ชาติ ชรา มรณาธิกถา
สมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทธสิริ)
วัดโสมนัสราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
คำนำ
หนังสือเล่มนี้ข้าพเจ้าได้จัดพิมพ์ขึ้น ณ พุทธศักราช ๒๗๖๘ ในคราวปลงศพสนองคุณ ท่านสัมฤทธิ์ป้า แลท่านเล็กน้า ผู้ได้กำเนิดมาในสกุลบุนนาคผ่ายหนึ่ง ซึ่งมรณกรรมไปแล้ว ( เมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๗ ) ปีเดียวกัน
ต้นฉบับหนังสือที่พิมพ์ขึ้นนี้ได้มาจากสำนักวัดโสมนัสวิหาร เข้าใจว่าเป็นพจนนิพนธ์ของสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทธศิริ)
กุศลทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วในการศพท่านทั้ง ๒ เริ่มแต่มรณกาลของท่านตลอดจนการปลงศพ ทั้งการพิมพ์หนังสือนี้ หากจะมีอานิสงส์ผลประการใด ขออุทิศผลานิสงส์ทั้งสิ้นนั้นแก่ท่านทั้ง ๒ ที่กล่าวนามมาแล้วจงได้อนุโมทนา เพื่อสำเร็จประโยชน์แลความสุขตามสมควรแก่คติวิสัยสามารถจงทุกประการ
ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณจงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญกุศลนั้น ๆ เทอญ
ลายเซ็นต์ พระยา (อ่านไม่ออก)
เอวมฺเม สุตํ ฯลฯ ตโย ภิกฺขเว ธมฺมา
โลเก น สํ วิชฺเชยฺยุ ํ น ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺ
เชยฺย อรหํสมฺมาสมฺพุทฺโธ น ตถาคตปฺปเวทิโต
ธมฺมวินโย โลเก ทีเปยฺย กตเม ตโย ชาติ
จ ชรา จ มรณํ จ อิเม ภิกฺขเว ตโย ฯลฯ
ทีเปยฺย ยสฺมา จ โข ภิกฺขเว อิเม ฯลฯ
สํวิชฺชนฺติ ฯลฯ อุปฺปชฺชนฺติ ฯลฯ สมฺพุทฺโธ
ตสฺมา ตถาคตปฺปเวทิโต ฯลฯ ทีเปตีติ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ อย่างนี้ไม่พึงมีในโลก พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะไม่พึงเกิดขึ้นในโลกเลย ธรรมแลวินัยที่พระตถาคตตรัสรู้แจ้งทั่วก็จะไม่พึงรุ่งเรืองในโลก ธรรม ๓ อย่างนั้นอย่างไร จะได้แก่สิ่งอะไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชาติ ความเกิดด้วย ชรา ความชำรุดทรุดโทรมแปรผันด้วย มรณ ความม้วยมอดพินาศขาดหายตายไปด้วยธรรม ๓ อย่างเหล่านี้ ไม่พึงมีในโลก พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะไม่พึงเกิดขึ้นในโลก ธรรมแลวินัยที่พระตถาคตตรัสรู้แจ้งทั่ว ก็จะไม่พึงรุ่งเรืองในโลก
ยสฺมา จ โข ภิกฺขเว ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุใด ธรรม ๓ ประการเหล่านี้มีอยู่ในโลก พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกเพราะเหตุนั้น ธรรมแลวินัยที่พระตถาคตตรัสรู้แจ้งทั่ว จึงรุ่งเรืองในโลก พระพุทธภาษิตตรัสเทศนาไว้ฉะนี้ ให้นักปราชญ์ผู้มีปรีชาพึงสันนิษฐานว่า ธรรม ๒ ประการ คือ ชรา แลมรณะ นั้น จะมีจะเป็นขึ้นพร้อมก็เพราะชาติ ชาติความเกิดมีอยู่ ชราแลมรณะเป็นผล ผลจะมีมาก็เพราะเหตุ เหตุมีอยู่จึงบังเกิดผล ประหนึ่งต้นพฤกษาชาติ ย่อมเผล็ดดอกก่อนจึงจะเป็นผล ผลจะมีจะเป็นขึ้นก็เพราะดอกเป็นเหตุ ฉันใด ชราแลมรณะ ๒ ประการนี้ จะมี จะเป็น จะปรากฏขึ้นก็เพราะชาติเป็นเหตุเป็นแดนเกิด ฉันนั้น มิฉะนั้น เปรียบเหมือนดวงประทีป อันผู้ใดผู้หนึ่งจุดไว้ในที่มืด ย่อมมีแสงสว่างบังเกิดขึ้น ให้บุคคลผู้มีจักษุได้เห็นรูปารมณ์ต่าง ๆ แลแสงสว่างนั้นจะมีปรากฏขึ้นก็เพราะดวงประทีปเป็นเหตุเกิดขึ้นแห่งแสงสว่างฉันใด ชาติก็เป็นเหตุเกิด เป็นที่เกิดของชราและมรณะฉันนั้น
ชาติอะไร ชื่อว่าเกิดเป็นตัวเกิด ชรานั้นอย่างไร อะไรชื่อว่าชรา เป็นตัวชรา มรณะนั้นอย่างไร อะไรชื่อว่ามรณะ เป็นตัวมรณะดังนี้ สำคัญนัก ผู้นับถือพระพุทธศาสนาจำเป็นจะต้องศึกษาให้รู้จัก ชาติ ความเกิด และ ชรา ความแก่ แล มรณ ความตาย ถ้าไม่รู้จักชาติ, ชรา, มรณะ แล้ว ไม่พ้นจากชาติทุกข์ได้เลย จะต้องเกิดแก่ตายร่ำไปไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ที่จะพ้นจากอบายทุกข์และสังสารทุกข์ คือ เกิด, แก่, ตาย ได้นั้น อาศัยมารู้จักความเกิด รู้เท่าต่อความเกิด รู้จักชรา รู้เท่าต่อชรา รู้จักมรณะ รู้เท่าต่อมรณะ จึงพ้นจากอบายและสังสารทุกข์ได้ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย จะทรงพระนามว่า อรหํ สมฺมา สมฺพุทฺโธ นั้น แปลว่า เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้กำจัดข้าศึก คือกิเลส เป็นผู้ควรไหว้ควรบูชาเป็นต้น ก็เพราะพระองค์ตรัสรู้เท่าต่อความเกิด, แก่, ตาย ธรรมที่พระองค์ตรัสเทศนาสั่งสอนไว้ จะชื่อว่าเป็นสวากขาตธรรมนั้น ก็เพราะเป็นอุบายจะให้สัตว์รู้เท่าต่อความเกิด, แก่, ตาย พระสงฆ์สาวกของพระองค์ ซึ่งจัดไว้เป็นคู่ ๆ ได้ ๔ เรียงตัวบุคคลเป็น ๘ จะชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติชอบปฏิบัติดีนั้น ก็เพราะปฏิบัติจนรู้เท่าต่อ เกิด, แก่, ตาย ปัญญาที่มารู้จัก เกิด, แก่, ตาย เป็นเหตุให้สัตว์พ้นจากอบายทุกข์ แลสังสารทุกข์ เพราะฉะนั้น จำจะต้องศึกษาให้รู้จัก เกิด, แก่, ตาย
+++++ ต่อหน้า 2 +++++