บรรณานุกรม
พระพุทธโฆษาจารย์ สมันตปาสาทิกา นาม วินัยอัฏฐกถา ปฐโม ภาโค มหาวิภังควัณณนา กรุงเทพมหานคร โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย พิมพ์ครั้งที่ ๒๕/๒๕๑๕
พระธรรมปิฏก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม กรุงเทพมหานคร โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย พิมพ์ครั้งที่ ๘ มกราคม ๒๕๓๘
พระสังเวย ธัมมเนตติโก ภิกษุณีกับการบรรลุอรหัตผล กรุงเทพมหานคร สำนักพิมพ์ประดิพัทธ์ พิมพ์ครั้งที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๓๗
สุชีพ ปุญญานุภาพ พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน กรุงเทพมหานคร โรงพิมพ์มหา-
มกุฏราชวิทยาลัย พิมพ์ครั้งที่ ๒๕/๒๕๓๙
พันตรี ป. หลงสมบุญ พจนานุกรมไทย-มคธ ฉบับสำนักเรียนวัดปากน้ำ กรุงเทพมหานคร อาทรการพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๔๐
จำเนียร ทรงฤกษ์ ชีวประวัติพุทธสาวิกา ฉบับสำนักปฏิบัติธรรมสวนแก้ว กรุงเทพมหานคร พิมพ์ครั้งที่ ๒๕/๒๕๑๕
คณะผู้จัดทำพจนานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติ พจนานุกรม ฉบับเฉลิมพระเกียรติ กรุงเทพมหานคร โรงพิมพ์วัฒนาพานิช พิมพ์ครั้งที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๐
--------------------------------------------------------------------------------
[๑] อนุธรรมคือสิกขาบท ๖ ข้อ ที่สามเณรีต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตลอด ๒ ปี ได้แก่ ๑. ไม่ฆ่าสัตว์ ๒. ไม่ลักทรัพย์ ๓. ประพฤติพรหมจรรย์ ๔.ไม่พูดเท็จ ๕.ไม่ดื่มสุราเมรัย ๖.ไม่บริโภคอาหารเวลาวิกาล
ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า ชื่อว่าภิกษุณี เพราะเป็นผู้ขอ เพราะประพฤติสิกขาจริยวัตร เพราะทรงผ้าที่ถูกทำลายแล้ว เพราะสมญา เพราะปริญญา เพราะความหมายว่าเป็นเอหิภิกษุณี เพราะเป็นผู้อุปสมบทแล้วด้วยไตรสรณคมณ์ เพราะเป็นผู้เจริญ เพราะเป็นพระเสขะ เพราะเป็นผู้อันสงฆ์สองฝ่ายพร้อมเพรียงกันอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถกรรมอันไม่กำเริบแก่ฐานะ (วินย.ภิกฺขุนี.๓/๖๕๘/๔)
[๒] ในมธุรัตถวิลาสินีแสดงลำดับการจำพรรษาของพระพุทธเจ้าว่าในพรรษาที่ ๑๕ ทรงจำพรรษาที่นิโครธารามเมืองกบิลพัสดุ์. (พุทธ.อ.หน้า ๕)
การจัดลำดับบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา จัดภิกษุณีอยู่ในอันดับรองจากภิกษุ เพราะอยู่ฝ่ายบรรพชิต แต่ถ้าจัดตามลำดับการเกิดขึ้นก่อนหลังภิกษุณีจะจัดอยู่ในอันดับสุดด้าย เพราะบริษัทนี้เกิดขึ้นในอันดับสุดท้ายและเกิดขึ้นด้วยความยากลำบากไม่เหมือนบริษัทอื่น ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงพุทธบริษัทผู้ที่ทำหน้าที่จะทำหน้าที่สืบอายุพระพุทธศาสนาว่ามี ๔ จำพวก ได้แก่ พระสาวก พระสาวิกา อุบาสก และอุบาสิกา ในฝ่ายบรรพชิตคือสาวกกับสาวิกา ต้องเป็นพระเถระ หรือพระเถรี ทั้งมีวัยปูนกลางและวัยนวกะ มีความรู้เชี่ยวชาญฝึกฝนอบรมตนมาแล้วอย่างดี และสามารถปราบปรับวาทะคือข้อโต้แย้งจากฝ่ายตรงข้าม ในฝ่ายคฤหัสถ์คือ อุบาสกกับอุบาสิกาต้องเป็นทั้งประเภทพรหมจารีและพรหมจาริณี ที่มีความรู้ความสามารถเช่นเดียวกับบรรพชิต หลักฐานนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า พุทธบริษัทผู้จะสืบอายุพระพุทธศาสนาบำเพ็ญประโยชน์แก่ชาวโลกได้นั้น นอกจากมีคุณธรรม มีความประพฤติอันเป็นคุณสมบัติภายในตนอย่างดีแล้ว จะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญในหลักคำสอนฝ่ายตนเองจนสามารถสอนคนอื่นได้ เอาชนะการรุกรานทางหลักธรรมจากลัทธิศาสนาอื่นๆ คุณสมบัติเหล่านี้เป็นปัจจัยให้พระสาวก ต้องมีความรู้ความชำนาญในหลักลิทธิศาสนาและหลักวิชาอื่นๆ เกี่ยวข้องด้วย หากไม่ได้ศึกษามาก่อนต้องมาศึกษาเพิ่มเติมในภายหลัง. (ที.ปา.๑๑/๑๗๕/๑๐๘).
[๓] วินัย.อ.๑/๔๕/๒๕๔
[๔] วินัย.จูฬ.๗/๔๐๒/๒๓๑,องฺ.อฏฺฐก.๒๓/๕๑/๒๒๗
[๕] วินัย.จูฬ.๗/๕๐๓/๒๓๔
[๖] ขุ.ขุ.๒๕/๑/๑
[๗] สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระวชิรญาณวโรรส, วินัยมุข เล่ม ๑ , หน้า ๑๖๗
[๘] อนุชานามี ภิกฺขเว ทฺว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขิตสิกฺขาย วุฏฺฐานสมฺมตึ ทาตํ (วินย.ภิกฺขุนี.๓/๑๐๘๔/๑๗๓)
[๙] อนุชานามิ ภิกฺขเว ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนิโย อุปสมฺปาเทตํ(วินย.จูฬ.๑/๔๒๔/๒๕๘)
[๑๐] วินย.อ.๑/๔๕/๒๕๔.
http://www.agalico.com/board/showthr...t=29598&page=3
<!-- / message -->