เรียนถามเรื่องการนำอาหารไปถวายที่วัด

กระทู้: เรียนถามเรื่องการนำอาหารไปถวายที่วัด

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. rain.... said:

    เรียนถามเรื่องการนำอาหารไปถวายที่วัด

    คือเรื่องมีอยู่ว่า :P ฝนไปทำบุญที่วัดน่ะค่ะ แล้วเปนคนที่ชอบทำกับข้าวไปวัดแบบยกหม้อหรือใส่ถาดไปแบบเยอะๆน่ะค่ะ ละทีนี้วันนั้นพอถวายพระเสร็จ พระให้พรเสร็จสัพ จะมีแม่ครัวและคนที่ไปทำบุญที่วัดยกอาหารที่เหลือจากพระตักแล้วไปที่โรงอาหารสำหรับให้ญาติโยมได้รับประทานกัน เค้าก็ยกไปๆ พอถึงหม้อแกงและถาดผัดที่ฝนทำไปถวายพระ ปรากฏว่าเค้าไม่ยกไปที่โรงครัว สักพักฝนรอจนเค้ายกไปหมดเกือบทุกอย่างน่ะค่ะ คือมันจะเหลือเป็นของที่เรียกว่า...อืม...น่ากิน หรือเป็นอาหารชั้นดีหน่อย มาณนั้นอ่ะค่ะ (ตรงนี้ฝนคิดเอาเองนะคะ) ฝนก็รอๆๆเค้าก็ไม่ยกไปโรงอาหารสักที ฝนรอจะเอาหม้อและถาดกลับบ้านน่ะค่ะ ฝนเลยเข้าไปขอถาดและหม้อ แม่ครัวบอก(เหมือนจะตะโกนเสียงดังแบบคล้ายๆดุอ่ะ) ว่าเดี๋ยวของพวกนี้จะเอาเข้าในครัว ฝนก็อ้าว!!!!(นึกในใจ)ละไม่เอาไปให้ญาติโยมทานกันล่ะ ฝนก็เลยบอกว่า ค่ะแต่จะขอหม้อและถาด เพราะจะกลับบ้านแล้ว เค้าเลยเทใส่หม้อของวัด ฝนเลยลองตามดูว่ากับข้าวของฝนทำไมไม่เอาให้ญาติโยมได้กินกัน เพราะคือเราไปทำบุญเราก็อยากเห็นพระได้ฉันอาหารของเรา อยากเห็นญาติโยมได้ทานอาหารของเราจนหมดใช่ป่ะคะ แต่นี่เอาเข้าในครัวแล้วห่อกลับบ้าน บ้างก็ให้ญาติพี่น้องเอากลับบ้าน ทำไมอ่ะ? งง ฝนเลยเกิดความคิดแบบ ไม่พอใจเล็กๆน่ะค่ะ เลยอยากถามว่า ฝนจะได้บุญหรือได้บาปในครั้งนี้


    ปล. ตอนนี้ฝนย้ายวัดแล้วอ่ะ ที่วัดแห่งใหม่ พระเดินลงมาตักอาหารที่โต๊ะแล้วให้ญาติโยมมาตักรัปประทานกันต่อจนของหมด เห็นอาหารของเราหมดเราก็รู้สึกดีใจและอิ่มอกอิ่มใจนี่นา มีใครเคยเจอแบบฝนบ้างอ่ะคะ
    ศรัทธา  ในสิ่งที่ค้นหา  มั่นคงในสิ่งที่เป็น  แบ่งปันในสิ่งที่ค้นพบ
     
  2. ga said:

    Re: เรียนถามท่านผู้รู้ (อีกแระ)

    ไม่ใช่ผู้รู้หรอกค่ะ แต่อยากให้คุณฝนสบายใจนะค่ะ คุณฝนตั้งใจทำบุญก็ถือว่าคุณฝนได้บุญแล้วค่ะ ที่เหลือก็เป็นการให้ทาน
    คุณฝนสละแล้วไม่ยึดว่าอาหารนั้นเป็นของคุณฝนอีก ใครจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของเขา คุณฝนอย่าไปเป็นทุกข์เลยนะค่ะ
     
  3. รูปส่วนตัว D E V

    D E V said:

    Re: เรียนถามท่านผู้รู้ (อีกแระ)


    อ่ะคับ ตามที่คุณ ga กล่าวเลยคับ ซ้าๆๆๆทุ้คับ

    ต้องขออนุโมทนากับคุณ rain ด้วยนะคับ
    ที่นำข้าวปลาอาหารไปร่วมทำบุญที่วัด
    อาหารนั้นก็ได้ถวายพระแล้ว พระท่านก็ได้ตักฉันแล้ว
    ที่เหลือเราก็แบ่งกันทาน ให้ญาติโยมที่ไปทำบุญได้ทานกัน

    แม่ครัวซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลืองานวัด...ก็ให้เค้าได้ทานด้วย
    ญาติพี่น้องของแม่ครัว...คิดซะว่าก็เหมือนญาติโยมที่มาวัด
    และเค้าอาจจะมาช่วยงานแม่ครัวก็ได้

    ดังนั้น เมื่อตั้งใจให้ทานเป็นกุศลแล้ว
    ใครจะทานก็เหมือนกัน
    ข้าวปลาอาหารนั้นก็เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้ทาน
    จะเป็นใครก็ได้...จะทานที่นี่...หรือตักเก็บไปทานที่บ้านก็ตาม
    แสดงว่าอาหารที่เรานำไปนั้นดูประณีตน่าอร่อย
    น่ายินดีที่ไม่เหลือทิ้งเสียของอ่ะคับ

    (เดฟก็เคยไปทานนะ เพื่อนพาไป)
    (ไปทำบุญเอาอาหารไปถวาย แล้วก็ตักทานร่วมกัน)
    (โห๋ ยังกะกินบุฟเฟ่ต์เลย 55555)
    (อาหารหลากหลายมากมาย อร่อยๆ ทั้งนั้น อิอิ)

    บุญกุศลที่ได้กระทำนั้นก็สำเร็จแล้ว
    ก็อย่าไปคิดอะไรให้เป็นอกุศลจิตบั่นทอนกุศลจิตให้ลดน้อยลงเลยนะคับ
    แต่ถ้ารู้สึกไม่ชอบใจจริงๆ ก็ย้ายไปวัดอื่นบ้างอย่างที่คุณ rain บอก
    ก็ได้ไม่ผิดอะไรอ่ะคับ สบายใจอย่างไร ก็ทำอย่างนั้นนะคับ
    อนุโมทนาคับ




    เดฟ

    สรณะคือพระรัตนตรัย
     
  4. rain.... said:

    Re: เรียนถามเรื่องการนำอาหารไปถวายที่วัด


    ขอบคุณค๊าฟ

    ฝนแค่มานั่งนึกย้อนหลังอ่ะค่ะว่า สิ่งที่ฝนคิดไม่ดี(ที่หลงคิดไปว่าเอ๋าชั้นเอามาชั้นก็อยากเห็นพระฉันและที่เหลือก็อยากเห็นญาติโยมได้ทานกันจนหมดอ่ะ)ตอนนั้นจะทำให้ฝนได้บาปแทนบุญอ่ะค่ะ อิอิ จิงอย่างที่พี่เดฟและคุณ Jaบอกมา ไม่ว่าใครทานก้หมดเหมือนกัน ขอบคุณนะคะ ตอนนี้ไม่คิดไรแล้วอ่ะค่ะ

    และขอบคุณท่าน Dekwat ที่เปลี่ยนชื่อหัวข้อให้นะคะ ฝนคิดอยู่ตั้งนานอ่ะ แต่คิดไม่ออก แฮะๆ
    ศรัทธา  ในสิ่งที่ค้นหา  มั่นคงในสิ่งที่เป็น  แบ่งปันในสิ่งที่ค้นพบ
     
  5. jojo said:

    Re: เรียนถามเรื่องการนำอาหารไปถวายที่วัด

    ขอเสริมนิดนึงครับ คุณฝน การทำบุญ ทำทาน ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม ขอให้ทำให้ขาด หมายความว่าให้แล้วก็จบ ไม่ต้อง คิดต่อ
    ท่านจะเอาไปให้ใคร จะฉัน จะเอาไปทิ้ง ก็เรื่องของท่าน บุญที่คุณฝนได้ เต็มร้อย แต่ถ้าเราให้ไม่ขาดคิดโน่นคิดนี่ ได้บุญแล้วยังได้บาป
    เป็นของแถมชอบหรือเปล่าครับ และผมเชื่อว่ามีไม่น้อยคน ที่มีความคิดแบบคุณฝน มันจะเป็นกรรมกับตัวเรา ต้องระวังให้มากครับ ใน
    เรื่องมโนกรรมโดยเฉพาะกับพระสงฆ์ พระสุปฏิปัณโน และขอฝากอีกนิดคือ การทำบุญไม่จำกัดเฉพาะถวายของกับพระเท่านั้น ขอยก
    บุญกิริยาวัตถุ10คือ ทาน ศีล ภาวนา ช่วยเหลือในการงานที่ชอบ อ่อนน้อมถ่อมตน อุทิศบุญ พลอยยินดี ฟังธรรม แสดงธรรม ทำความเห็น
    ให้ตรงตามธรรม เพียงแค่นี้บุญ ก็กลายเป็นมหาบุญ กุศลก็กกลายเป็นมหากุศล ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่คุณฝนได้ทำมาดีแล้วด้วยครับ