การให้อภัย



การอยู่ในสังคม จะต้องรู้จักยอมกันเสียบ้าง หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน รู้จักผ่อนสั่น ผ่อนยาว ผ่อนหนักผ่อนเบา ถ้ายอมไม่เป็นก็เย็นไม่ได้ ดังมีเรื่องเล่าว่า

ผัวเมียสองคนตั้งแต่แต่งงานกันมาไม่เคยอยู่เย็นเป็นสุขมีแต่อยู่ร้อนนอนทุกข์ วัน ๆ มีแต่เรื่องทะเลาะกัน วันหนึ่งเข้านอนลืมปิดประตู เมียเกี่ยงให้ผัวไปปิด ผัวก็เกี่ยงให้เมียไปปิด ไม่มีใครยอมใคร จนจะเที่ยงคืน เมียจึงบอกผัวว่า “ขืนเถียงกันต่อไปไม่ได้นอนแน่คืนนี้ เอางี้ดีกว่าใครพูดขึ้นก่อนคนนั้นแพ้ไปปิดประตู” ผัวก็ตกลง จึงนอนกัน พอไม่ปิดประตูหมาแดงผอมเข้ามากินกับข้าวในหม้อ เมียเห็นแล้วจะไล่หมาก็ไม่กล้าไล่ จะบอกผัวก็ไม่กล้าบอก กลัวเดี๋ยวแพ้ต้องไปปิดประตู ฝ่ายผัวพอเห็นเมียนอนเฉยไม่พูด ตัวเองก็ไม่พูดบ้าง เพราะกลัวเดี๋ยวแพ้เมียต้องไปปิดประตู ตงลงทั้งคู่นอนดูหมากินกับข้าว เรียกว่า “ส.บ.ม. สบายปากหมา”

ตื่นเช้าขึ้นมาไม่มีกับข้างเมียก็ถือตะกร้าไปเก็บผักบุ้งที่หนองน้ำ ชาวบ้านถามเท่าไรก็ไม่ยอมพูดกลัวเดี๋ยวต้องแพ้กลับไปปิดประตู ชาวบ้านสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นก็เลยรีบมาที่บ้านเจอผัวถามว่า “เออเมื่อกี้เจอเมียเอ็งที่หนองน้ำถามเท่าไรก็ไม่พูดมีเรื่องอะไรกันหรือ” ผัวนึกในใจฮะเมียกูไม่พูดตัวเองก็ไม่พูดบ้างยืนนิ่งใบ้อยู่เพราะกลัวแพ้เดี๋ยวจะต้องไปปิดประตู เพื่อนเลยเข้าไปในบ้านไปเอากรรไกรมากร้อนผมไปครึ่งหัว ถามเท่าไร ๆ ก็ไม่ยอมพูด “ว่ามีเรื่องอะไรกันหรือทำไมนิ่งใบ้กันไปหมด” ผัวก็นิ่งเฉยไม่ยอมพูด สุดท้าย เพื่อนก็จนปัญญาเลยต้องกลับไป ฝ่ายเมียพอกลับจากหนองน้ำนึกในใจวันนี้ผัวต้องแพ้ฉันแน่ ๆ ฝ่ายผัวนั่งอยู่บนชานบ้านนึกในใจวันนี้เมียต้องแพ้ฉันแน่ ๆ พอเมียขึ้นบนบ้านเห็นผมบนหัวผัวหาย จึงตกใจร้องอุทานว่า “อุ๊ยตายพี่ผมบนหัวพี่หายไปไหนครึ่งหัว” “ผัวร้องไชโยมึงพูดก่อนกูแล้วไปปิดประตูเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นจะโดนโอวันตีนผสมหน้าแข้ง” นี่เห็นไหมกว่าจะยอมกันได้ แกงหมดไปหนึ่งหม้อ ผมหมดไปครึ่งหัว โยมบ้านไหนเป็นอย่างนี้ระวังนะถ้าเกิดทะเลาะกันเผลอ ๆ แกงหมดมากกว่าหนึ่งหม้อ ผมอาจหมดทั้งหัวก็ได้



ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/watprempracha/nitan/apay.htm