พอเดือนยี่มีผู้ถือหนังสือบอก ชาวด่านนอกนัคราพนาสัณฑ์
ทั้งเหนือใต้ฝ่ายปัศจิมมาพร้อมกัน บังคมคัลทูลท้าวเจ้าภารา
ว่าบัดนี้ท้าวอุเทนเกณฑ์ทหาร เป็นสามด่านข้าศึกฮึกหนักหนา
พวกนายด่านบ้านนอกบอกเข้ามา แล้ววันทาทูลแถลงแจ้งคดี
หนังสือบอกปากน้ำว่ากำปั่น สักห้าพันพลชวากลาสี
มาทอสู่อยู่ตรงท่าหน้าธานี ห่างสักสี่สับเส้นพอเห็นกัน
ข้างฝ่ายเหนือบอกว่าปัจจามิตร พวกฝรั่งอังกฤษกับมักระสัน
ล้วนขี่ม้าห้าหมื่นพื้นฉกรรจ์ เข้าบุกบั่นตีบ้านด่านดงมา
อันโยธามาทางตวันตก กระบวรบกแบกพื้นล้วนปืนผา
มลายูสุระตันวิลันดา ตีเข้ามาในด่านชานบุรีฯ
สมเด็จท้าวทศวงศ์ดำรงราชย์ ฟังอำมาตย์ทูลฉลองให้หมองศรี
จึงตรัสสั่งทั้งสองเสนาบดี เร่งเตรียมกรีฑาพลสกลไกร
เป็นสามทัพเกณฑ์กองละสองหมื่น ให้ถือปืนถ้วนทั่วทุกตัวไพร่
ไปรบรับทัพแขกให้แตกไป อย่าให้ไพรีรุกบุกเข้ามา
ที่ปากน้ำสำคัญอยู่แห่งหนึ่ง เอาโซ่ขึงค่ายคูดูรักษา
ให้ลากปืนป้อมฝรั่งขึ้นจังกา คอยยิงข้าศึกให้บรรไลยลาญ
ตำแหน่งไหนใครขาดราชการ กูจะผลาญชีวันให้บรรไลยฯ
เสนารับอภิวาทกรุงกษัตริย์ มาเร่งรัดเรียกกันเสียงหวั่นไหว
ครั้นพร้อมเสร็จยกทัพขับกันไป คอยชิงไชยชาญชาวชวามลายู
พวกรักษาหน้าที่สักสี่หมื่น ประปืนน้อยใหญ่ใส่ดินหู
บ้างขึ้นป้อมล้อมวังนั่งประตู มิให้ผู้คนเข้าละเล้าละลุม
เที่ยวร้องป่าวชาวอาณาประชาราษฏร์ สั่งให้กวาดครอบคัวเข้ามั่วสุม
ทั้งเหนือใต้ไพร่ฟ้ามาประชุม ตั้งชุมชนแน่นไปในกำแพง
พวกผู้ดีมีทรัพย์แลสิ่งของ เอาเงินทองใส่ถังเที่ยวฝังแฝง
ทั้งเอมโอชโภชนาราคาแพง ทุกเขตต์แขวงธานีไม่มีสบายฯ
ฝ่ายสุรางค์นางนาฏในราชฐาน แต่ทราบสารศึกใหญ่ก็ใจหาย
หลวงแม่เจ้าท้าวนางทั้งขรัวนาย เที่ยวยักย้ายข้าวของทำกรองกรอบ
พระญาติวงศ์พงศาคณาสนม ทุกหมู่หรมตรอมอุราทำหน้าจ๋อย
ไม่ผัดหน้าทาน้ำมันกันไรรอย แต่เศร้าสร้อยโศกาทุกนารี
บ้างพูดกันฉันเองอกจะแตก กลังแต่แขกเช่นเขาว่ากลาสี
มันจับได้จะไปฆ่าผ่าเอาดี ไปเขียนสีผ้าลายลูกตายจริง
บรรดาเหล่าสาวสวรรค์ให้ครั่นคร้าม คิดไปตามวิไสยน้ำใจหญิง
บ้างไปบอกเพื่อนรักที่พักพิง เราอย่าทิ้งกันหนอจนมรณา ฯ
สงสารองค์นงลักษณ์อัคเรศ แต่แจ้งเหตุให้วิโยคโศกหนักหนา
รบครรไลไปปราสาทราชธิดา เข้ากอดแก้วเกษราโศกาไลย
โอ้ลูกน้อยกลอยจิตต์เจ้าแม่เอ๋ย กรรมเจ้าเคยสมสร้างแต่ปางไหน
กษัตริย์อื่นหมื่นแสนทุกแดนไกร มาขอเจ้าท้าวก็ไม่เป็นไมตรี
ทำจนให้อ้ายแขกที่แปลกชาติ มามุ่งมาดหมายประโลมแม่โฉมศรี
ไม่ให้ปันมันมาจะราวี ชาวบุรีร้อนใจดังไฟกาล
แม่กลัวพระปิตุรงค์จะส่งเจ้า ไปให้เขาต่างประเทศเขตต์สถาน
เช่นนั้นแน่แม่หมายจะวายปราณ แต่สงสารสายใจจะไกลกัน
กรรแสงพลางต่างสอึกสอื้นไห้ กำนัลในใหญ่น้อยพลอยโศกศัลย์
ทั้งองค์แก้วเกษราวิลาวรรณ นางก้มกรรแสงให้พิไรทูล
ถึงสุดคิดปิตุรงค์จะส่งลูก จะไปผูกคอตายให้หายสูญ
ไม่ขอพบคบแขกแปลกประยูร แล้วนางพูลเทวษร่ำระกำใจ
พระมารดาสอนธิดาว่าเจ้าแม่ จงอยู่แต่ปรางค์ปราอย่าไปไหน
หมั่นสวดมนต์บ่นภาวนาไป ให้พ้นไภยพวกพาลชาญฉกรรจ์
แม่จะไปเผ้าองค์พระทรงเดช ให้แจ้งเหตุทุกข์ร้อนได้ผ่อนผัน
พลางจุมพิตธิดาวิลาวรรณ แล้วโศกศัลย์เสด็จมายังสามีฯ
สงสารแก้วเกษราสุดาสมร ครั้นมารดรจากห้องให้หมองศรี
กลัวจะตกไปแก่ไพรี นางเข้าที่ไสยาโศกาไลย
คิดคนึงถึงพราหมณ์ทรามสวาท ใจจะขาดเสียด้วยคิดพิสมัย
ได้ตอบสารการรักประจักษ์ใจ จำจำไกลเนตรน้องเพราะกองกรรม
พอรู้ข่าวข้าศึกจะนึกพรั่น เพราะหมายมั่นไม่มีที่อุปถัมภ์
จะหนีไปไหนไม่สั่งมั่งสักคำ หรือจะจำคิดอ่านประการใด
จึงเรียกสี่พี่เลี้ยงมาเคียงข้าง แล้วว่าพี่สี่นางจะทำไฉน
แม้นสุดฤทธิบิตุรงค์จะส่งไป น้องนี้ไม่ขออยู่จะสู้ม้วยฯ
ทั้งสี่นางต่างประโลมโฉมเฉลา แม้นแม่เจ้าวอดวายจะตายด้วย
ต่างครวญคร่ำกำสรดระทดระทวย ใครจะช่วยแม่ได้ก็ไม่มี
จำจะไปใต่ถามเจ้าพราหมณ์น้อย ยังติดสอยคอยครวญอยู่สวนศรี
ซึ่งสาราว่าสวาทแสนทวี ประเดี๋ยวนี้จะคิดอ่านประการใด
แต่ประตูผู้คนเขาค้นคว้า จะไปมาซ่อนเร้นเห็นไม่ได้
ว่าโฉมยงจะประสงค์สุมาไลย ใช้ออกไปเป็นรับสั่งจึงบังควรฯ
พระบุตรีศรีสวัสดิ์จึงตรัสว่า กระนั้นพี่ศรีสุดาจงไปสวน
ยังมีต่อ