งง อ่ะงับ!!!!!

กระทู้: งง อ่ะงับ!!!!!

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. Lucky said:

    Re: งง อ่ะงับ!!!!!



    ลิงกับลา

    หญิงชาวบ้านคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อม ด้วยความเหงานางจึงหาสัตว์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนสองตัว คือ ลิงและลา
    วันหนึ่งหญิงชาวบ้านคนนี้ต้องออกไปตลาดเพื่อซื้ออาหาร ก่อนออกจากบ้านเธอได้เอาเชือกมาผูกคอลิง แล้วมัดขาของลาเอาไว้ทั้งสองข้าง
    เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวเดินย่ำไปมาในกระท่อมจนทำให้ข้าวของต่างๆ ได้รับความเสียหาย ทันทีที่หญิงชาวบ้านออกจากบ้านไป
    ลิงซึ่งมีความฉลาดและแสนซนเป็นคุณลักษณะประจำตัวก็ค่อย ๆ คลายปมเชือกออกจากคอของมัน อีกทั้งยังซุกซนไปแก้เชือกมัดขาให้แก่ลาอีกด้วย

    หลังจากนั้นเจ้าลิงก็กระโดดโลดเต้น ห้อยโหนโจนทะยานไปทั่วกระท่อมจนทำให้ข้าว ของต่างๆ ล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่ว
    อีกทั้งยังซุกซนรื้อค้นเสื้อผ้าของหญิงชาวบ้านมาฉีกกัดจนไม่เหลือชิ้นดี ในขณะที่ลาได้แต่มองดูการกระทำของเจ้าลิงอยู่เฉย ๆ สักครู่หนึ่ง
    หญิงชาวบ้านคนนี้ก็กลับมาจากตลาด เจ้าลิงมองเห็นเจ้าของเดินมาแต่ไกลจากทางหน้าต่าง ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้ อย่างเดิมและอยู่อย่างสงบนิ่ง

    ฝ่ายหญิงชาวบ้านเมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้ามาเห็นข้าวของของตนถูกรื้อค้น กระจุยกระจายเช่นนั้นก็เกิดโทสะขึ้นทันที หันมองลิงและลา
    เพื่อดูว่าใครเป็นผู้ก่อเรื่อง และเห็นว่าลาไม่มีเชือกผูกขาดังเดิม เธอก็คิดเอาเองว่าเจ้าลานี่เองคือตัวปัญหา ทำให้กระท่อมของเธอมีสภาพไม่ต่างจากโรงเก็บขยะ

    ดังนั้นหญิงชาวบ้านจึงวิ่งไปหยิบท่อนไม้นอกบ้านมาทุบตีลาอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าลาผู้น่าสงสารก็ได้แต่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจนสิ้นใจโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย

    เธอทั้งหลาย...
    เธอหลายคนคงไม่ค่อยชอบตอนจบของนิทานเรื่องนี้นัก เพราะสงสารเจ้าลาที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรแต่กลับถูกเจ้าของทำโทษจนตาย
    ส่วนเจ้าลิงซึ่งเป็นต้นเหตุแท้ๆ กลับรอดพ้น และไม่ได้รับผลกรรมใดๆ แต่แท้ที่จริงแล้วนิทานเรื่องนี้ต้องการชี้ให้เห็นถึง ความเป็นผู้นำของหญิงชาวบ้าน

    ที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็นแล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสพการณ์ส่วนตัว เธอมองเห็นข้าวของเสียหาย
    และมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก แล้วตัดสินว่าลาคงเป็นผู้กระทำ แต่ไม่ได้มองว่าลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก และไม่มีนิสัยชอบรื้อทำลาย
    เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่ก็คิดว่าลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ แต่มองไม่ออกว่าผู้น่าจะแก้ปมเชือกได้และมีนิสัยชอบรื้อทำลายนั้นคือลิง ความจริงถ้าเธอรู้จักสำรวจ

    ร่องรอยความเสียหายเสียสักเล็กน้อย เธอก็จะพบรอยเท้าและฟันของลิงกระจายไปทั่วห้อง แต่ไม่พบรอยเท้าของลาเลย เพราะลาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน

    เหตุที่องค์กรของเราต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำที่ "ปล่อยให้ลิงสร้างปัญหา แต่ลารับเคราะห์"
    ลาก็เหมือนกับคนที่ปฏิบัติงานได้ตามหน้าที่ แต่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง พูดจาตรงไปตรงมาแต่ไร้เลห์เหลี่ยม ลิงก็เหมือนกับคนที่ฉลาดแกมโกง
    พูดมากพรีเซ็นต์เก่ง อ้างอิงตำราได้สารพัด แต่ไม่เคยทำงานจริง นายที่ดีไม่ควรปล่อยให้ลิงหลงระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้
    ผู้เป็นนายไม่ควรยึดติดความสบาย นั่งขึ้นอืดรอฟังแต่รายงานในห้องประชุม รู้จักยอมเสียสละตน สละเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อค้นหาความจริง
    เพื่อควบคุมเจ้าลิง เพราะไม่เช่นนั้น องค์กรก็จะทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าลิงสงบได้องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืนไปด้วย

    โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ
    ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก
    อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
    คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
    ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
    ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
    ในโลกกลมๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่าแน่นอน
    คนเราเมื่อ ตัวตายก็ต้องลงดิน
    ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด
    เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคนอีกคนหนึ่ง
    ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
    หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
    ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
    จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
    อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง
    เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
    อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
    จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
    เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
    ไม่มีคำว่าบังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่าตั้งใจ
    ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

    หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
    หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
    ไม่เป็นขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้
    มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
    เมื่อวานก็สายเกินแล้วพรุ่งนี้ ก็สายเกินไป
    อย่าหวัง ว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก
    เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณ หมดทุกคน

    เพื่อนทั่วไป ไม่เห็นคุณร้องไห้
    เพื่อนแท้ มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้
    เพื่อนทั่วไป ถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ
    เพื่อนแท้ จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน
    เพื่อนทั่วไป คาดหวังให้คุณเคียงข้างเขาเสมอ
    เพื่อนแท้ คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป
    เพื่อนทั่วไป เข้าหาผลประโยชน์ ที่ได้รับจากเรา
    เพื่อนแท้ เค้าจะให้เราโดยไม่หวังผลตอบแทน
     
  2. Lucky said:

    Re: งง อ่ะงับ!!!!!

    อยากให้อ่าน ดีมาก (เรื่องจริงของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ) :
    > เพื่อน ๆ ช่วยอ่านข้อความนี้ดีมาก ชีวิตคน
    > มีคนเล่าให้ฟังว่า... สมัยก่อน...คุณพงษ์เทพ
    > กระโดนชำนาญ...ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต..
    > แกอยู่ในป่า...กับเพื่อน 5 - 6
    > คน...ทุกวันก็จะเปลี่ยนเวรกัน...ล่าสัตว์ป่า...มาทำอาหาร.
    > วันหนึ่ง...เป็นเวรของคุณพงษ์เทพ
    > แกก็คว้าปืนยาว...สะพายบ่า.เดินเข้าป่าไป...
    > อาหารโปรดของคุณพงษ์เทพ.....คือแกงเนื้อลิง...
    > พอเดิน เข้าป่าไปได้สักพัก.
    > เห็นลิงตัวหนึ่ง...นั่งอยู่บนต้นไม้...หันหลังให้..
    > แกก็รีบยกปืนประทับบ่า...ยิงเปรี้ยง...ไปที่ตัวลิง..
    > เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น...
    > ปกติ...ลิงพอถูกยิง..จะหล่นตุ๊บ...จาก ต้นไม้ทันที...
    > แต่ลิงตัวนี้...นั่งจับกิ่งไม้เฉย...ไม่หล่นลงมา...
    > จะว่ายิงไม่ถูก...ก็ไม่น่าเป็นไปได้...
    > เพราะคุณพงษ์เทพ...แกยิงปืนแม่น...ระยะแค่นี้
    > เป้าใหญ่ขนาดนี้...ไม่พลาดแน่นอน...
    > ในขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้น...ลิงตัวที่ถูกยิง...
    > ร้องโหยหวน...เสียงดังมาก..... ฝูงลิงที่แยกย้ายกัน
    > ออกหากินอยู่บริเวณใกล้ ๆ... วิ่งแห่กันเข้ามาหา
    > ลิงตัวที่ถูกยิง... แล้วร้องโหยหวน...เหมือนกันหมด...
    > แกตกใจ...ยืนตกตะลึง...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...
    > สักครู่...ลิงตัวที่ถูกยิง. โยนวัตถุเล็กๆ...สีดำ ๆ..ชิ้นหนึ่ง...ให้กับลิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด... แล้วก็หล่นตุ๊บ...
    > ลงมาจากต้นไม้...คุณพงษ์เทพ...รีบวิ่งไปดู...
    > ลิงถูกยิงเข้าที่หลัง... ทะลุหน้าอก...เลือดแดงฉาน..เต็มตัว...
    > คุณพงษ์เทพเห็นแล้ว...ต้องเบือนหน้าหนี...
    > ลิงที่ตกลงมา...เป็นลิงแม่ลูกอ่อน...ขณะที่ถูกยิง...
    > เธอกำลังให้นม ลูก...
    > ลูกตัว น้อย...กำลังดูดนมอย่างมีความสุข...ทันทีที่ถูกยิง..
    > ถ้าเป็นลิงตัวอื่น... จะหล่นตุ๊บ...ลงจากต้นไม้.....
    > แม่ลิงตัวนี้...ยังหล่นไม่ได้...ยังตายไม่ได้..
    > เพราะเธอยังมีภารกิจใหญ่หลวงที่ต้องทำ...คือ...
    > รักษาชีวิตลูกน้อย...ให้พ้นอันตราย...
    > เธอกัดฟัน...โหนกิ่งไม้ไว้.แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ...
    > มองดูเลือดที่ไหลหยดเป็นทาง ด้วยความตกใจ...
    > พยายามรวบรวมพละกำลังที่ยังพอมี! เหลือทั้งหมด...
    > ตะโกนสุดเสียง...ร้องเรียก.ฝูงลิงเข้ามาใกล้ๆ..
    > แล้วก็ฝากฝัง...ให้เลี้ยงลูกน้อยแทนเธอ
    > หลังจากโยนลูกให้จ่าฝูงแล้ว...มองดูลูก...ถูกพาไป จนลับสายตาแล้ว.. แน่ใจว่า...ลูกปลอดภัยแล้ว...
    > จึงหลับตา...แล้วหล่นลงมา.....ตาย.. คุณพงษ์เทพ...ก้มมองหน้าลิง..แล้วร้องไห้...
    > เพราะที่เบ้าตาลิง...มีหยดน้ำตาใส ๆ. กำลังไหลริน...
    > คุณพงษ์เทพ..รีบเดินกลับที่พัก...เอาปืนไปเผาทิ้ง...
    > ไม่ยอมออกล่าสัตว์อีกเลย.ตลอดชีวิต..
    > และภาพความรักที่ยิ่งใหญ่..ของแม่ลิง...ที่มีต่อลูกน้อย ......
    > เป็นแรงบันดาลใจ. ให้พงษ์เทพ...แต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง...
    > ชื่อว่า... ' ลิงทะโมน... '
    > เพื่อยกย่อง...เชิดชู...คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก
    > ************ *****
    > แม่นะหรือ... คือผู้สร้าง ทุกสิ่ง อันยิ่งใหญ่
    > คือผู้รัก ลูกตน กว่าใครใคร คือผู้คอย ห่วงใย ทุกเวลา
    > คือคนร้อน เมื่อลูกรุ่ม
    > กลุ้มเรื่องทุกข์
    > คือคนสุข เมื่อลูกนั้น มีหรรษา
    > คือคนปลอบ เมื่อลูกเหงา เศร้าอุรา
    > คือคนคอย ให้เมตตา ลูกทุกคราว
    >
    > เป็นสายฝน คอยช่วยให้ ลูกสดชื่น
    > เป็นผ้าผืนคอยห่มให้ เพื่อคลายหนาว
    > เป็นกระโถน คอยรับทุกข์ ทุกเรื่องราว
    > เป็นบันได ไต่ดาว ลูกก้าวไป
    > เป็นคุณครู ผู้สอนสั่งทุกอย่างหนอ
    > เป็นคุณหมอ คอยรักษา จะหาไหน
    > เป็นทุกสิ่ง ทุกอย่าง ได้ดั่งใจ
    > จะหาใครได้เท่าแม่เหมือนไม่มี
    > สาธยาย อย่างไร คงไม่หมด
    > พระคุณแม่ ยากแทนทด เหมือนปลดหนี้
    > สิ่งล้ำค่าใดใด ในปฐพี
    > จะเทียมเท่า คุณแม่นี้ ไม่มีเอย.
    > ----- จบการส่งต่อข้อความ -----
    > อย่าลืม ก่อนนอนคืนนี้ กอดแม่-พ่อสักครั้งหากท่านยังมีโอกาส....