บุษสงสัยว่า องค์มรรค 8 ทำมัยจึงยกสัมมาทิฏฏฐิ ซึ่งเป็นกองปัญญาขึ้นแสดงก่อน
ส่วนการปฏิบัติของผู้ดำเนินทางมรรคต้องทำศีลไปก่อน แล้วจึงทำสมาธิและปัญญา
ซึ่งเรียกว่าสิกขาทั้ง 3 อะค่ะ
อายตนะภายใน 6 ภายนอก 6 วิญญาณ 6 ผัสสะ 6 เวทนาที่เกิดแต่ผัสสะ 6
ก็ไม่ใช่กิเลสประเภททุกข์ทั้งนั้นใช่ปะค่ะ แต่ทำมัยคนเราเมื่อเวลาตาเห็นรูป
หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรสหรือถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกายรู้รับ
อารมณ์ด้วยใจ ก็ย่อมได้เวทนาอย่างใดอย่างหนึ่งใช่ปะค่ะ หรือก็อายตนะและผัสสะ
เวทนาก็ไม่ใช่กิเลส แต่ทำมัยคนเราจึงเกิดกิเลส และความอยากขึ้นได้อะค่ะ
เวทนาเป็นขันธ์แท้เป็นทุกขสัจไม่ใช่กิเลส แต่ในปฏิจจสมุปบาท
ทำมัยจึงมีเวทนาปจจยาตัณหาอะค่ะ เพราะเหตุอะไรอะค่ะ
ในสังขารขันธ์ตามแบบอภิธัมมสังคหะ ท่านแจงไว้ว่า อกุศลเจตสิก 14
โสภณเจตสิก 25 อัญญสมนา 13 รวมเป็นเจตสิก 52 ดวงนั้น ดูแล้วก็
จะมีทั้งกุศลและอกุศลและไม่ใช่กุศลและอกุศลปนกัน ทั้งหมดนี้เป็นทุกขสัจ
หรือว่าเป็นสมุทัยอะค่ะ แล้วเหตุใดถึงได้เป็นอย่างนั้นอะค่ะ
อ้อ อีกนิดนะค่ะ สุดท้ายแระ อิอิ.... แล้วปิติที่เกิดขึ้นนี้จัดเป็นเวทนาด้วยหรือเปล่าอะค่ะ