โลหะปราสาท วัดราชนัดดาราม วรวิหาร กับ โพธิปักขิยธรรม 37

กระทู้: โลหะปราสาท วัดราชนัดดาราม วรวิหาร กับ โพธิปักขิยธรรม 37

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. *8q* said:

    โลหะปราสาท วัดราชนัดดาราม วรวิหาร กับ โพธิปักขิยธรรม 37

    คำว่า "โลหะปราสาท" Lohaprasada เป็นชื่อดั้งเดิมของอินเดีย เรียกมาแต่ครั้งพุทธกาล สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงประทานความหมายว่า "ตึกที่มียอดเป็นโลหะ"
    ตามตำนานกล่าวว่า โลหะปราสาทแห่งแรกนั้นนางวิสาขาฯได้สร้างถวายพระพุทธเจ้า
    ที่บุพพาราม ประเทศอินเดียโน้น
    ต่อมาในปี พ.ศ. 382
    พระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย ทรงโปรดให้สร้างขึ้นในลังกาเป็นองค์ที่ 2
    ปัจจุบันทั้ง 2 แห่งคงเหลือแต่ซากเสาปักอยู่


    เมื่อครั้งยังไม่ได้รับการบูรณะ ถูกทอดทิ้ง...

    โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามฯ นี้ ถือว่าเป็นแห่งที่ 3 ของโลก
    ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ได้โปรดให้ช่างเดินทางไปดูแบบที่ประเทศลังกา
    โดยนำเค้าเดิมมาเป็นแบบ แล้วปรับปรุงให้เป็นศิลปกรรมแบบไทย
    โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาททั้งหมด 37 ยอด
    หมายถึงหลักธรรมในพระพุทธศาสนา 37 ประการ
    ชั้น 7 เป็นยอดปราสาทสำหรับประดิษฐาน พระบรมธาตุ

    นับตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโลหะปราสาทในรัชกาลที่ 3
    เป็นต้นมายังไม่เคยก่อสร้างได้แล้วเสร็จบริบูรณ์เลย
    จนถึงรัชกาลปัจจุบันได้เริ่มมีการบูรณะครั้งแรก เมื่อปี 2506
    แล้ววันนี้เนื่องในโอกาสที่ยอดบนสุดของโลหะปราสาทได้สร้างเสร็จแล้ว
    (ยังคงเหลืออีก 36 ยอดที่ยังไม่เสร็จนะ)
    ทางวัดเลยจัดการสมโภชยกพุ่มข้าวบิณฑ์ขึ้นประดิษฐานบนยอด
    ในวันที่ 31 มีนาคม 2543
    โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ทรงเป็นประธานในพิธี
    และจัดให้มีงานสมโภชในวันที่ 31 มี.ค. - 6 เม.ย. 2543


    ขอขอบคุณแหล่งที่มา http://www.everykid.com/worldnews/temple/loha.html

    พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรเให้สร้างขึ้นแทนการสร้างพระเจดีย์เป็นโลหะปราสาทสามชั้น มียอดทั้งหมด ๓๗ ยอด ซึ่งหมายถึงโพธิปักขียธรรม ๓๗ ประการ



    ขอขอบคุณแหล่งที่มา http://www1.mod.go.th/heritage/natio...lohapasart.htm


    โลหะปราสาท” วัดราชนัดดารามวรวิหาร เป็นพุทธสถานสำคัญองค์ที่ 3 ของโลกที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งโลหะปราสาทองค์นี้ สร้างขึ้นด้วยพระราชศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อให้เป็นพุทธสถานที่งามสง่าคู่กรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งโลหะปราสาทองค์นี้รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นแทนการสร้างเจดีย์ ดังพระอารามอื่นๆ ตามลักษณะของโลหะปราสาทที่พรรณนาไว้ในหนังสือมหาวงษ์พงศาวดารลังกา โดยให้มีสถาปัตยกรรมตามแบบศิลปกรรมของไทย


    การสร้างโลหะปราสาทหลังนี้ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต บุนนาค) ขณะยังเป็นพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา ดำรงตำแหน่งอธิบดีก่อสร้างว่าช่างสิบหมู่และช่างศิลา เป็นผู้ได้รับมอบหมายจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯเจ้าอยู่หัว ให้เป็นแม่กองดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งโลหะปราสาทตามแบบสถาปัตยกรรมไทยนั้นมีฐานกว้างด้านละ 23 วา เป็นอาคาร 7 ชั้นลดหลั่นกัน อาคารชั้นล่าง ชั้นที่ 3 และชั้นที่ 5 ทำเป็นคูหาและระเบียงรอบ ส่วนในชั้นที่ 2 ชั้นที่ 4 และชั้นที่ 6 ทำเป็นคูหาจัตุรมุขมียอดเป็นบุษบกชั้นละ 12 ยอด และชั้นที่ 7 จะเป็นยอดปราสาทจัตุรมุขสำหรับประดิษฐานพระบรมธาตุ รวมเป็น 37 ยอด ซึ่งหมายถึงหลักธรรมตามพระพุทธศาสนา 37 ประการ อันเป็นปัจจัยให้ดำเนินไปสู่ความหลุดพ้นเข้าสู่ดินแดนพระนิพพานที่เรียกว่า “โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ”
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:P></O:P>
    ขอขอบคุณแหล่งที่มา http://www.yingthai-mag.com/detail.a...2&ytauthorid=3



    ก่อนเกิดใครเป็นเรา<br />เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร<br /><br />สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่<br />ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า<br /><br />ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน<br />มองในสิ่งที่ไม่เห็น<br />ทำในสื่งที่ไม่มี
     
  2. *8q* said:

    Re: โลหะปราสาท วัดราชนัดดาราม วรวิหาร กับ โพธิปักขิยธรรม 37

    ต่อครับ

    TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%" colSpan=2>ธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้
    (โพธิปักขิยธรรม 37)


    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>โพธิปักขิยธรรม 37 ธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ คือ เกื้อกูลแก่การตรัสรู้ , ธรรมที่เกื้อหนุนแก่อริยมรรค
    สติปัฏฐาน 4
    สัมมัปปธาน 4
    อิทธิบาท 4
    อินทรีย์ 5
    พละ 5
    โพชฌงค์ 7
    มรรคมีองค์ 8
    โพธิปักขิยธรรม นี้ตามที่ทั่วไปในพระไตรปิฎก ตรัสไว้เพียงเป็นคำรวมๆ โดยไม่ได้ระบุชื่อองค์ธรรม นอกจากในสังยุตตนิกายแห่งพระสุตตันตปิฎก ที่มีพุทธพจน์ตรัสระบุไว้ว่า ได้แก่ อินทรีย์ 5 และในคัมภีร์วิภงค์แห่งพระอภิธรรมปิฎก ซึ่งไขความว่า โพธิปักขิยธรรม ได้แก่โพชฌงค์ 7
    ธรรมชุดนี้ เมื่อตรัสระบุชื่อทั้งชุดในพระสูตร ทรงเรียกว่าเป็น อภิญญาเทสิตธรรม เช่นคือ เป็นอภิญญาเทสิตธรรม 37 และในพระอภิธรรม ท่านแสดงไว้ว่าธรรม 37 ประการนี้ เป็น สัทธรรม
    นอกจากนี้ ธรรม 37 ประการชุดนี้ยังได้ชื่อว่าเป็น สันติบท คือ ธรรมที่เป็นไปเพื่อการบรรลุสันติ (รวมทั้งเป็น อมตบท และ นิพพานบท เป็นต้น) และเป็น เสรีธรรม หรือ ธรรมเสรี
    ในพระวินัยปิฎก ท่านแสดงธรรม 37 ประการนี้ไว้เป็นคำจำกัดความของคำว่า มรรคภาวนา

    ขอขอบคุณ แหล่งที่มา http://www.easyinsurance4u.com/buddh...ightenment.htm

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ภาพจาก พุทธศนกับชีวิต -- อาจารย์ เดชา จันทภาษา

    ขอบคุนเพื่อนอกาลิโกครับ

    http://board.agalico.com/showthread.php?t=3558
    ก่อนเกิดใครเป็นเรา<br />เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร<br /><br />สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่<br />ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า<br /><br />ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน<br />มองในสิ่งที่ไม่เห็น<br />ทำในสื่งที่ไม่มี