สวัสดีอีกรอบครับมิตรธรรมทุกท่าน
ก่อนอื่นขอแสดงความเคารพในคุณของท่านพุทธทาส ผู้เป็นครูบาอาจารย์สมัยแรกๆของผม เข้ามาศึกษาธรรมได้ก็อาศัยหนังสือของท่าน ต่อจากนี้ไปจะเป็นการดูหมิ่นหรือจาบจ้วงคำสอนของท่านก็มิได้ แต่เพราะมีความสับสนและฉงนใจเป็นยิ่งนัก ในคำสอนบางอย่างของท่านที่อ่านแล้วพิจารณาด้วยปัญญาอันน้อยนิดของตัวเองแล้วก็ทำให้เข้าใจไปในทางที่ไม่ตรงตามหลักของพระพุทธศาสนา ที่จะสอบถามต่อไปนี้ก็ไม่ได้อยากจะลบล้างหรืออะไรคำสอนที่ท่านสอนไว้ แต่ด้วยอยากได้ความกระจ่างตามที่พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้
คือสองวันมานี้ ได้ไปอ่านกระทู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาในเว็ปพันทิพย์ ที่มีการวิพากษวิจารย์คำสอนของท่านพุทธทาส ระหว่างผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับผู้ที่เห็นด้วย ซึ่งข้อนี้ขอยกไว้ว่าไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน แต่ก็อ่านแล้วพิจารณาตามเนื้อความที่ปรากฏเท่าที่ปัญญาจะพิจารณาตามได้
http://topicstock.pantip.com/religio...Y10991362.html
http://topicstock.pantip.com/religio...Y11593213.html
http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/010622.htm
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=28397
(เยอะไปนิ๊สส แต่ลงเอาไว้เป็นบทอ้างอิงน่ะครับ ><)
ที่ตั้งคำถามนี้ ประเด็นหลักๆไม่ได้มีความต้องการจะถามว่าใครผิดใครถูก เพราะเท่าที่อ่านแล้วก็มีเพียงผู้ยังศึกษามาถกเถียงกันด้วยปัญญาที่ยังมิได้รู้แจ้งสภาพธรรมะตามความเป็นจริง จะหาบทสรุปรึก็ไม่ปรากฏได้ เพราะต่างฝ่ายต่างมีคติอย่างนี้ต่างๆกัน อบรมมาคนละแบบ ต่างๆกัน ยังเถียงกันด้วยอารมณ์แห่งกิเลสอยู่เลย(แต่จนแล้วจนรอดก็ยังเอามาใส่ใจให้สงสัย)
ทีนี้ มันก่อให้ผม(ผู้จับพลัดจับพลูหลงไปอ่านซะยืดยาวจนจิตไม่สมประดี T^T) เกิดวิจิกิจฉาในธรรมของพระพุทธเจ้า ในพระไตรปิฏก ในพระสงฆ์ผู้ชื่อว่าปฏิบัติชอบปฏิบัติดี ทำให้ตัวเองเกิดสลดสังเวชใจว่า บัดนี้ไม่ใช่ยุคสมัยพุทธกาล ไม่มีพระพุทธเจ้าผู้ยังทรงดำรงชีพอยู่มาตรัสโปรดเรา ทำให้บัดนี้พระธรรมแลก็ถูกกล่าวตู่ แลก็ถูกบิดเบือน หรือแม้แต่พระสงฆ์ที่ปฏิบัติถูกปฏิบัติชอบ ก็มีคำสอนที่ขัดกับพุทธวัจนะ และ บลาๆๆ(เข้าใจความรู้สึกผมใช่มั้ยครับ T^T)
คือตอนนี้ จับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว มีโมหะเป็นกำลังก็ว่าได้ ไม่รู้ว่าจะยึดอะไรดี จะยึดพระสงฆ์ในยุคปัจจุบัน จะยึดพระไตรปิฏก หรือจะยึดอะไรมาน้อมนำปฏิบัติดี เพราะไม่มีพระพุทธองค์มาทรงชี้แนะด้วยพระองค์เองแล้ว ธรรมทั้งหลายที่มีก็ถูกกล่าวตู่ พระอภิธรรมอันเป็นธรรมล้วนๆก็ถูกกล่าวว่าถูกแต่งเติมบ้าง ถูกใส่ทีหลังบ้าง
แต่ศรัทธาในพระพุทธองค์นั้นไม่มีง่อนแง่น ยังเชื่อพระพุทธองค์เต็ม 100 ว่าสิ่งที่พระพุทธองค์สอนนั้นย่อมนำพาสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นได้ แต่เกิดความสั่นคลอนในพระธรรม(ยุคปัจจุบัน) และพระสงฆ์(ยุคปัจจุบัน) เพราะถูกทำให้เชื่อได้ไม่ 100 เสียแล้ว
พิจารณาแล้วก็ให้น้อยเนื้อต่ำใจเหลือเกินว่าทำไมเราไม่มีบุญไปเกิดในยุคพุทธกาลหนอ มาเกิดเอากลียุคแบบนี้ (บ่นๆๆ รำพึงรำพัน ...)
อยากจะใคร่ของมิตรธรรมช่วยแนะนำทีเถิดว่าอันตัวผมควรจะทำอย่างไรดี T^T
---
อ่ะ จั่วหัวไว้เรื่องเทวดา ขอถามด้วยนะคับ
คือก่อนหน้านี้ 2 วัน(ก่อนจะได้เจอกระทู้วิสัชนาธรรมในพันทิพย์) มีความเชื่อแน่นแฟ้นในนรกและเทวภูมิ และภพภูมิทั้งหลาย(มีด้วยศรัทธาจริงๆ ผมเป็นผู้นำมาด้วยศรัทธา เหตุผงเหตุผลอะไรมาทีหลัง ศรัทธามาก่อน จะว่าเป็นคนหูเบาเชื่อง่ายก็ได้ อิอิ) แต่ตอนนี้ก็สั่นคลอนเสียแล้ว จะพูดว่าสั่นคลอนถึงขนาดนั้นก็ไม่ใช่ คือเพียงแค่อยากได้อะไรมาพิสูจยืนยันให้เห็นจริงๆว่ามีอยู่ แต่จะไปฝึกอภิญญาอะไรให้เห็นจริงก็ไม่รู้ว่าจะเป็นของจริงของปลอมอีก เป็นนิมิตรเฉยๆรึเปล่าก็ไม่รู้
พูดตรงๆไม่แถสดแถเปื่อย ตัวผมเองก็มีปราถนาจะไปสุขติโลกสวรรค์ ปราถนาจะไปปฏิบัติธรรมบนนั่นจริงๆ(มิได้โม้นะ) เพราะคิดว่ามนุษย์โลกเรากำลังเสื่อมจากธรรม(ดั่งที่เห็นนี้) คณะสงฆ์เริ่มเสื่อม(รึเปล่า?) ถ้าทำบุญทำทานให้มากๆ แล้วก็ปฏิบัติธรรมสั่งสมเหตุปัจจัยในชาตินี้ไปด้วย กายแตกฉันใดจะขอไปอยู่บนสวรรค์ ฟังธรรมจากเท้าสักกะที่ศาลาสุธรรมาทุกวันคงจะดีไม่น้อย อริยสาวกบนนั้นก็มั่นใจได้ว่ามีพระโสดาบันและสกิทาคามีอยู่เป็นโกฏิๆ ต่างจากที่มนุษย์โลกนี้ แม้จะมีอยู่ก็มองยากเหลือเกิน หายากเหลือเกิน เชื่อยากเหลือเกิน(เพราะทิฏฐิเราเองหรือเปล่า)
แบบนี้ แต่พอมาเจอ นรกในอก สวรรค์ในใจ ที่แต่ก่อนก็ละเชื่อนี้ไปแล้ว ก็กลับมายังให้สั่นคลอนอีก(เชื่อง่ายอีกแล้ว) โครงการปฏิบัติธรรมที่อุตส่าห์วาดฝันไว้ก็มลายหายพรึ่บบบบบบ ....
ก็ยังบอกตัวเองอยู่ว่าพิจารณาดีๆ ว่าเหตุปัจจัยให้มีภพชาติทั้งหลายยังมีอยู่ ถ้าเห็นว่าสวรรค์ในอกนรกในใจก็เป็นการกล่าวโดยเป็นปกิจสมุปาทะที่ขาดตอน ขาดสาย ด้วยเหตุมีอย่างนี้ๆ ผลก็ต้องมีอย่างนี้ๆ อันว่าดิรัจฉานยังปรากฏเห็นมีอยู่ กุศลและกรรมมี เพราะงั้น วิบากต้องมี แม้จิตทางปัญจทวารก็รับวิบากอยู่ไม่ขาดสาย กระนั้นแล้วถ้าไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มีเป็นภพภูมิ เป็นที่คุมขังสัตว์ แล้วนั้นก็จะกลายเป็นความเห็นว่าโลกสูญ บาปบุญไม่มี โลกนี้โลกหน้าไม่มี ก็จะกลายเป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะสัมมาทิฏฐิก็ทรงบัญญัติอยู่แล้วว่า บุญมี บาปมี กรรมมี วิบากมี โลกนี้มี โลกหน้ามี นรก-สวรรค์มี สังสารวัฏฏะมี
แต่กระนั้นจิตก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะเกิดวิจิกิจฉา เกิดความสงสัย ทำอย่างไรๆก็ไม่หายเสียที อุตส่าห์ตั้งจิตอ้อนวอนขอให้เทวดามาช่วยปรากฏต่อหน้า เนรมิตกายหยาบมาให้เห็นกันหน่อยท่านก็ไม่เมตตาเอาเสียเลย T^T (น้อยใจเทวดานะนี่ อุตส่าห์ตั้งจิตจะเห็น กลัวจะเจออยู่ตั้งนาน ทำไมท่านไม่มาให้ลูกช้างเห็นบ้าง)
สรุปแล้ว ผมยังเข้าใจถูกใช่ไหมครับ พุทธศาสนามีนรก มีสวรรค์ อันเป็นภพภูมิใช่ไหม และอื่นๆที่กล่าวมา ทำอย่างไรวิจิกิจฉานี้จะหายไปได้หนอ T^T
----
ปล. พระอรหันต์ขีนาสพที่บรรลุธรรมโดยไม่ได้อภิญญาญาณท่านมีอยู่ใช่ไหม แล้วท่านมองไม่เห็นเทวดา ไม่เห็นเปรตใช่ไหม (แล้วก็เข้าฌาณสมาบัติไม่ได้ด้วยใช่ไหม) ถ้าอย่างนั้นท่านจะมีความเห็นอย่างนี้หรือเปล่าว่า เทวดาไม่มี นรกไม่มี เพราะท่านไม่เห็น ไม่สามารถรับรู้ได้ ก็เห็นเพียงทุกข์ที่เกิดดับตามสภาวะธรรมจริงๆแค่นั้นหรืออย่างไรครับ
ปล.2 โครงการปฏิบัติธรรมบนเทวโลกผมยังปราถนาอยู่นะครับ T^T
ขอขอบพระคุณที่อุตส่าห์อ่านมาเสียยืดยาว(ยาวจริงๆแฮะ) สาระอะไรก็ไม่ค่อยจะมีเลย เหมือนนายเพ้อนั่งบ่นอะไรคนเดียว(ฮา) ท่านใดมีความเห็นอะไรอย่างไรขอรบกวนชี้แนะด้วยนะครับ ; w ;
สาธุ สาธุ สาธุ