัดนครราชสีมา ไปถวายผ้าป่าที่จังหวัดสกลนคร ได้รับแจกอัฐิส่วนบนของท่านอาจารย์มั่นชิ้นหนึ่ง จากเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส ซึ่งเป็นวัดที่ท่านอาจารย์มรณภาพ
กลับมาถึงบ้านได้เชิญอัฐิชิ้นนั้นรวมลงในผอบอันเดียวกันกับที่บรรจุอัฐิท่านอาจารย์อยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยได้รับแจกมาจากงานศพท่าน
พอเปิดผอบออกเท่านั้น สิ่งที่ไม่เคยคาดฝันก็ปรากฏขึ้นในผอบนั้น คืออัฐิชุดแรกที่ได้รับแจกไปจากงานศพท่านได้กลายเป็นพระธาตุเสียหมด เจ้าของเกิดความอัศจรรย์จนตัวแทบลอย
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นจึงให้คนรีบไปดูอัฐิส่วนที่เก็บไว้ที่โรงแรมสุทธิผลอีก ที่นั่นก็กลายเป็นพระธาตุเช่นกันอีก รวมทั้งสองแห่งจึงเป็นพระธาตุ ๓๔๔ องค์
ยังเหลือติดผอบอยู่บ้างเป็นผง ๆ เล็กน้อย ต่อมาไม่นานนักจำนวนผงนั้นก็ได้กลายเป็นพระธาตุเสียจนหมดอีก จึงรวมเป็นพระธาตุจากอัฐิของท่านพระอาจารย์มั่น ๓๔๔ องค์ นี้เป็นรายแรกที่ปรากฏความอัศจรรย์จากอัฐิกลายเป็นพระธาตุ
จากนั้นเรื่องก็เล่าลือไปทุกหนทุกแห่ง ผู้คนทราบถึงไหนก็มาขอพระธาตุกับคุณวันไปสักการบูชากันถึงนั่น
คุณวันเองก็เป็นคนมีนิสัยใจบุญอยู่แล้ว จึงเห็นใจท่านที่มาขอและแจกกันไปคนละเล็กละน้อยคือคนละ ๑ องค์บ้าง ๒-๓ องค์บ้าง
พระธาตุท่านอาจารย์มั่นยังเป็นที่น่าแปลกและอัศจรรย์อยู่หลายอย่างคือ พระธาตุ ๔ องค์ เจ้าของอธิษฐานขอให้เป็น ๓ องค์ เพื่อให้ครบรัตนะ คือ พุทธ ธรรม สงฆ์ก็กลายเป็น ๓ องค์ได้จริง ๆ
ผู้มีอยู่ ๒ องค์ อธิษฐานขอให้เป็น ๓ องค์ เช่นที่คนอื่นเขาเป็น แตกลับรวมเป็นองค์เดียวก็มีเจ้าของเสียใจมาก มาเล่าให้ผู้เขียนฟังและขอคำขี้แจง
ผู้เขียนได้อธิบายให้ทราบบ้างว่า พระธาตุท่านอาจารย์มั่นกลายเป็น ๓ องค์ก็ดี กลายเป็นองค์เดียวก็ดี หรือยังมิได้กลายเป็นพระธาตุเลยก็ดี ทั้งนี้ก็คืออัฐิธาตุที่ออกจากองค์ท่านอันเดียวกัน จึงไม่ควรเสียใจ
การที่พระธาตุ ๒ องค์กลับมาเป็นองค์เดียวก็ยังเป็นอภินิหารของท่านอยู่แล้ว เราจะหาความอัศจรรย์จากอะไรอีก
แม้ผมที่ท่านปลงออก มีผู้เก็บไว้บูชาในที่ต่าง ๆ ก็กลายเป็นพระธาตุได้เช่นเดียวกับอัฐิ ซึ่งมีอยู่หลายแห่ง
ที่เป็นดังนี้เข้าใจว่า อัฐิหรือผม ท่านที่เก็บไว้นาน ๆ ไปอาจจะกลายเป็นพระธาตุไปตาม ๆ กันดังอัฐิท่านที่ค่อย ๆ กลายเป็นพระธาตุมาเป็นลำดับนี้แล
มีต่อคะ