ท่อง....ทะเลใจ

สวัสดีค่ะพี่นพ เกิดแก่ ทั่นบีบี ครูวิทย์ ตาเปา มะแม น้องโดด น้องอ๋อย เพียงฝัน น้องรัก และญาติธรรมทุกท่านค่ะ
ว๊าว...อาหารหวานคาวเรียงราย ยั่วน้ำหมากหยดแหมะๆเลยค่ะ

อินทผลัมของฝากจากซาอุดิอาราเบียค่ะ เชิญทุกท่านร่วมกันชิมค่ะ

ขอบคุณเกิดแก่มากค่ะ อุตส่าห์นำมาแบ่งปันกัน

มะนาวบีบ นมสดใส่ ลงไปด้วย
เอาพริกช่วย เพิ่มความเผ็ด เสร็จสุดหา
น้ำตาลปรุง พริกเผาเพิ่ม เสริมโอชา
ตักขึ้นมา โรยผักชี สีชวนชิม

เห็นฝีมือพี่นพทำต้มยำปลาแล้วต้องยกนิ้วให้ ไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ
อยากชิมจังแต่หน้าตาท่าทางจะแซ่บหลายๆนะคะเนี่ย

ของฝากจากเพื่อนบ้านค่ะ
นำมาฝากทุกๆท่านต่อค่ะ
ยิงที่เดียวได้นกสองตัวค่ะอิอิ

นั่น..พียงฝันเอาเงาะกับกระท้อนมายั่วน้ำหมากอีกแระ
อยากทานกระท้อนทรงเครื่องอ่ะค่ะ ใส่ถั่วป่นเยอะๆนะ อู๊ย...น้ำลายหก เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก

เมื่อวันเสาร์ทั่นยายอยู่บ้าน นึกอยากทานยำขนมจีน ตลาดแถวบ้านไม่มีขายค่ะ
จึงต้องทำทานเอง เป็นเมนูที่ทำไม่อยากค่ะ ทำก็ง่าย ทานก็ง่าย ไม่ต้องจ่ายแพงค่ะ อิ อิ อิ
ยำขนมจีนเป็นเมนูที่ไม่มีสูตรตายตัว เครื่องปรุงหลักมีไม่กี่อย่างคือ
ขนมจีน มะนาว น้ำปลา น้ำตาล นอกนั้นอยากทานอะไรก็สรรหาใส่ลงไปตามใจชอบค่ะ
วันนี้นำมาเสนอไว้หลายสูตรชอบสูตรไหนก็เลือกทำทานกันตามชอนนะคะ
หรือจะคิดค้นสูตรขึ้นมาเองก็ตามสะดวกค่ะ อิ อิ อิ



ยำขนมจีน

ส่วนผสม
ขนมจีนจับใหญ่ 1 ½-2 จับ
กุ้งสด 4-5 ตัว
หมูสับ 3 ช้อนโต๊ะ
หัวหอมแดง 4-5 หัว
มะเขือเทศสีดา 4-5 ลูก
ถั่วฝักยาว 1-2 เส้น
มะดันหรือตะลิงปลิง (ถ้ามี)
พริกขี้หนูสวน
น้ำปลา มะนาว
น้ำตาลปีบ
ผงชูรส (ถ้าต้องการใส่)

วิธีทำ
1.กุ้งสด ล้างน้ำแล้วแกะเปลือกออก ผ่าหรือไม่ผ่าหลังกุ้งแล้วแต่ขนาดตัวกุ้งและความสะดวก
2.นำหน้ำใส่หม้อ ปริมาณน้ำแค่พอลวกกุ้ง น้ำเดือดแล้วนำกุ้งลงไปลวกให้สุกแล้วช้อนขึ้น พักไว้
3.เทน้ำในหม้อลวกกุ้งทิ้งไป นำหมูสับใส่หม้อ เติมน้ำสะอาดเล็กน้อย ประมาณ 1-2 ทัพพี เปิดไฟ รวนหมูให้สุก พักไว้ น้ำรวนหมูเก็บไว้ก่อนเผื่อปรับรสชาติในน้ำยำ (ถ้าน้ำยำรสจัดเกินไป)
4.ถั่วฝักยาว ล้างน้ำ ตัดหัวตัดท้ายทิ้ง หั่นแฉลบ
5.มะเขือเทศ ล้างน้ำแล้วปลิดขั้วทิ้ง ผ่าตามขนาดลูก
6.มะดันหรือตะลิงปลิง ล้างน้ำ ตัดหัวตัดท้ายทิ้ง สับให้รอบลูก แล้วเฉือนเนื้อออก
7.หัวหอมแดง ปอกเปลือก ล้างน้ำ ซอยหนาบางตามชอบ
8.พริกขี้หนูสวน ล้างน้ำ ปลิดขั้วทิ้ง ทุบแล้วสับหยาบหรือหั่นหยาบ
9.ผสมน้ำยำในชามผสม อัตราส่วนตามชอบ ของแม่หลิ่ม น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบนิดหน่อย (ใช้วิธีชิมเอา) พยายามบี้ให้น้ำตาลปีบ
ละลายให้หมด เวลาตักกินจะได้รสชาติเสมอทั่วกัน
10.นำกุ้งและหมูสับใส่ลงในชามน้ำยำ เคล้าให้เข้ากัน
11.ใส่มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว มะดันหรือตะลิงปลิง เคล้าให้เข้ากัน
12.ใส่หัวหอมแดงและพริกขี้หนู เคล้าให้เข้ากัน
13.ตัดขนมจีนเป็นท่อนสั้นประมาณ 2-3 นิ้ว ใส่ในชามน้ำยำ เคล้าให้เข้ากัน
ชิมรสชาติอีกครั้ง ไม่ถูกใจปรุงเพิ่มได้เลยค่ะ

สูตรจากlekkathaifood.com ขอบคุณค่ะ




ยำขนมจีนหอยดอง

จากคุณ : คนทำงาน ขอบคุณค่ะ

ยำขนมจีนเห็ดแชมปิญองรสกะปิ

- ขนมจีน 1/2 กก.
- กะปิ 2 ช้อน
- หอมแดง 5 หัว
- เกลือ
- มะนาว
- พริกขี้หนู ตามชอบ
- น้ำตาลปึก

เอากะปิไปห่อไปตองย่างไฟให้หอมก่อน
พริกขี้หนูแบ่งเป็น 2 ส่วน ใส่ตำในน้ำพริก 1 ส่วน ที่เหลือซอยโรยหน้ายำ
ตำหอมแดง กะปิ พริกขี้หนู ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาลปึก มะนาว ตามรสที่ชอบ
ใส่น้ำซุปที่ได้จากต้มเห็ดลงไป เอาเห็ดแชมปิญองที่ต้มไว้ลงไปคลุกกับน้ำพริกในครก
เทใส่ขนมจีนคลุกขนมจีนกับเห็ดให้เข้ากันชิมรสอีกครั้ง
ใส่สาระแหน่ลงไปคลุกทานยำขนมจีนพร้อมไข่ต้มยางมะตูมแนมด้วยผักสดค่ะ

สูตรจาก lekkathaifood.com ขอบคุณค่ะ

ยำขนมจีนแคปหมู

เครื่องปรุงมีไม่มากค่ะ
เริ่มจากน้ำยำ ปรุงด้วยกระเทียมสับ พริกขี้หนูสับ น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลนิดหน่อย
เตรียมเครื่องอื่น ๆ ประกอบด้วย หอมแดงซอย ผักชี กุ้งแห้งป่นหรือหั่นเล็ก ๆ
หมูยอหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า และแค็ปหมูค่ะ

วิธีทำ
คลุกเส้นขนมจีนกับน้ำยำก่อน จากนั้นใส่เครื่องที่เหลือ โรยรอบ ๆ ด้วยแค็ปหมู
เสร็จแล้วจ้า ง่ายดีมั้ยคะ
สูตรของคุณ : Pl@too จากพันทิพย์ค่ะ ขอบคุณค่ะ

ยำขนมจีนหมูยอ

เครื่องปรุง
เส้นขนมจีน หอมใหญ่ซอย แครอท มะเขือเทศ ใบตั้งโอ๋
หมูยอจะเอาแบบลวกหรือทอดก็ได้ค่ะ
มะนาว น้ำปลา น้ำตาล พริก กระเทียม
น้ำยำ ตำพริกกับกระเทียมให้ละเอียด ใส่น้ำปลา น้ำตาล
น้ำมะนาว คนให้น้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบค่ะ
ใส่เครื่องปรุงทั้งหมด ใส่น้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบค่ะ

สูตรของคุณบาร์บี้แสนสวย จาก.bloggang.comค่ะ ขอบคุณค่ะ

ยำขนมจีนปลาทู

เครื่องปรุง

ขนมจีน 5 จับเล็ก ปลาทู 2-3 ตัว แกะเอาแต่เนื้อ
พริกขี้หนูซอย ตามชอบ หอมแดงซอย 2-3 หัว
แครอทซอย ½ ถ้วย (สูตรดั้งเดิมเขาไม่มี แต่ชอบใส่ไปด้วย)
ผักชี ผักชีใบเลื่อยและต้นหอมซอย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามสะดวกค่ะ)
สะระแหน่เด็ดใบ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามสะดวกค่ะ )
น้ำมะนาว 2 ชต. น้ำปลา 2 ชต. น้ำตาลทราย 2 ชช.
พริกแห้งทอด (จะมีหรือไม่มีก็ได้ตามสะดวกค่ะ )
ผักแกล้ม เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว ฯลฯ

วิธีทำ
1. นำขนมจีนไปต้นและจับให้สวยงาม พักไว้ ถ้าเป็นปลาทูก็นำไปทอดให้สุก
และแกะเอาแต่เนื้อ เป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนผักก็หั่นเตรียมไว้ให้เรียบร้อย

2. นำเครื่องทุกอย่างใส่ลงชาม/หม้อยำ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาวและน้ำตาลทราย
ให้ได้รสชาติที่ต้องการ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยด้วยพริกแห้งทอด
พร้อมเสิร์ฟด้วยผักแกล้มที่เตรียมไว้ค่ะ

สูตรของคุณแซบอิลี่ จาก bloggang.com ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่นพ ลุงเปา พี่เกิดแก่ ทั่นยาย
ครูวิทย์ อาจารย์เดฟ อาจารย์ดาว พี่โดด พี่อ๋อย
ลุงบีบี พี่ปิศาจ และญาติธรรมทุกท่านค่ะ

ขอบคุณลุงเปา พี่นพ ทั่นยาย พี่เกิดแก่ค่ะ
ที่นำเมนูอร่อยๆหลากหลายมากมายมาฝากค่ะ

เพียงฝันก็ไม่ยอมน้อยหน้าอ่ะคะ อิอิ

เพียงฝันนี่น่าตีจริงเชียว เอาอะไรมาวางล่ะเนี่ย แล้วก็ไม่ยอมบอกกล่าว
ว่าจานนี้เขาเรียกว่าอะไร แล้วไผจะกล้าทานหล้าว ข้อความทั่นยายค่ะ

เมนูเพียงฝันง่ายมาก่ค่ะ
เต้าหูหนึ่งชิ้นนมสดผักพอประมาณแล้วแต่ชอบค่ะ
อุ่นนมให้ร้อนเต้าหูตามค่ะจัดผักเรียงตามใจแล้วแต่ความชอบค่ะ
แค่นี้ก็ได้ทานอาหารว่างแล้วค่ะ
ขอบคุณทั่นยายค่ะ มือใหม่ก็แบบนี้ค่ะทั่นยายขา อิอิ

ว่าแต่ว่าลูกโท๊ะ ทั่นยายเป็นอย่างไรค่ะ
เพียงฝันยังมองมะเหงอ่ะค่ะ
อิอิ

อาหารเบาๆมาฝากทุกท่านค่ะ

เพียงฝันนี่น่าตีจริงเชียว เอาอะไรมาวางล่ะเนี่ย แล้วก็ไม่ยอมบอกกล่าว
ว่าจานนี้เขาเรียกว่าอะไร แล้วไผจะกล้าทานหล้าว

ผลไม้ที่ทั่นยายนำมาแนะนำวันนี้ ไม่ธรรมดานะขอบอก
มันคือลูกโท๊ะ /โทะ /โท่ /ทุ แล้วแต่ว่าท้องถิ่นไหนจะเรียกอย่างไร
มีอยู่ทางภาคใต้ เป็นผลไม้ตระกูลเบอรรี่แบบไทยๆ เอาไว้แย่งนกทานเล่นๆค่ะ
ดอกสวยแบบนี้ น่าจะปลูกเป็นไม้ประดับได้ด้วยนะเนี่ย
เพียงฝันน่าจะรู้จักดี ใช่มั้ยคะ



ลูกอร่อยหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ว่าดอกสวยมากเชียวค่ะ น่าปลูกเป็นไม้ประดับนะเนี่ย



ขอบคุณภาพจากเน็ตค่ะ หากทั่นยายถ่ายเองคงไม่สวยขนาดนี้หรอกค่ะ แหะ แหะ

เนื่องในวันอาสาฬหะบูชา และวันเข้าพรรษา ทั่นยายขอนำภาพพุทธประวัติ
ซึ่งเป็นภาพวาดสีสวยสดมาให้ชม เพื่อน้อมสักการะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันนะคะ





ใต้ต้นโพธิ์ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา พระบรมโพธิสัตว์ประทับขัดสมาธิ
ผินพระพักตร์สู่ทิศตะวันออกตั้งพระวรกายตรง ดำรงพระสติมั่น
เจริญอานาปานสติ ตั้งพระปณิธานแน่วแน่ จะพยายามเพื่อบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ
ให้จงได้แม้ว่าเลือดเนื้อและโลหิตจะเหือดแห้งไป เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกก็ตามที
ก็จะไม่ยอมลุกขึ้นเป็นอันขาด

บัดดลพญามารนามวสวัตตี ก็ปรากฏตัวชื่อ “วสวัตตี” แปลว่า “ ผู้ยังบุคคลอื่น
ให้ตกอยู่ในอำนาจ ” มารตนนี้เป็นเทพ (ผู้เกเร) ครองสวรรค์ชั้นสูงสุดนามว่า
ปรนิมมิตวสวัตตี แบ่งเป็นสองแดน แดนหนึ่งมีเทพนามว่า "วสวัตตีเทพ" ครองอยู่
อีกแดนหนึ่งเป็นแดนมารมี"พญามารวสวัตตี" ตนนี้ครองอยู่

พญามารเกรงว่า พระโพธิสัตว์จะก้าวพ้นจากเงื้อมมือของตน จึงยกพหลพลโยธามาร
มาผจญ ตัวพญามารเองก็เนรมิตแขนพันแขนพร้อมถืออาวุธครบทุกมือ
ขี่พญาช้างนามครีเมขละ นำลิ่วล้อหน้าตาน่าสะพรึงกลัวมาล้อมพระองค์
ออกปากขับไล่ให้พระโพธิสัตว์ลุกจากบัลลังก์โดยอ้างว่า บัลลังก์นี้เป็นของมัน

พระบรมโพธิสัตว์ตรัสว่า “ รัตนบัลลังก์ นี้เป็นของเรา พราหมณ์นามโสตถิยะ
ให้หญ้ากุศะเรามา ๘ กำ เราเอามาลาดเป็นอาสนะ”
“บัลลังก์นี้เป็นของข้า” พญามารกล่าวเสียงดัง ท่านลุกขึ้นเสียดีๆ ยกบัลลังก์ให้แก่ข้า
อย่าให้ใช้กำลัง” เมื่อพระบรมพระโพธิสัตว์ยืนยันว่าบัลลังก์เป็นของพระองค์
มันจึงซักว่า “ท่านมีพยานไหมล่ะ” พระองค์ทรงชี้ดรรชนีลงยังพื้นปฐพี ตรัสว่า
“ขอให้วสุนธราเป็นพยาน” ทันใดนั้น นางวสุนธราหรือนางธรณีก็ปรากฏกายบีบมวยผม
ปล่อยกระแสธารไหลมาท่วมกองทัพพญามารจนพ่ายแพ้หนีไปในที่สุด

สวัสดีค่ะ พี่นพ ลุงเปา พี่เกิดแก่ ทั่นยาย
ครูวิทย์ อาจารย์เดฟ อาจารย์ดาว พี่โดด พี่อ๋อย
ลุงบีบี พี่ปิศาจ และญาติธรรมทุกท่านค่ะ


ทั่นยายขา สาธุค่ะ
ขอบคุณพี่นพและทุกท่านค่ะ

อาหารว่างมาฝากค่ะ