พระอุบาลีเถระ เอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัย

กระทู้: พระอุบาลีเถระ เอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัย

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. รูปส่วนตัว DAO

    DAO said:

    พระอุบาลีเถระ เอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัย




    พระอุบาลีเถระ
    เอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัย

    พระอุบาลี เกิดในตระกูลช่างกัลบก ในกรุงกบิลพัสดุ์ เมื่อเจริญเติบโตขึ้นได้รับแต่งตั้ง
    ให้ทำหน้าที่เป็นช่างกัลบก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ช่างภูษามาลา มีหน้าที่ตัดแต่งพระเกศา
    ประจำราชสกุลศากยะ ซึ่งมีเจ้าชายภัททิยะ เจ้าชายอนุรุทธะ เจ้าชายภัคคุ เจ้าชายกิมพิละ และ
    เจ้าชายอานนท์ เป็นต้น ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจงรักภักดี เสมอต้นเสมอปลายต่อเจ้าชาย
    ทุก ๆ พระองค์ จนเป็นที่ไว้วางพระหฤทัย
    ขอบวชตามเจ้าศากยะ
    ในสมัยที่พระพุทธองค์ เสด็จมาโปรดพระประยูรญาติที่นครกบิลพัสดุ์ แล้วเสด็จไป
    ประทับที่อนุปิยอัมพวัน ซึ่งเป็นแว่นแคว้นของมัลลกษัตริย์ เจ้าชายศากยะทั้ง ๕ พระองค์ ที่
    กล่าวนามข้างต้น ได้ตัดสินพระทัยออกบวชเป็นพุทธสาวก และอุบาลีช่างกัลบกก็ขอบวชด้วย
    จึงรวมเป็น ๗ พระองค์ด้วยกัน
    พระอุบาลี เมื่อบวชแล้ว ได้ศึกษาพระกรรมฐานจากพระภาค หลังจากนั้นท่านมีความ
    ประสงค์จะไปบำเพ็ญสมณธรรมในป่า เพื่อหาความสงบตามลำพัง แต่เมื่อกราบทูลลาพระผู้มี
    พระภาคแล้ว พระองค์ไม่ทรงอนุญาต ได้มีรับสั่งแก่เธอว่า
    “อุบาลี ถ้าเธอไปอยู่ในป่าบำเพ็ญสมณธรรม ก็จะสำเร็จเพียงวิปัสสนาธุระ แต่ถ้าเธออยู่
    ในสำนักของคถาคต ก็จะสำเร็จธุระทั้งสอง คือ ทั้งวิปัสสนาธุระ และคันถธุระ (การเรียนคัมภีร์
    ต่าง ๆ )”
    ท่านปฏิบัติตามพระพุทธดำรัสที่ตรัสแนะนำ ได้ศึกษาพระพุทธพจน์ไปพร้อมกับเจริญ
    วิปัสสนากรรมฐาน ไม่นานก็บรรลุพระอรหัตผลในพรรษานั้น หลังจากนั้นท่านก็เป็นกำลัง
    สำคัญ ในการเผยแผ่พระศาสนา เพราะความที่ท่านอยู่ใกล้ชิดพระบรมศาสดาโดยตรง ท่านจึงมี
    ความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ในด้านพระวินัย ท่านช่วยอบรมสั่งสอนถ่ายทอดความรู้ด้าน
    พระวินัยให้แก่ศิษย์ลัทธิวิหาริกของท่านเป็นจำนวนมาก ถ้ามีอธิกรณ์เกิดขึ้นแก่ภิกษุสงฆ์หรือ
    เกี่ยวกับพระวินัยแล้ว พระพุทธองค์จะทรงมอบให้ท่านเป็นผู้วินิจฉัย


    ตัดสินใจคดีภิกษุณีท้อง
    สมัยหนึ่ง ลูกสาวเศรษฐีในกรุงราชคฤห์ หลังจากแต่งงานแล้วเข้ามาบวชโดยไม่ทราบว่า
    ตนตั้งครรภ์ เมื่อบวชได้ไม่นานครรภ์โตขึ้นมาก เป็นที่รังเกียจสงสัยของพุทธบริษัททั้งหลาย
    พระพุทธองค์แม้จะทรงทราบความจริงอยู่แล้ว แต่เพื่อให้ความจริงปรากฏชัดแก่พุทธบริษัททั้ง
    ปวง จึงรับสั่งให้พระอุบาลีเถระตัดสินความเรื่องนี้
    พระเถระ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาร่วมกันพิสูจน์ โดยมีพระเจ้าปเสนทิโกศล เป็น
    ประธาน มีนางวิสาขา และอนาถปิณฑิกะ เป็นต้น ร่วมกันพิจารณาเมื่อคณะผู้พิจารณาได้ตรวจดู
    มือ เท้า และลักษณะของครรภ์แล้วนับวันนับเดือนสอบประวัติย้อนหลังโดยละเอียดแล้วก็ทราบ
    ชัดเจนว่า “นางตั้งครรภ์มาตั้งแต่ก่อนบวช”
    พระอุบาลีเถระ จึงได้ประกาศตัดสินในท่ามกลางพุทธบริษัททั้ง ๔ ว่า “ภิกษุณีรูปนี้ยังมี
    ศีลบริสุทธิ์อยู่” แล้วกราบทูลเนื้อความให้พระบรมศาสดาทรงทราบ พระพุทธองค์ได้ตรัส
    อนุโมทนาสาธุการแก่พระเถระว่า “ชำระความได้ถูกต้องยุติธรรม”


    ปฐมสังคายนาวิสัชนาพระวินัย
    ผลงานที่ท่านได้เป็นกำลังสำคัญ ทำให้พระพุทธศาสนายืนยาวสืบสอดมาถึงปัจจุบันนี้
    ก็คือ หลังจากที่พระบรมศาสดาเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปเถระ ได้คัดเลือก
    พระอรหันตสาวก จำนวน ๕๐๐ รูป ร่วมกันทำปฐมสังคายนา โดยมติของที่ประชุมสงฆ์ได้มอบ
    ให้ท่านรับหน้าที่วิสัชนาพระวินัย โดยรวบรวมพระวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ในที่ต่าง ๆ
    เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ นำมาจัดรวบรวมเป็นหมวดหมู่จนเป็น พระวินัยปิฎก ที่เป็นหลักฐานให้
    ศึกษากันในปัจจุบันนี้
    อนึ่ง ในการทำสังคายนาครั้งที่ ๓ โดยการนำของพระโมคคัลลีบุตร ติสสเถระ ก็ถือว่า
    ท่านสืบเชื้อสายการศึกษาพระวินัยมากจากศิษย์ของพระอุบาลีเถระเช่นกัน
    ด้วยความที่ท่านพระอุบาลีเถระ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านพระวินัยนี้ จึงได้รับยกย่องจาก
    พระบรมศาสดา ในตำแหน่งเอตทัคคะเลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทาง ผู้ทรงพระวินัย
    ท่านพระอุบาลีเถระ ดำรงอายุสังขาร โดยสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน




    ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.84000.org/one/1/09.html





    สิ้นทุกข์สุขที่แท้จึงได้พบพาน
     
  2. รูปส่วนตัว Butsaya

    Butsaya said:

    Re: พระอุบาลีเถระ เอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัย

    เอตทัคคะ หมวดภิกษุ - พระอุบาลีเถระ
    เอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัย




    ให้เสียงโดย : พระมหาธีรนาถ อคฺคธีโร

    ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เข้ามารับชมรับฟังแล้วเกิดกุศลจิตทุกท่านค่ะ
    ขอขอบคุณที่มาของการอัปโหลด :: โดย hiphoplanla
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย Butsaya : 06-02-2012 เมื่อ 09:06 AM

    ธรรมมีทุกหย่อมหญ้า.......สำหรับผู้มีปัญญา