เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2553 ช่วงบ่าย ตำลึงรับโทรศัพท์ เสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของลูกน้องเก่าที่เคยทำงานด้วยกัน "เจ้จะไปส่งหนูมั๊ยหนูจะกลับบ้านไปตามของให้ยายและเอาลูกไปให้แม่เลี้ยงที่พม่าด้วย"
ซึ่งตำลึงก็ถามว่าไปกับใคร เขาบอกไปกับยาย(ยายก็คือนายจ้าง)มีลูกน้องขับรถไป
ตำลึงก็บอกไปว่ามารับสิ ตอนนั้นนายจ้างเอาคนงานไป 4 คนเป็นผู้หญิงชาวต่างด้าวทั้งหมดหนึ่งในนั้นก็คือลูกน้องเก่าของตำลึง

พอไปถึงแม่สอดเข้าที่พักโรงแรม ตำลึง นอนไม่หลับมองดูก็เห็นทุกคนหลับยกเว้นยาย
เขาบอกว่าไปทำธุระตำลึงก็ไม่ได้คิดอะไรก็สวดมนต์ไหว้พระแล้วปิดไฟนั่งสมาธิต่อ
เหมือนมีหลวงพ่อที่ตำลึงนับถือมาบอกให้ออกไปข้างนอกห้อง ตำลึง ก็ออกไปแล้วไป
ได้ยินนายจ้างคนนี้คุยกับคนขับรถก็คือมือปืนว่า คุณนายมาทำอะไรไม่ได้เดี๋ยวเรื่องใหญ่
เท่านั้นแระ ตกใจและกลัวมากก็รีบกลับมาที่ห้องลูกน้องก็ถามว่าเจ้ไปไหนมา ตำลึงบอกว่าลงไปซื้อของใช้
โดยที่ไม่บอกให้พวกเขารู้เลย นึกถึงสามีก็โทรมาปรึกษา แต่ตำลึงก็มีสติทำเฉยนะ

พอเช้าไปท่าเรือข้ามฝั่งพม่า ตำลึงเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่ใจนึกต้องเป็นตำรวจที่แฟนให้ตามคอยดูอยู่ห่างๆแน่
สิ่งที่คิดก็เป็นจริง เป็นตำรวจที่แม่สอดนอกเครื่องแบบ

อยู่ๆยายก็บอกว่ากลับบ้านเถอะ ลูกน้องก็เลยถามว่า ยายไม่ไปตามของที่หายหรอ แต่เขาไม่ตอบเลย
พอเขาพากลับนั่งรถมา ตำลึงก็นึกถึงพ่อแม่และหลวงพ่อให้คุ้มครองตำลึงและคนงานอีก4คน มาถึงสมุทรสาคร 2 ทุ่ม

พอลงจากรถเขา รีบขึ้นบ้านเก็บของแล้วไปหาหลวงพ่อที่วัดเล่าเหตุการณ์ให้ท่านฟังท่านบอกว่า ตำลึง ทำความดีช่วยเหลือส่วนร่วมช่วยวัดมาตลอดคุณพระคุณเจ้าเลยคุ้มครอง
พอวันที่ 17 มกราคม 2553 เวลาบ่าย 3 โมงกว่าได้รับโทรศัพท์คนงานนี้อีกว่า
บอกว่ายายให้คนขับรถมารับไปแปลภาษามอญ ตำลึงห้ามทันทีว่าอย่าไป แต่เขาก็ขึ้นรถแล้ว คนขับรถมันเอาโทรศัพท์แล้วปิดเครื่องติดต่อไม่ได้เลย

จนตีสองของวันที่ 18 มกราคม 2553นั้นแระ ตำลึงได้รับโทรฯจากตำรวจที่ชัยนาท ว่าได้ช่วยเหลือชาวต่างด้าวไว้คนหนึ่งเขาบอกว่าเขาถูกนายจ้างเอาไปเพื่อจะฆ่าเขาปิดปากที่ไปรู้เรื่องไม่ดีที่นายจ้างทำไว้ จะฆ่าตั้งสี่ครั้ง แต่รอดมาได้ค่ะครั้งสุดท้ายก็วันที่ 18 มค 53 เอาไปที่ชัยนาท

ตำรวจบอกว่าเก็บปอกกระสุนได้หลายปอกและเขาเล่าให้ผมฟังว่า
ยิงตั้งหลายครั้งไม่โดนเลยทั้งที่มือปืนยืนไม่ห่างกับน้องคนนี้และบอกว่าเห็นแต่ลูกปืนตรงมาแล้วก็แตกกระจายไป พอเห็นว่าไม่ตายทำอะไรไม่ได้มันก็เอาไฟฟ้าช๊อต แต่ไม่เป็นไร มันก็เลยเอาไปโยนน้ำ ยังรอดมาอีกตำรวจก็ช่วยไว้ที่ชัยนาท

ตำลึงก็บอกฝากตำรวจให้ช่วยดูแลและตำรวจก็ไปฝากไว้ที่สงเคราะห์ ตำรวจเขาสงสัยว่ารอดมาได้ไงต้องมีพระอะไรดีๆติดตัวมาแน่ถูกยิงตั้งหลายนัดไม่โดนเลย
น้องคนนี้เอาพระที่ตำลึงให้ไป ให้ตำรวจดูแล้วบอกว่าเจ้ให้มา ซึ่งเขาอ่านภาษาไทยไม่ออกว่าเป็นพระอะไร พอตำรวจดูแล้วบอกว่าหลวงพ่อเพชร วัดป้อมวิเชียรโชติการาม เขาบอกว่าหลวงพ่อหนูอยู่วัดป้อมฯ
(วัดป้อมวิเชียรโชติการาม พระอารามหลวง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร )



ตอนนี้ตำรวจและสงเคราะห์โทรมาหาตำลึงเพื่อที่จะบูชาหลวงพ่อเพชร แต่ตำลึงได้มอบให้เขาไปส่วนหนึ่งแล้ว
ตำลึง มีอยู่ก็เลยอยากจะให้ทางเวบเอาไปให้สมาชิกบูชา และเป็นที่ยึดทางใจโดยผ่านทางน้องคม
เพราะก็ได้บอกบุญสร้างโบสถ์ที่พลังจิตด้วยค่ะ เป็นกล่องเดียวกับที่ให้ลูกน้องไปค่ะที่มอบให้เวบนี้
ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ ณ วัดป้อมวิเชียรโชติการาม


ตอนนี้ได้ส่งเขากลับพม่าแล้วค่ะแต่ยังโทรคุยกันอยู่

มานึกดูอีกที เรารอดมาได้ไง ทั้งที่เขาจะฆ่าเราเพิ่มอีกคนตั้งแต่ไปแม่สอดครั้งแรกแล้วไม่เห็นจะเป็นไร หรือ เป็น เพราะเราไม่เคยคิดร้ายกับใครมีแต่ช่วยเหลือสังคมและวัดมาตลอดหรือบารมีของหลวงพ่อเพชรกับหลวงพ่อแดงที่อยู่ในโบสถ์วัดป้อมฯที่เรานับถือกราบขอพรทุกวันที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสให้เราถือติดตัวอยู่ตลอด

หลวพ่อแดงก็เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่มากประมาณ 200 กว่าปีแล้วตั้งอยู่คู่กับหลวงพ่อเพชรในโบสถ์

**ไม่คิดแล้ว รอดมาได้และได้ช่วยเหลืออีก 4 ชีวิตก็ดีใจแล้ว**

ตำลึงขอเชิญทุกท่านมากราบหลวงพ่อเพชรกับหลวงพ่อแดงที่วัดป้อมฯค่ะ เพราะตอนนี้ทางวัดกำลังสร้างโบสถ์อยู่



ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ ณ วัดป้อมวิเชียรโชติการาม

ติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่หลวงพ่อเจ้าอาวาส 081-0054466
หรือพระอาจารย์มหาวี (พระเลขา)081-9442634

ที่บัญชี วัดป้อมวิเชียรโชติการาม
เลขที่บัญชี 712-0-26686-1
ธนาคารกรุงไทย
สาขาสมุทรสาคร


__________________
ธรรมะเพิ่มสติทุกข์คลายใจสงบ

[ แก้ไขล่าสุดโดย คนชล เมื่อ 16-02-2010 13:36 ]

ลำปาง108