ธัมมัทธชชาดกพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง

กระทู้: ธัมมัทธชชาดกพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. *8q* said:

    ธัมมัทธชชาดกพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง

    ธัมมัทธชชาดก

    พูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง


    พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภภิกษุ ผู้โกหกรูปหนึ่งแล้ว จึงได้ตรัสเรื่องนี้ ดังนี้.
    ความย่อว่า ในครั้งนั้นพระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้ไม่ใช่โกหกเฉพาะในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อนก็โกหกเหมือนกัน แล้วได้ทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้:

    ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดเป็นนก เติบโตแล้วมีฝูงนกห้อมล้อม อาศัยอยู่ที่เกาะกลางมหาสมุทร ครั้งนั้น พ่อค้าชาวกาสิกรัฐกลุ่มหนึ่ง พากันแล่นเรือไปยังมหาสมุทร โดยเอากาบอกทิศไปด้วย เรือเกิดแตกในกลางมหาสมุทร กาบอกทิศนั้นจึงบินไปถึงเกาะนั้นแล้ว คิดว่า นกฝูงนี้เป็นฝูงใหญ่ เราควรทำการโกหกแล้วกินไข่และลูกอ่อนของนกฝูงนี้อร่อย ๆ คิดดังนั้นแล้ว มันจึงบินร่อนลงแล้ว ยืนขาเดียวอ้าปากอยู่ที่พื้นดินท่ามกลางฝูงนก เมื่อมันถูกนกทั้งหลายถามว่า ท่านเป็นใครครับ นาย ? กานั้นก็บอกว่า ฉันเป็นผู้ประพฤติธรรม.
    นก เหตุไฉน ท่านจึงยืนขาเดียว ?
    กา เมื่อฉันเหยียบ ๒ ขา แผ่นดินก็ไม่สามารถจะทนทานได้.
    นก เมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุไฉน ท่านจึงยืนอ้าปาก ?
    กา ฉันไม่กินอาหารอื่น กินแต่ลมเท่านั้น.
    ครั้นมันตอบอย่างนั้นแล้ว จึงเรียกนกเหล่านั้นมาเตือน ว่า ฉันจักให้โอวาทเธอทั้งหลาย ขอจงพากันมาฟังโอวาทนั้น แล้วได้กล่าวคาถาที่ ๑ เป็นการให้โอวาทนกเหล่านั้นว่า:
    [๘๙๓] ดูกรญาติทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงประพฤติธรรม ท่านทั้งหลายจง
    ประพฤติธรรมอยู่เสมอๆ เถิด ความเจริญจะมีแก่ท่านทั้งหลาย ผู้
    ประพฤติธรรม ย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า.
    นกทั้งหลายไม่รู้ว่า กาตัวนี้พูดอย่างนี้ เพื่อจะโกหกกินไข่นก เมื่อจะพรรณนาความทุศีลนั้น จึงได้กล่าวคาถาที่ ๒ ว่า:
    [๘๙๔] กาตัวนี้เจริญดีจริงหนอ ประพฤติธรรมอย่างสูง ยืนอยู่ด้วยเท้าข้างเดียว
    ย่อมพร่ำสอนแต่ธรรมเท่านั้นแก่พวกเรา.
    นกทั้งหลายเชื่อฟังกาทุศีลนั้น แล้วพากันบอกกานั้นว่า นายครับ เมื่อท่านไม่หาเหยื่ออย่างอื่นกินแต่ลมเป็นอาหารเท่านั้น ถ้ากระนั้นขอให้ท่านคอยดูไข่และลูกอ่อนของพวกฉันด้วย แล้วจึงออกไปหาเหยื่อกัน กาทุศีลตัวนั้นเมื่อเวลานกเหล่านั้นไปแล้ว ก็จิกกินไข่และลูกอ่อนของนกเหล่านั้นจนเต็มท้อง แต่เวลานกเหล่านั้นกลับมา ก็สงบเสงี่ยมยืนขาเดียวอ้าปากอยู่ นกทั้งหลายมาแล้วไม่เห็นลูกน้อยของตน ร้องดังลั่นว่า ใครหนอกินลูกเรา แต่ไม่มีความสงสัยในกาตัวนั้น เพราะคิดว่ากาตัวนี้ประพฤติธรรม
    อยู่มาวันหนึ่ง พระมหาสัตว์คิดว่า เมื่อก่อนที่นี่ไม่มีอันตรายอะไร นับแต่กาตัวนี้มาแล้วอันตรายจึงเกิด เราควรซุ่มจับกาตัวนี้ พระมหาสัตว์นั้นทำเหมือนไปหาเหยื่อกับนกทั้งหลาย แต่ก็กลับมาเกาะอยู่ในที่กำบัง ฝ่ายกาเข้าใจว่า นกทั้งหลายไปแล้ว ไม่มีความสงสัย ลุกไปหากินไข่นกและลูกอ่อน แล้วกลับมายืนขาเดียวอ้าปากอยู่
    เมื่อนกทั้งหลายมาแล้ว พระยานกจึงเรียกให้ฝูงนกทั้งหมดมาประชุมกันแล้วเตือนฝูงนกว่า วันนี้ฉันซุ่มจับอันตรายของลูกเจ้าทั้งหลาย ได้เห็นกาทุศีลตัวนี้กินลูกของพวกเจ้าอยู่ มาเถิด เจ้าทั้งหลายพวกเราจงจับมันไว้ แล้วจึงให้ฝูงนกล้อมกานั้นไว้ โดยสั่งว่า ถ้าหากมันจะหนีไปไซร้ เจ้าทั้งหลายจงพากันจับมันไว้ แล้ว ได้กล่าวคาถาที่เหลือว่า:
    [๘๙๕] ท่านทั้งหลายไม่รู้จักปกติของมัน จึงพากันสรรเสริญเพราะความไม่รู้
    เท่าทัน มันกินไข่และลูกนกแล้วก็ร้องว่า ธัมโม ธัมโม.
    [๘๙๖] กาตัวนี้พูดด้วยวาจาเป็นอย่างหนึ่ง กระทำด้วยกายเป็นอย่างหนึ่ง ประพฤติ
    ธรรมเพียงวาจา แต่ไม่กระทำด้วยกาย เพราะฉะนั้น มันไม่ได้ตั้งอยู่ใน
    ธรรมเลย.
    [๘๙๗] กานี้เป็นสัตว์มีถ้อยคำอ่อนหวาน มีใจรู้ได้ยาก เปรียบเหมือนงูเห่าปกปิด
    ร่างกายด้วยปล่อง * หรือเปรียบเหมือนคนผู้เอาธรรมบังหน้า คนโง่ไม่รู้
    จริงพากันยกย่องว่า เป็นคนดีในหมู่บ้านและในนิคม ฉะนั้น.
    [๘๙๘] ท่านทั้งหลายจงช่วยกันประหารกาลามกตัวนี้ ด้วยจะงอยปาก ด้วยปีก
    และด้วยเท้าให้มันพินาศไป กาตัวนี้ไม่ควรจะอยู่ร่วมกับพวกเรา.
    *หมายความว่า มีรูเป็นที่อยู่อาศัย มันนอนอยู่ในรูใด ถูกรูนั้นปิดบังไว้
    หัวหน้านกครั้นพูดอย่างนี้แล้ว ตนเองก็โดดขึ้น ใช้จะงอยปากจิกหัวของกานั้น นกที่เหลือก็พากันใช้จะงอยปากบ้าง เล็บบ้าง แข้งบ้าง ปีกบ้าง จิกตี มันก็ถึงความสิ้นชีวิต ณ ที่นั้นนั่นเอง.
    พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประมวลชาดกไว้ว่า กาโกหกในครั้งนั้น คือภิกษุผู้โกหกในบัดนี้ ส่วนพระยานก ได้แก่เรา ตถาคต ฉะนี้แล.
    จบ ธัมมัทธชชาดก
    <!-- / message -->
    ก่อนเกิดใครเป็นเรา<br />เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร<br /><br />สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่<br />ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า<br /><br />ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน<br />มองในสิ่งที่ไม่เห็น<br />ทำในสื่งที่ไม่มี
     
  2. loveyousomuch said:

    Re: ธัมมัทธชชาดกพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง

    ให้ข้อคิดดีนะค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ
     
  3. michinoma said:

    Re: ธัมมัทธชชาดกพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง

    ขอบคุณสำหรับนิทานดีๆนะคะ