ปุจฉา- เสี่ยมซีมาอยู่ในวัดหรือศาลเจ้าได้อย่างไร และมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ?

กระทู้: ปุจฉา- เสี่ยมซีมาอยู่ในวัดหรือศาลเจ้าได้อย่างไร และมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ?

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. รูปส่วนตัว Butsaya

    Butsaya said:

    ปุจฉา- เสี่ยมซีมาอยู่ในวัดหรือศาลเจ้าได้อย่างไร และมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ?


    ปุจฉา- เสี่ยมซีมาอยู่ในวัดหรือศาลเจ้าได้อย่างไร และมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ?

    โดยท่านว.วิชรเมธี



    ปุจฉา

    วันก่อนไปเสี่ยงเซียมซีมากับเพื่อนหลายคน เพื่อนคนหนึ่งเสี่ยงได้ใบที่เก้า ไม่เป็นมงคลเลย
    ตั้งแต่วันนั้นมาเพื่อนก็รู้สึกแย่ วิตกกังวล กลัวว่าชีวิตจะเป็นไปอย่างคำทำนายจริงๆ จึงอยากถามว่า
    เสี่ยมซีมาอยู่ในวัดหรือศาลเจ้าได้อย่างไร และมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ?

    วิสัชนา

    ก่อนอื่นคงต้องมาดูต้นตอของความรู้สึกแย ่และวิตกกังวลจากเซียมซีใบที่เก้ากันก่อน

    ใบที่เก้า

    *************************

    ใบที่เก้าคราวเคราะห์จำเพาะแท้ ต้องพลัดพ่อพรากแม่ไม่แลเหลียว
    ต้องลำบากจากถิ่นอยู่แต่ผู้เดียว ไม่กลมเกลียวญาติมิตรอนิจจา
    ถามเรื่องเรียนเรียนได้ถ้าใจรัก ทว่าอุปสัคสูงใหญ่คล้ายภูผา
    ต้องพากเพียรเรียนอยู่หลายเพลา ปริญญาใบนี้มักมีมาร
    ถามเรื่องคู่คู่รักจักรักจริง แต่พอหน่ายก็พร้อมทิ้งไม่สงสาร
    รักกับใครรักได้ไม่เนิ่นนาน ต้องซมซานชอกช้ำระกำทรวง
    ถามเรื่องเงินเงินไม่ง่ายดังใจปอง ถามเรื่องทองทองสลายไม่อาจหวง
    จะเดือดร้อนเพราะเรื่องเงินเผอิญดวง- ตกพระร่วงพลัดบัลลังก์ข้างขาลง
    ถามเรื่องเพื่อนมีไม่มากยากไว้ใจ มักพบเพื่อนจัญไรเปี่ยมพิษสง
    คบกับเพื่อนเหมือนคบอยู่กับงูดง เผลอเมื่อไหร่ถูกมันปลงปล้นปางตาย
    ใบที่เก้าคราวเคราะห์จำเพาะแท้ ทุกข์ย่ำแย่ย้อนยอกช้ำชอกหลาย
    สิทธิการิยะพระทำนาย อยากทุกข์วายให้บวชชีเท่านี้เอย.


    เซียมซีมีความเป็นมาอย่างไรในทางประวัติศาสตร์ ผู้เขียนไม่รู้ แต่ในทางเศรษฐศาสตร์มีผู้รู้อย่างหลวงพ่อปัญญานันทะ
    (พระธรรมโกศาจารย์) ให้คำอธิบายไว้อย่างนี้

    “ใบเซียมซีเสี่ยงทายตามโบสถ์ต่างๆ ที่เข้ามาอยู่ตามโบสถ์ก็เพราะพระอยากได้เงิน แต่กลายเป็นการทำลายพุทธศาสนาไป
    เพราะคนที่มาสั่นติ้วเกิดเข้าใจผิด คิดว่าหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้เป็นไป ความจริงหลวงพ่อมิได้ดลบันดาลอะไรเลย หาก
    แต่แขนของเราทั้งสองเป็นตัวการใหญ่ เราไปจับกระบอกสั่น ไม้มันจึงหล่นออกมาได้ คนโง่ไม่เข้าใจจึงถูกเขาหลอกให้สั่นเสียจน
    เหงื่อไหลไคลย้อย นี่เป็นเพราะเห็นแก่เงินโดยแท้”

    เมื่อมองในแง่ของความน่าเชื่อถือ ในทัศนะส่วนตัวของผู้เขียนแล้ว ไม่เคยให้ความเชื่อถือต่อสิ่งที่ปรากฏอยู่ในใบเซียมซีเลย
    เพราะคนเขียนก็คงเขียนไปในลักษณะ “กลอนพาไป” เท่านั้นเอง ลองอ่านดูเถิด กลอนก็เขียนดาดๆ ไปอย่างนั้นเอง ไม่มี
    วรรณศิลป์ ไม่มีองค์ความรู้อะไร จังหวะของกาพย์กลอน เพลาดพาดไปถึงเรื่องไหนได้ ก็เขียนไปอย่างนั้นโดยอัตโนมัติ ไม่ได้
    ใช้หลักการอะไรที่พอจะเอ่ยอ้างได้ว่า สิ่งที่เขียนไว้มีอำนาจ มีพลัง มีมนต์ขลัง หรือมีภูมิปัญญา ที่สามารถดลบันดาลประทานพร
    ให้คนที่มาสั่นเซียมซีมีอันเป็นไปได้ต่างๆ อย่างที่เขียนไว้จริงๆ กล่าวให้ตรงกว่านั้นอีกก็ได้ว่า ไม่มีความน่าเชื่อถือ อะไรอยู่ใน
    ใบเซียมซีเลย เขาเอาไว้ส่ายเล่นสนุกๆ แก้เหงา และเป็นเครื่องมือแสวงหาเงินทองของพวกหัวหมอเท่านั้นเอง

    อย่ากลัวว่า ชีวิตจะมีอันเป็นไปตามคำพยากรณ์ทั้งในทางดี และร้ายอย่างที่ปรากฏอยู่ในใบเซียมซีเลย เพราะตามหลักความจริง
    แล้ว ชีวิตของคนเราล้วนเป็นไปตาม “กรรม” (การกระทำ/พฤติกรรมทางกาย วาจา และใจ) ที่ “มันสมองและสองมือ” ของเราเอง
    เป็นคนสร้างสรรค์มันขึ้นมาอย่างเป็นด้านหลัก เราทำดี ชีวิตก็ดี เราทำชั่ว ชีวิตก็ชั่ว ตรรกะอันแสนเรียบง่ายทว่า เป็นความสัตย์
    และมีความเป็นสากลอย่างยิ่งนี้ จริงแท้แน่นอนที่สุด ชีวิตของมนุษยชาติทั้งหมด ไม่ว่าเขาจะนับถือศาสนาอะไร หรือสังกัดอยู่ใน
    ลัทธิอุดมการณ์ไหนก็ตาม ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎที่ว่านี้ทั้งนั้น เราเป็นอย่างที่เราคิด พูด และทำ ชีวิตของเรา คือ ผลสะท้อนของ
    ความ คิด คำพูด และการกระทำของเรา ซึ่งมองเห็นอยู่โต้งๆ ในแต่ละวันนี่เอง กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เราเก็บเกี่ยวในสิ่งที่เรานั่น
    แหละเป็นคนหว่าน ไม่ได้มีอำนาจวิเศษอะไรซึ่งอยู่เหนือสามัญวิสัยมาคอยบงการชีวิตของเราอยู่อย่างลับๆ หรอก ใบเซียมซีที่ได้
    มา นั้นโยนทิ้งลงถังขยะไปได้เลย






    เสียงอ่านโดย
    ดีเจสายซอ สมาชิกเว็บไซท์วัดเกาะวาลุการาม
    จัดทำเพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทาน
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย D E V : 05-26-2012 เมื่อ 03:28 PM

    ธรรมมีทุกหย่อมหญ้า.......สำหรับผู้มีปัญญา