พิษพจน์ รสวาจา

กระทู้: พิษพจน์ รสวาจา

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. pikulkaew said:

    พิษพจน์ รสวาจา

    อาวุธใด........ในพิภพ.....ไม่ลบปาก
    ถึงน้อยมาก....ฟันผาด.....ขาดเป็นสิน
    จะเป็นตาย.....จะดีร้าย.....จะขายกิน
    ในโลกสิ้น......สามภพ......จบเจรจา

    คมสามารถ....ศาสตรา......สิ้นทั้งหมด
    ฉันว่ารส.........เล่ห์ลม........นั้นคมกว่า
    พาลจะเชือด....เลือดเนื้อ.....เอาเกลือทา
    ชาวโลกา........เห็นแท้........ว่าแผลตาย

    คมวาจา..........ถ้าหาก........จะถากถาง
    ให้เห็นทาง.......แทบถึง.......ซึ่งฉิบหาย
    บางทีก็...........พอช้ำ..........ระกำกาย
    บางคนตาย......ด้วยรส.........พจนา

    ไม่ต้องปั่น........ฟันเชือด......ให้เลือดตก
    เจ็บในอก.........ซ้ำคำ...........ที่ร่ำว่า
    ถึงคมกรด........ไม่เท่ารส......ของวาจา
    ยิ่งศาสตรา.......สู้ศัตรู...........ดูอุบาย

    จากหนังสือสอนวิธีชนะทุกข์สร้างสุข

     
  2. pikulkaew said:

    Re: พิษพจน์ รสวาจา




    หากคำพูด..พูดดีเป็นศรีสัตย์
    พูดให้ชัดรัดคำภาษาสวย
    พูดให้ถูกกาละจะอำนวย
    ย่อมร่ำรวยน้ำจิตประดิษฐ์คำ

    พูดให้จริงทุกอย่างมิสร้างเรื่อง
    อาจขัดเคืองกันได้ไม่น่าขำ
    อย่ามาเสริมเพิ่มแต่งให้ระยำ
    หรือคิดอำเพื่อนบ้านมารคารม

    พูดให้เพราะเสนาะโสตคงโปรดนัก
    เป็นที่รักที่ชังอย่างเหมาะสม
    มิพูดจาด่าเสียดเสแสร้งชม
    ฟังแล้วคมคำขาดบาดหูชา

    ให้พูดจากเมตตาปราณีจิต
    ถึงหมู่มิตรสหายรอบกายข้า
    ให้คิดดี พูดดี มีเมตตา
    ทั้งจรรยาล้วนประเสริฐจะเกิดคุณ

    และก่อนพูด..ควรดูกาล..สถานที่
    ฉลาดใช้..พาที..ท่านเกื้อหนุน
    กาละถูกเทศะได้ ไซร้เป็นบุญ
    ให้รู้เห็นเป็นทุนเรื่องเจรจา.
     
  3. Money said:

    Re: พิษพจน์ รสวาจา

    ...............พูดแบบพุทธ
    งดพูดโกหกตอแหล
    ยุแหย่ส่อเสียดเว้นหนี
    หยาบคายเพ้อเจ้ออย่ามี
    ปากนี้มีศีลสมบูรณ์
    สิ่งใดไม่เป็นประโยชน์
    ไม่เป็นที่โปรดเสื่อมสูญ
    หยุดไว้อย่าพ่นอากูล
    เพิ่มพูลแต่พูดเป็นคุณ
    รู้กาลรู้มารยาท
    เป็นปราญช์มีปากเกื้อหนุน
    มธุรสอันแสนอบอุ่น
    เพื่อบุญแห่งวจีกรรม....




     
  4. pikulkaew said:

    Re: พิษพจน์ รสวาจา



    อนุโมทนาสาธุ
    มิยุมิแหย่แตกแยก
    ขอโปรดช่วยจัดจำแนก
    เพื่อแทรกตัวอย่างพึงมี
    อย่างใดใช้เรียกเพ้อเจ้อ
    คำพูดเผลอเรอไหมนี่
    สติผุดหลุดจากฤดี
    วจีพร่ำพลอดตลอดวัน
    ท่านโปรดช่วยไขหายข้อง
    ด้วยมิช่ำชองเสกสรรค์
    สมองช้าดั่งเต่าเดาพลัน
    โปรดกลั่นโปรดชี้อธิบาย.
     
  5. Money said:

    Re: พิษพจน์ รสวาจา

    ..........เพ้อเจ้อ
    เพ้อเจ้อคล้ายดังเพ้อฝัน
    สิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้
    สิ้นไร้เหตุผลใดใด
    ห่างไกลจากความเป็นจริง
    ..."พี่นี้จักเป็นราชา
    ตัวราชินีคือน้องหญิง"
    มิมีเหตุใดได้ยิ่ง
    เพียงสิ่งเพ้อเจ้อโลมลม
    อธิบายอาจไม่แจ่มแจ้ง
    ด้วยแล้งรู้จริงสั่งสม
    ขอท่านผู้รู้ดูชม
    พร่างพรมเมตตามาแจง....
     
  6. pikulkaew said:

    Re: พิษพจน์ รสวาจา


    แล้วอย่างนินทาว่าเขา
    ปากเบาเข้าคำดั่งแกล้ง
    ปะทะวาจาพลิกแพลง
    รสลิ้นแห้งแล้งสัตย์จริง

    บ้างว่ามิได้ใส่ร้าย
    เล่าไว้ให้รู้ทุกสิ่ง
    เปรียบกัดเกาะหนังดั่งปลิง
    รู้ยิ่งเกินกว่าจะเป็น

    ทั้งที่..นี่เป็นเรื่องเขา
    แต่เม้าเข้าจนเหมือนเห็น
    เพ้อเจ้อด้วยไหม..ในประเด็น
    ดั่งเช่นที่ท่านขานมา.

    อิอิ ^____^ มีแบบนี้ด้วยเนอะ
     
  7. ปีศาจ said:

    Re: พิษพจน์ รสวาจา

    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเกิดความขัดแย้งขึ้น
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อสอเสียด นินทา
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งได้เมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อสนองราคะ โทสะ โมหะ
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อสนองบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อเรียกร้องในสิ่งที่เกินจำเป็น
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อเอาชนะ
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อเพียงลมปาก
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อความอวดภูมิรู้
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อให้คน"ใบ้"รับฟัง
    ก็ไม่ควรพูดดีกว่า
    สิ่งใดเมื่อพูดไปแล้ว เป็นไปเพื่อทำลายธรรมอันดั้งเดิม
    ก็อย่าพูดเลยจะดีที่สุด
    เพราะเจ้ามาจากดิน
    แม้ว่าเจ้าจะโบยบินไปไกลแสนไกล
    แต่สุดท้าย...เจ้าก็ต้องกลับคืนสู่ดิน...
    ...ดิน...ที่เจ้าจากมา...
    http://learnkaweethai.blogspot.com
     
  8. Money said:

    Re: พิษพจน์ รสวาจา

    ........นินทา
    ติฉินนินทาว่าร้าย
    พูดไปในที่ลับหลัง
    พุทธองค์ท่านทรงสอนสั่ง
    ว่าเป็นดั่งคนเทียมมิตร

    หากคำนินทาไม่จริง
    เป็นสิ่งมุสาพาผิด
    หากเป็นไม่ได้ดั่งคิด
    มีสิทธิ์เพ้อเจ้อจัดเต็ม

    หากถ้อยคำไม่สุภาพ
    คำหยาบมิน่าเกษม
    อาจมียุแยงแทะเล็ม
    เต็มเต็มผิดศีลข้อสี่

    เวจาแม้จริงเพียงใด
    ครวญใคร่รู้กาลวิถี
    ว่าเป็นผลร้ายหรือดี
    แหละนี้คือ...วาจาพุทโธ




     
  9. pikulkaew said:

    Re: พิษพจน์ รสวาจา

    นี่หนาว่าไป"ลมปาก"
    พูดมากเกินงามทำโก้
    ปาก1ไป2-3โชว์
    ยาวเป็นกิโล..โถ..คน
    อนึ่งผู้ฟังตั้งสติ
    ดำริตริตรองตามผล
    ว่าไปในเหตุสากล
    ยินยลอย่างใดใคร่ครวญ
    ทั้งฟังทั้งพูดพรั่งพร้อม
    นอบน้อมกริยาพาสรวล
    กาละ เทศะ...ละกวน
    มิป่วนวาจาพาเจริญ...