[JUSTIFY]ขอเชิญอ่าน มโหสถบันฑิต ภาคแรกได้ที่นี่ครับ http://www.watkoh.com/board/index.php?topic=2194.0
มโหสถภาคแรก กำลังรวบรวมจัดรูปเล่ม เตรียมพิมพ์ ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์เล่มละ 35 บาท ไม่ต้องการขาย แต่ต้องการหาเจ้าภาพจัดพิมพ์เพื่อแจกจ่ายแก่ญาติธรรมและผู้สนใจ ขอเชิญแสดงประสงค์ได้ที่นี่ครับ
โต ปฏฺฐาย ปณฺฑิโต
[JUSTIFY ALIGN=JUSTIFY] ต่อไปนี้ว่าด้วยตอนสุดท้ายของเรื่องมโหสถ เริ่มแต่ตอน มโหสถกำจัดข้าศึกภายใน คือนักปราชญ์ทั้ง 4 ให้ราบคาบแล้วไป จำเดิมแต่นั้นมา มโหสถก็รับหน้าที่สั่งสอนอรรถธรรมแก่สมเด็จพระเจ้าวิเทหราชเป็นนิตยกาล ครั้นนานมาพระมโหสถก็ได้คิดจัดการบ้านเมืองไว้ต่อสู้ศัตรูภายนอกให้เรียบร้อยเป็นอันดีทุกประการ ทั้งพระองค์ก็ได้ทำการติดต่อกับพ่อค้าต่างประเทศ เพื่อรู้จักเหตุภัยอันจะมีมาแต่ภายนอกและพระองค์ให้ช่างทำเครื่องราชูปโภค คือ กุณฑล 1 ฉลองพระบาท 1 ดอกไม้ทอง 1 พระแสงขรรค์ 1 ให้ครบกษัตริย์ในชมพูทวีปทั้งปวง แล้วจารึกอักษรเป็นพระนามของพระองค์ ลงไปในเครื่องราชูปโภคทั้งปวงนั้นแล้วทรงอธิษฐานว่า ถ้าข้าพเจ้ายังไม่ต้องการให้อักษรนี้ปรากฏอยู่ตราบใด อักษรเหล่านี้ขอจงอย่าปรากฏแก่คนทั้งหลายอยู่ตราบนั้น ครั้นแล้วจึงให้สหชาตโยธาของพระองค์ร้อยเอ็ดคน นำเครื่องราชูปโภคเหล่านั้น ไปถวายแก่พระมหากษัตริย์ในร้อยเอ็ดราชธานี องค์ละสิ่งๆ ตามแต่องค์ไหนจะพอพระทัยอย่างไหน และกำชับให้สหชาตโยธาเหล่านั้นอยู่เป็นข้าเฝ้าของกษัตริย์องค์นั้นต่อไป<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>[/JUSTIFY ALIGN]
[JUSTIFY] ในครั้งนี้ มีกษัตริย์พระองค์หนึ่งทรงพระนามว่าสังขพละ ในกัมพลนคร ได้เตรียมเครื่องสรรพาวุธและพลโยธาไว้เป็นอันมาก บุรุษสอดแนมของพระบรมโพธิสัตว์เจ้าก็แอบส่งข่าวมาถึง พระบรมโพธสัตว์เจ้าจึงโปรดให้นกแขกเต้าของพระองค์ ซึ่งได้ทรงเลี้ยงมาเป็นอันดี ไปสืบข่าวว่าจะเป็นประการใด นกแขกเต้านั้นก็ไปสืบข่าวให้ฟังเอาข้อราชการในกัมพลนครได้ตระหนักแน่แล้ว ก็ไปเที่ยวสืบข่าวในเมืองอื่นๆ อีกต่อไป
จนกระทั่ง ถึงอุตตรปัญจาลนคร ซึ่งเป็นนครของ พระเจ้าจุลนีพรหมทัตๆ นั้น มีปุโรหิตอยู่คนหนึ่ง ชื่อว่า เกวัฏฏพราหมณ์ๆ คนนี้เป็นคนมีสติปัญญาเฉียบแหลม ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อเกวัฏฏพราหมณ์ตื่นนอนขึ้นในเวลาจวนใกล้รุ่ง เล็งดูที่อยู่ที่นอนอันรุ่งเรืองของตนแล้วก็คิดว่า เราได้ความสุขเช่นนี้ ก็เพราะพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานให้แก่เรา เราควรจะชักนำให้พระเจ้าอยู่หัวทำสงคราม ปราบปรามกษัตริย์ในชมพูทวีปให้อยู่ในอำนาจสิ้น เพื่อให้พระเจ้าอยู่หัวของเราได้เป็นใหญ่ยิ่งในปฐพี ตัวของเราก็จักได้เป็นปุโรหิตผู้ล้ำเลิศ ครั้นคิดแล้วถึงเวลาเข้าเฝ้า จึงกราบทูลพระเจ้าจุลนีว่า ตนมีความลับที่จะกราบทูลให้ทรงทราบ แล้วเชิญพระเจ้าจุลนีให้เสด็จออกจากพระราชวังไปประทับที่พระราชอุทยาน จัดการระมัดระวังเป็นอันดี จึงอัญเชิญพระเจ้าจุลนีให้เสด็จไปประทับที่พระแท่นสิลาอาสน์ สองต่อสองกับตน เมื่อนกแขกเต้าได้สังเกตเห็นกิริยาของพระเจ้าจุลนี และเกวัฏฏพราหมณ์ดังนั้น ก็ติดตามออกไปดู บินซ่อนอยู่ที่กิ่งไม้รังตรงที่ประทับนั้น พระเจ้าจุลนีจึงตรัสถามเกวัฏฏพรหมร์ขึ้นว่า ความลับนั้นเป็นประการใด เกวัฏฏพราหมณ์กราบทูลว่า ความลับนี้เป็น จตุกรรณมนต์ คือให้ได้ยินได้แต่ 4 หูเท่านั้น ว่าแล้วก็ทูลชี้แจงอุบายของตนให้ทรงทราบโดยละเอียดว่า
ข้าพระพุทธเจ้าได้คิดไว้ว่า จะให้พระองค์กรีฑาทัพไปปราบปรามบ้านเล็กเมืองน้อยให้อยู่ในเงื้อมมือเป็นลำดับไป แล้วจึงยกไปล้อมเมืองใหญ่ๆไว้ พอล้อมไว้แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าจะเข้าไปเกลี้ยกล่อมให้เป็นพรรคพวก ถ้าไม่ยอมเราก็จะตีเมืองนั้นให้แตก แล้วจึงยกไปกระทำแก่เมืองอื่นต่อไป เมื่อได้หมดทุกเมืองแล้ว จึงจะเลี้ยงเหล้าชัยบานอันเจือ ด้วยยาพิษให้กษัตริย์เหล่านั้นสิ้นชีวิตไปเสียให้หมด เมื่อทำได้อย่างนี้แล้วพระองค์ก็จะได้เป็นกษัตริย์ผู้ประเสริฐ ไม่มีผู้ใดเทียมถึง ในชมพูทวีปทั้งสิ้น เมื่อพระเจ้าจุลนีได้ทรงสดับอุบายนี้แล้ว ก็ทรงยินดีตาม จึงตรัสว่า ขอท่านอาจารย์จงจัดการตามความคิดเถิด
เวลานั้น นกแขกเต้าก็ขี้รดมาถูกศีรษะเกวัฏฏพราหมณ์ พอเกวัฏฏพราหมณ์แหงนหน้าขึ้นไปกำลังอ้าปากพูดว่า นกอะไรขี้ใส่หัวเรา นกแขกเต้าตัวนั้นก็ขี้รดลงมาถูกปากของ เกวัฏฏพราหมณ์อีก แล้วก็ร้องอีกว่า กิริๆ เป็นภาษานก แล้วบินไปจับกิ่งไม้นั้น จึงพูดเป็นภาษามนุษย์ขึ้นว่า ดูก่อนเกวัฏฏพราหมณ์ ท่านเข้าใจความคิดอันนี้รู้แต่ 4 หูเท่านั้นหรือ บัดนี้ กลายเป็น 6 หูไปแล้ว ไม่ช้าก็จะกลายเป็น 8 หูและ 100 หู 1000 หูต่อไป พระเจ้าจุลนีและเกวัฏฏพราหมณ์ก็ร้องสั่งพลทหารขึ้นทันทีว่า พวกเจ้าจงช่วยกันจับนกแขกเต้าตัวนี้ให้ได้ แต่นกแขกเต้านั้น ได้นิบหนีไปอย่างรวดเร็ว
โปรดติดตามตอนต่อไป[/JUSTIFY][/JUSTIFY]