คติธรรมคำกลอน

กระทู้: คติธรรมคำกลอน

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. ปีศาจ said:

    Re: คติธรรมคำกลอน

    หากวันนี้เรายอมถอยหลังกลับไป
    โดยที่ไม่แม้แต่จะก้าวไปข้างหน้าหรือลงมือทำอะไร
    เพียงเพราะใจเราบอกว่าไม่ไหวหรอก ทำไม่ได้หรอก
    ก็สมควรแล้วที่จะกลายเป็นผู้แพ้ตลอดกาล

    ผู้แพ้ที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลยสักอย่าง
    แล้วอย่างนี้จะมีหน้าไปอวดใครได้
    จะมีอะไรให้น่าภูมิใจ ให้น่าจดจำไหม

    บางครั้งเราอาจจะเห็นคนอื่นทำในสิ่งที่เรากำลังจะลงมือทำ
    เขาทำมาก่อน เขาทำได้ดีกว่า เราก็ท้อ ไม่อยากทำ
    เพียงเพราะเรากลัวสู้เขาไม้ได้ กลัวจะถูกคนอื่นว่าด้อยฝีมือ ฯลฯ

    แล้วถ้าเราไม่เคยลงมือทำเลยล่ะ นั่นก็หมายความว่าเราสู้เขาไม่ได้ตั้งแต่ต้นแล้วสิ
    อย่างนี้ก็แสดงว่าเราเป็นผู้แพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงมือทำอะไรเลย

    แล้วเราอยากผูกความเป็นผู้แพ้ไว้กับตัวตลอดไปอย่างนั้นหรือ
    คงไม่มีใครอยากเป็นเช่นนั้น ว่าไหม

    แต่ถ้าเราเริ่มต้นที่จะออกเดิน เริ่มต้นที่จะทำมัน
    นั้นก็หมายความว่าเรามีโอกาสชนะ เราอาจจะสู้เขาได้

    ถ้าเพียงวันนี้เราลองที่จะก้าวขาข้างหนึ่งออกเดินไป
    ลองที่จะลงมือทำในสิ่งที่ตนตั้งใจ ก็คงจะไม่มีสิ่งใดเหลือบ่ากว่าแรงหรอก

    ในอัตตภาพของมนุษย์นั้นได้เอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก่การคิด
    การสร้างสรรค์ รวมทั้งความสามารถที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆ
    ให้สำเร็จได้ แล้วเรายังจะต้องการอะไรอีก

    เขามีมือ เราก็มีมือ เขามีสมอง เราก็มีสมอง
    เราก็ไม่ได้มีอะไรด้อยไปกว่าเขาเลย
    (ขอเสริม : เราจะไม่พูดกันถึงเรื่องเงินทอง รวมถึงเวลา เพราะถ้าเราพูดด้วยเรื่องนี้ เราก็จะเป็นผู้แพ้ตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว มันเกี่ยวอะไรด้วยหรือในเรื่องเงินทองกับเวลา ทุกคนมีเวลาวันละ24ชั่วโมงเท่ากัน มันก็ไม่ต่างอะไร และอย่าบอกว่าไม่มีเวลา เพราะเราไม่รู้จักจัดการเวลา ไม่รู้จักค่าของเวลา มัวหลงระเริงกับการใช้ชีวิตเพื่อบำเรอตัณหาตนเอง จะโทษคนอื่นได้ไง แล้วในส่วนของเรื่องเงินทอง มันคือพระเจ้าหรือ มันเป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย โคตรเหง้าวงศ์ตระกูลหรือ ขอถามหน่อย มันเป็นทั้งหมดในชีวิตของเราหรือ เราเกิดมามันก็ติดมือออกมาจากท้องแม่เลยหรือ หรือว่ามันถูกส่งมาให้จากชาติที่แล้ว ถ้าแบบนี้ก็น่าคิดอยู่ อย่าเพียงได้อ้างว่าเพราะเขามีเงินมากกว่าเขาก็เลยทำอะไรได้มากกว่า ถ้าคิดแบบนั้น ก็ขอให้มีความสุขกับการเป็นผู้แพ้ไปทุกๆชาติเลยนะ หรือตัดมือ ตัดเท้า ควักสมองทิ้งเลยก็ได้ ถ้าเงินสำคัญมากนักสำหรับชีวิตนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเงินสำคัญในการใช้ชีวิตอยู่พอสมควร แต่เราเลือกที่จะเป็นอะไรกับเงินล่ะ เป็นนายหรือเป็นทาส ใช่เราต้องเลือกเป็นนายสิ แล้วการกระทำล่ะ ดูเมือนเราจะเป็นทาสมันด้วยซ้ำ นั่นจะมีประโยชน์อะไร ก็คงจะไม่ต้องพูดกันอีก)
    เมื่อเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้สิ
    เพียงแต่อาจจะยังได้ดีไม่เท่าเขา
    แล้วจะเป็นไรไปล่ะ
    ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าเริ่มต้นลงมือทำ
    ของมันพัฒนากันได้ สักวันเราอาจจะทำได้เท่าเขา หรือดีกว่าเขา
    แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

    สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่า เราได้ลงมือทำแล้วต่างหาก
    เราได้พิสูจน์ตัวเองในอัตตภาพของมนุษย์แล้ว
    ที่เหลือก็อยู่ที่ความตั้งใจจริง และความพยายามให้ถึงที่สุดเท่านั้น
    จะได้หรือไม่ได้ไว้ค่อยว่ากันอีกที

    เก็บความผิดพลาดล้มเหลวไว้เป็นบทเรียน
    เก็บชัยชนะและความภูมิใจไว้เป็นสิ่งเตือนสติ

    ไม่มีใครกล้าติหรอกสำหรับคนที่ลงมือทำ
    แต่สำหรับคนที่ไม่ลงมือทำนี่สิสมควรน่าติยิ่งนัก

    เวลาให้โอกาสกับเราเสมอ
    อยู่ที่เราพร้อมหรือยังที่จะรับโอกาสนั้น

    ไม่มีโอกาสพิเศษสำหรับห้องแอร์
    ไม่มีการตัดทอนโอกาสสำหรับกระท่อมมุงจาก

    มันอยู่ที่ว่าใครจะเริ่มออกเดินและลงมือทำ
    เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าเราไม่ใช่ผู้แพ้
    และสมควรที่สุดที่จะได้รับเสียงปรบมือ
    เพราะเจ้ามาจากดิน
    แม้ว่าเจ้าจะโบยบินไปไกลแสนไกล
    แต่สุดท้าย...เจ้าก็ต้องกลับคืนสู่ดิน...
    ...ดิน...ที่เจ้าจากมา...
    http://learnkaweethai.blogspot.com
     
  2. ปีศาจ said:

    Re: คติธรรมคำกลอน

    ลองคิดตามดูนะ

    ในปัจจุบันนี้ได้มีการเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมกันมากขึ้น
    หันมาสนใจวัฒนธรรมอันดีงามกันมากขึ้น
    มีการจัดตั้งกลุ่มสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมมากมาย

    แต่มันก็ได้ทำให้เกิดจุดสังเกตที่ว่า เรารักษ์วัฒนธรรมของเราจริงหรือ
    หรือเพียงแค่อยากกอบโกยเงินของชาวต่างชาติเท่านั้น

    ที่เราบอกว่ารักษ์ๆๆๆๆๆๆๆ นั้นน่ะ รักษ์กันที่ตรงไหน
    ถ้าดูตามสภาพการณ์แล้ว
    เรานำวัฒนธรรมอันดีงามเป็นแบบแผนดั้งเดิม
    ไปประยุกต์ใช้เสียหมด

    แต่ก็มีบางคนกล่าวว่า ก็เพื่อให้เข้ากับยุกต์กันสมัย
    เพื่อให้สะดวกสบาย เพื่อชาวต่างชาติจะได้เข้าใจ
    และรับวัฒนธรรมของเราไปได้ง่ายๆ

    แล้วเราไม่คิดหรือว่าลูกหลานเราจะรู้สึกอย่างไร
    เมื่อในวันหนึ่งพวกเขาต้องการที่จะเรียนรู้รากเหง้าของวัฒนธรรม
    ของเขาอย่างแท้จริง

    ในเมื่อเรานำไปประยุกต์เสียหมดแล้ว
    แล้วจะเหลืออะไรที่มันแท้จริงไว้สืบทอดแก่ลูกหลาน

    และอีกอย่างบรรพบุรุษของเราจะคิดอย่างไร จะรู้สึกอย่างไร
    ในเมื่อวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียนประเพณีที่พวกท่าน
    สั่งสมและสืบทอดมา ต้องมีอันผิดแผกไปจากเดิม

    เคยคิดบ้างไหม หรือเพียงแค่อยากจะทำอะไรให้มันง่ายและรวดเร็วก็พอ

    มันก็ไม่ผิดน่ะที่ประยุกต์วัฒนธรรมเพื่อให้เข้ากับโลกยุกโลกาภิวัตน์
    แต่อยากจะขอไว้อย่างหนึ่ง เมื่อประยุกต์แล้วก็ของให้รักษาวัฒนธรรมอันเดิมไว้
    ควบคู่กันไปด้วยจะเป็นการดีที่สุด

    เพราะไม่ใช่เพื่อใครหรอก ก็เพื่อลูกหลาของเราเองนี่แหละ จะได้สืบสานสิ่งที่แท้จริงต่อไป

    ที่ข้าพเจ้าพูดมานี้ก็ไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวหาอะไรใครทั้งนั้น
    แต่มันอดพูดไม่ได้ เมื่อต้องเห็นวัฒนธรรมต่างๆที่เป็นของดั้งเดิมต้องมาเปลี่ยนแปลงไป
    จนยากที่จะหาคนสืบทอดหรือถ่ายทอดได้แล้วในปัจจุบันนี้

    ข้าพเจ้าก็เป็นเพียงเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งเป็นเพียงคนธรรมดา
    ที่อยากจะอนุรักษ์และสืบสานศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม
    อันเป็นแบบบเบ้าโบราณดั้งเดิมของเราไว้เท่านั้น

    เพราะว่าสิ่งที่บรรพบุรุษฝากไว้กำลังสูญหายไปทุกวินาที
    เพราะเจ้ามาจากดิน
    แม้ว่าเจ้าจะโบยบินไปไกลแสนไกล
    แต่สุดท้าย...เจ้าก็ต้องกลับคืนสู่ดิน...
    ...ดิน...ที่เจ้าจากมา...
    http://learnkaweethai.blogspot.com
     
  3. paobunjin said:

    Re: คติธรรมคำกลอน


    ขอสนับสนุนแนวคิดของคนหนุ่มไฟแรงอย่างคุณปีศาจฯด้วยนะครับ
    เพราะถ้าเราไม่ลงมือทำแล้ว เมื่อไหร่มันจะสำเร็จล่ะ
    เมื่อเราไม่กล้าทำอะไรเสียแล้ว เราก็เป็นผู้แพ้ตลอดกาล
    บรรพบุรุษของเราท่านกล้าหาญ เราจึงมีแผ่นดินอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้

    การประยุกต์วัฒนธรรมก็เหมือนกัน ทำกันแบบมักง่าย
    โดยไม่คำนึงถึงรากเหง้าแห่งวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษท่านได้สืบทอดต่อๆกันมาเลย

    สรุปแล้ว สนับสนุนคุณปีศาจฯนะครับ

    ลุงเปา
    ชีวิตของฉันมันสนุกดี มีทุกรสทุกชาด <br />มีพรแสวงเป็นเส้นทาง... <br />มีความสว่างแห่งธรรมะ เป็นเส้นชัย <br />ยังมีหัวใจเป็นปุถุชน ที่ยิ้มสู้อยู่เสมอ.... <br />ขอมีเธอเป็นเพื่อนใจ อยู่เคียงใกล้ทุกวันคืน.... <br />[COLOR=#c00000]มีความฝันในยามตื่น เพื่อพลิกฟื้นสู่ความจริง&nbsp; [/
     
  4. ปีศาจ said:

    Re: คติธรรมคำกลอน

    ขอสาธุดังๆกับลุงเปาด้วยนะครับ

    และก็ขอบพระคุณทำอุตสาห์สละเวลา
    แวะมาเยี่ยมเยือนกัน
    เพราะเจ้ามาจากดิน
    แม้ว่าเจ้าจะโบยบินไปไกลแสนไกล
    แต่สุดท้าย...เจ้าก็ต้องกลับคืนสู่ดิน...
    ...ดิน...ที่เจ้าจากมา...
    http://learnkaweethai.blogspot.com
     
  5. ปีศาจ said:

    Re: คติธรรมคำกลอน

    ต้องขออภัยทุกท่านที่เข้ามาอ่านบอร์ดด้วยเป็นอย่างยิ่ง
    หลายๆท่านอาจจะรำคาญด้วยข้อความที่อาจจะเห็นว่าไร้สาระบ้าง
    ไม่เป็นประโชยน์บ้าง ไม่ใช่ทางสู่ธรรมบ้าง

    ถ้าคิดเช่นนั้นผมก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆกัยท่านทั้งหลาย
    แต่ผมที่ผมเขียนลงไว้ก็ไม่ใช่เพื่ออยากจะอวดอ้างอะไรทั้งนั้น
    แต่ที่ผมลงไว้นั้น ประเด็นหลักก็คือเพื่อเตือนสติตนเอง
    ว่าตอนนี้อยู่จุดไหนและคิดที่จะทำอะไร

    ก็คงไม่ผิดหรอกนะครับหากคนผู้หนึ่งจะมีอะไรสักอย่าง
    หรือมีคำพูดไว้เตือนสติตนในแต่ละเรื่อง

    ต้องขออภัยอีกครั้งหากข้อความทั้งหลายเป็นที่ขัดใจและไม่พอใจแก่ท่าน
    กระผมก็ขอรับผิดไว้เพียงผู้เดียว

    สวัสดีครับ
    เพราะเจ้ามาจากดิน
    แม้ว่าเจ้าจะโบยบินไปไกลแสนไกล
    แต่สุดท้าย...เจ้าก็ต้องกลับคืนสู่ดิน...
    ...ดิน...ที่เจ้าจากมา...
    http://learnkaweethai.blogspot.com
     
  6. paobunjin said:

    Re: คติธรรมคำกลอน


    คิดดีๆอย่างนี้ คิดดังๆให้คนอื่นๆได้ฟังด้วยบ่อยๆเถิดนะ

    ลุงเปา
    ชีวิตของฉันมันสนุกดี มีทุกรสทุกชาด <br />มีพรแสวงเป็นเส้นทาง... <br />มีความสว่างแห่งธรรมะ เป็นเส้นชัย <br />ยังมีหัวใจเป็นปุถุชน ที่ยิ้มสู้อยู่เสมอ.... <br />ขอมีเธอเป็นเพื่อนใจ อยู่เคียงใกล้ทุกวันคืน.... <br />[COLOR=#c00000]มีความฝันในยามตื่น เพื่อพลิกฟื้นสู่ความจริง&nbsp; [/
     
  7. ปีศาจ said:

    Re: คติธรรมคำกลอน

    ถ้าถามว่าเราจะเดินทางจากลำปางไปกรุงเทพฯนั้นสามารถไปได้กี่เส้นทาง
    มันก็คงมีหลายเส้นทางที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯได้
    บางคนบอกว่าให้ขึ้นไปทางเหนือก่อนแล้วค่อยลงมาทางใต้
    บางคนบอกว่าให้ไปทางตะวันออกก่อน
    บางคนบอกว่าให้ไปทางตะวันตกก่อน
    บางคนบอกว่าให้ไปทางใต้เลยเร็วดี
    ถ้าเราไม่รู้ว่ากรุงเทพฯอยู่ทางไหนของลำปาง
    เราก็คงจะต้องตระเวนไปตามทางเสียก่อน
    ถ้าผิดทางเราก็วกกลับไปใหม่ จะได้รู้ว่าทางนี้ไม่ใช่
    แต่เชื่อไหมว่า ไม่ว่าจะเดินทางไปทางไหน เส้นทางแต่ละเส้นล้วนบรรจบกัน
    เมื่อเรามีจุดหมายปลายทางที่กรุงเทพฯ
    ทุกเส้นทางทั้งเหนือใต้ออกตกล้วนแต่พาเราไปกรุงเทพฯไปทั้งนั้น
    เพียงแต่ถ้าไปทางเหนือก่อน หรือ ตะวันตก ตะวันออกก่อน อาจจะถึงช้ากว่า ลงไปทางใต้เลย
    แต่สิ่งที่ได้ก็คือประสบการณ์ที่เราได้รับในแต่ละเส้นทางนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเก็บเกี่ยวมันได้มากขนาดไหน
    ทุกเส้นทางล้วนแต่มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน
    การปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน หากมีจุดหมายเดียวกันแล้ว คือความดับแห่งกองทุกข์ทั้งปวง
    ไม่ว่าสายไหนก็นำไปถึงจุดหมายเช่นกัน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้น
    เพราะเจ้ามาจากดิน
    แม้ว่าเจ้าจะโบยบินไปไกลแสนไกล
    แต่สุดท้าย...เจ้าก็ต้องกลับคืนสู่ดิน...
    ...ดิน...ที่เจ้าจากมา...
    http://learnkaweethai.blogspot.com
     
  8. รูปส่วนตัว noppakorn

    noppakorn said:

    Re: คติธรรมคำกลอน

    สาธุ ๆๆ อนุโมทนามิครับ ทั่นปีศาจฯ
    การตั้งชื่อและแปลชื่อโดยคุณอุบาสกนพกรณ์
    จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน
    - ของดตอบคำถามเป็นการส่วนตัว
    - ของดการแจ้งลบกระทู้ (โดยไม่มีเหตุอันควร) หลังจากที่ได้คำตอบแล้ว
    - กรุณาตั้งคำถามให้ตรงตามหมวดหมู่อักษร
    - ขอตอบวันละ 3 ชื่อ (กรุณารอคิวหากมีผู้ถามเข้ามามาก)


    ขอชื่อใหม่ต้อง...
    1. แจ้งชื่อนามสกุลหรือทักษาเลข
    2. วันเกิด(จ-อ)
    3. อาชีพ
    4. เหตุผล(เพื่อวิเคราะห์ชื่อมงคล)
     
  9. ปีศาจ said:

    Re: คติธรรมคำกลอน

    "วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาของบางคน
    อาจจะไม่ใช่วิธีที่ใช่สำหรับใครอีกคน
    ต่างคนต่างที่มา ต่างคนต่างปัญหา
    จึงไม่มีวิธีการที่แน่นอนตายตัว
    รวมถึงความสามารถต่างๆ
    เพื่อที่บุคคลนั้นจะนำมา
    ในการแก้ไขปัญหา
    มันไม่ผิดหรอก
    ที่เขาคนนั้น
    จะปฏิเสธ
    วิธีการ
    ของ
    คุณ"
    เพราะเจ้ามาจากดิน
    แม้ว่าเจ้าจะโบยบินไปไกลแสนไกล
    แต่สุดท้าย...เจ้าก็ต้องกลับคืนสู่ดิน...
    ...ดิน...ที่เจ้าจากมา...
    http://learnkaweethai.blogspot.com
     
  10. plyfha said:

    Re: คติธรรมคำกลอน

    สวัสดีค่ะ