หลวงปู่ครูบาแก้ว กมฺมสุทโธ วัดร่องดู่ จังหวัดพะเยา

ยอดพระเกจิอาจารย์ผู้เรื่องวิทยาคม พระอริยสงฆ์แห่งแผ่นดินล้านนา

หลวงปู่ครูบาแก้ว (แก้วมา) กมฺมสุทโธ เจ้าอาวาสวัดร่องดู่ หมู่ 10 ต.จุน อ.จุน จังหวัดพะเยา อำเภอจุนเป็นอำเภอเล็ก ๆ อำเภอหนึ่ง อยู่ห่างตัวเมืองพะเยาไป 40 กว่ากิโลฯ ท่านที่จะเดินทางไปที่วัดให้เลี้ยวขวาตรงสี่แยกแม่ต๋าตรงไปอำเภอจุนอีก 40 กว่ากิโลฯ ก็จะถึงตัวอำเภอจุน ถามคนแถวนั้นก็จะรู้จักวัดร่องดู่ อยู่เลยอำเภอจุนไปอีกนิดเดียวก็ถึงปากทางเข้าวัดอยู่ทางขวามือ

ประวัติหลวงปู่ครูบาแก้ว กมฺมสุทโธ เจ้าอาวาสวัดร่องดู่ ครูบาแก้ว เกิดเมื่อปี พ.ศ.2461 ณ บ้านร่องดู่ อ.จุน จ.พะเยา ก่อนที่จะเกิดหลวงปู่นั้น โยมแม่ได้ฝันไปว่ามีคนนำเอาลูกแก้วซึ่งมีสีสว่างใสนวลสวยงามมากมามอบให้ท่าน โยมแม่จึงตกใจตื่น ท่านจึงตั้งชื่อลูกชายว่า “แก้วมา” (ภายหลังนิยมเรียกท่านว่า ครูบาแก้ว) เมื่อวัยเด็กท่านเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยพูด เหนียมอาย ชอบทำบุญอยู่เสมอจึงเป็นที่หมายตาของสาว ๆ ประจำหมู่บ้าน มีอยู่ครั้งหนึ่งเพื่อนท่านชวนท่านไปดักปลา พอเพื่อนหลวงปู่จับปลาได้ หลวงปู่ก็แอบปล่อยปลาอยู่เสมอ หรือแกล้งทำหลุดไปบ้าง ท่านไม่อยากให้ทำบาป หลวงปู่ท่านเคยมีครอบครัวมาแล้วก่อนที่จะมาบวช ตอนหนุ่มท่านชอบศึกษาวิชาอาคมไสยศาสตร์มาก ใครเก่งหรือมีวิชาดีที่ไหนท่านจะไปเรียนมาหมด ท่านชอบศึกษาหาความรู้ใฝ่เรียนค้นคว้าอยู่เสมอ สาเหตุที่ท่านบวชเนื่องจากว่าภรรยาคู่ชีวิตของท่านป่วยและเสียชีวิตลง ท่านจึงคิดว่าบวชให้ 7 วัน แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบหลวงปู่เล่าว่าวันแรกที่ท่านบวชตกตอนกลางคืนขณะที่ท่านกำลังฝึกสมาธิกรรมฐานอยู่นั้น ปรากฏว่าท่านตกใจแทบช็อค เมื่อมีคนมาสะกิดท่าน ตอนแรกท่านนึกว่ามีคนมาแกล้ง แต่พอลืมตาขึ้นท่านก็ถึงกับตะลึง เพราะนั่นคือพวกผีเปรตมาขอส่วนบุญ ตอนนั้นหลวงปู่แทบครองสติไม่อยู่ แต่ด้วยที่ท่านมีจิตที่แน่วนิ่งเข้มแข็งท่านจึงแผ่ส่วนกุศลไปให้ ปรากฏว่าภาพที่ท่านเห็นนั้นได้หายไป คืนต่อมาท่านได้จำวัดแล้วฝันไปว่ามีคนมาหาท่าน มาขอบใจและนำช้างมาถวายหลวงปู่ 2 เชือก ท่านจึงรับไว้แล้วร่างนั้นก็หายไป

จากการที่ว่าหลวงปู่ท่านจะบวช 7 วัน ท่านจึงเปลี่ยนใจโดยตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่สึกตลอดชีวิต หลวงปู่ท่านได้บวช ณ วัดร่องดู่ โดยเจ้าอาวาสองค์ก่อนบวชให้ ท่านได้เรียนวิชาจากเจ้าอาวาสองค์เก่าจนหมดสิ้น มีอาจารย์ดีหรือเก่งที่ไหนหลวงปู่ท่านจะไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อขอศึกษาวิชามาจนหมดสิ้น หลวงปู่มีตำราเก่าแก่ในการสร้างวัตถุมงคลตกทอดมาถึงท่านอีกด้วย ท่านนำมาศึกษาค้นคว้าจนมั่นใจว่าสำเร็จ จึงสร้างวัตถุมงคลออกมา ปรากฏว่าศิษย์ของท่านนำไปบูชาต่างมีประสบการณ์ทางเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย และแคล้วคลาด

หลวงปู่ท่านชอบฝึกกรรมฐานอยู่เสมอ ท่านชอบฝึกเตโชกสิณ (กสิณไฟ) จึงทำให้พลังจิตของท่านกล้าแข็ง มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยไปบวชรับใช้ท่านที่วัดร่องดู่ ผู้เขียนตอนเป็นพระเคยเห็นหลวงปู่ท่านสร้างวัตถุมงคลเพื่อแจกศิษย์ยานุศิษย์ ผู้เขียนสังเกตว่าหลวงปู่ท่านจะเคร่งมากท่านถือวิชาแบบโบราณ ครั้งหนึ่งท่านเคยสร้างตะกรุดให้นำไปบูชา สังเกตว่าหลวงปู่จะหาฤกษ์ที่ดีนั่งลงจารตะกรุด โดยท่านจะกำหนดจิตไปที่เหล็กจารค่อย ๆ เขียนอักขระทีละตัว พลังจิตของท่านมั่นคงหนักแน่นมาก หลวงปู่ท่านเขียนยันต์ไปพร้อมกับท่องสูตรกำกับไป อักขระทุกตัวที่ท่านเขียนท่านใช้พลังจิตเพ่งกำกับลงไปเสมอ พอหลวงปู่จารเสร็จท่านก็ม้วนตะกรุด ตอนม้วนท่านค่อย ๆ ม้วนทีละนิดพร้อมกับท่องคาถากำกับไปด้วย

พอหลวงปู่ม้วนเสร็จท่านก็ท่องคาถาจบแล้วท่านก็นำตะกรุดดอกนั้นเข้าไปปลุกเสกในกุฏิของท่านอีกที นับว่าหลวงปู่ท่านสร้างของแบบรับรองว่าไม่เอาแบบสุกเอาเผากินและมีอีกครั้งหนึ่งเป็นช่วงตอนประมาณเที่ยงคืน ผู้เขียนยังนอนไม่หลับ จึงลุกไปเอาหนังสือมาอ่าน ผู้เขียนเดินผ่านกุฏิของหลวงปู่สังเกตว่าทำไมกุฏิท่านมีแสงไฟเดี๋ยวหรี่เดี๋ยวดับ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงแอบดูปรากฏว่าไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าผมเห็นหลวงปู่ท่านกำลังนั่งเพ่งเทียนอยู่ ตัวท่านนั่งตรงนิ่งไม่กระดุกกระดิกสายตาของหลวงปู่มองตรงไปที่เทียนเล่มหนึ่ง ดวงไฟที่เทียนนั้นแปลกมาก มันสามารถดับได้ติดได้ ผู้เขียนแปลกใจมากคิดว่าท่านคงฝึกเตโชกสิณอยู่ ดูท่าทางท่านเข้มแข็งมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้เขียนเห็นหลวงปู่ท่านปลุกเสกพระ ตอนนั้นมันดึกมากแล้ว หลวงปู่ท่านปลุกเสกพระแปลกมาก ในมือท่านถือเทียนอยู่เล่มหนึ่งพร้อมกับท่องคาถาไปด้วย ดวงตาของท่านเพ่งไปที่เทียนเล่มนั้น พอท่องจบท่านก็เป่าลงสู่วัตถุมงคลนั้นพร้อมกับพรมน้ำมนต์ ผู้เขียนเชื่อว่าพระที่ท่านสร้างต้องเข้มขลังแน่เพราะผู้เขียนเคยเจอประสบการณ์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยม

วัดร่องดู่เป็นวัดที่เก่าแก่มากสมัยก่อนเคยมีเจดีย์เก่าแก่อยู่สองเจดีย์ แต่เดี๋ยวนี้ได้พังทลายไปแล้วเนื่องจากว่าสมัยก่อนมีคนมาขุดจึงทำให้เจดีย์พังทลายลงมา ตอนนี้ทางวัดได้สร้างโบสถ์ทับไปแล้ว แต่ยังเหลือร่องรอยให้เห็นคือก้อนอิฐโบราณกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในบริเวณวัด วัดร่องดู่นี้มีเจ้าที่แรงมากตอนกลางคืนวันดีคืนดีจะมีดวงแก้วลอยขึ้นที่หลังโบสถ์ ผู้เขียนเคยเห็นกับตามาแล้ว สมัยนั้นบวชรับใช้หลวงปู่อยู่ เป็นดวงไฟที่แปลกมากมันลอยขึ้นเหนือโบสถ์ ถามหลวงปู่ท่านบอกว่าเจ้าที่ที่วัดนี้แรงมาก และที่วัดนี้มีเปรตอยู่ด้วย เรื่องนี้ต้องอยู่ที่ว่าท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ โปรดพิจารณาแต่ผู้เขียนเชื่ออย่างสนิทใจเลย เพราะมีคนแถวนั้นเห็นมาหลายคนแล้ว หลวงปู่ท่านก็เจอมา วัดร่องดู่นี้พอตกกลางคืนน่ากลัวมากมันเงียบวังเวงไม่มีใครกล้าลงจากกุฏิหรอกทั้งพระและเณร ผู้เขียนเองตอนสมัยบวชยังไม่กล้าเลย มีก็แต่หลวงปู่องค์เดียวท่านมักจะลงไปเดินจงกลมเสมอ ขนาดหลวงอาของผู้เขียนซึ่งบวชอยู่กับหลวงปู่ยังเคยเจอมาแล้ว พระที่วัดเจอดีมาแล้วหลายราย และเมื่อไม่นานมานี้ทางวัดได้ขุดดินเพื่อจะสร้างศาลาอเนกประสงค์ ยังขุดเจอโครงกระดูกมนุษย์โบราณสูงเกือบ 3 เมตร นอนในท่าเอาดาบหนุนหัวอยู่ตอนนี้ได้ส่งเข้าพิพิธภัณฑ์แล้ว

วัดร่องดู่นี้ยังมีของโบราณฝังอยู่ในพื้นดินอีกมาก เคยมีคนขุดได้พระบูชาก็มี มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่ท่านเห็นว่าต้นหญ้ารก ท่านจึงเอาเสียมไปถางหญ้าปรากฏว่าไปถางโดนวัตถุบางอย่าง ท่านจึงได้ขุดดูปรากฏว่าเป็นพระพุทธรูปท่านจึงนำมาไว้บูชา เป็นพระพุทธรูปเก่ามากสมัยเชียงแสน แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าตกไปอยู่ที่ใคร และเคยมีเรื่องระทึกใจอยู่ครั้งหนึ่งที่ว่า มีพระรูปหนึ่งมาบวชอยู่ที่วัดร่องดู่นี้ชอบให้หวยมาก ท่านจะหากระดาษมาเขียนเป็นตัวเลขแล้วม้วนนำไปหยอดในรูบึ้ง (เป็นแมลงชนิดหนึ่งทางเหนือเรียกว่าอีบึ้ง) ซึ่งอยู่ข้างหลังโบสถ์ พอตกกลางคืนพระรูปนั้นเกิดอาการผิดปกติ ทำตาขวาง ปวดท้อง เหมือนโดนของ โดนผีเข้าพระเณรในวัดจึงเรียกให้หลวงปู่มาดู พอหลวงปู่มาดูท่านนั่งหลับตาทำสมาธิสักพักท่านก็รู้ว่าพระรูปนั้นเป็นอะไร ท่านจึงทำน้ำมนต์มารดและให้พระรูปนั้นดื่มตอนแรกพระรูปนั้นถึงกับดิ้นใหญ่แล้วก็เงียบไป พอรู้สึกตัวหลวงปู่ก็เล่าให้ฟังว่าเจ้าที่ที่วัดนี้เขาหวงและแรงมาก พระรูปนั้นก็เลยเข็ดไปอีกนาน จะพูดถึงอภินิหารของหลวงปู่นั้นก็มี ตอนที่ผู้เขียนไปบวชได้มีพระที่บวชอยู่ก่อนพูดให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่บ้านร่องดู่ฝนไม่ตกตามฤดูกาลแห้งแล้งมาก เขาจึงนิมนต์หลวงปู่ให้ไปทำพิธีขอฝน โดยไปทำกันบนเขาที่อยู่ใกล้วัดร่องดู่ หลวงปู่นั่งหลับตาไปพร้อมกับท่องคาถาแทบไม่น่าเชื่อ ปรากฏว่าแสงแดดที่สว่างจ้าก็เริ่มมีเมฆหมอกครึ้ม อากาศที่ร้อนอบอ้าว ก็มีลมพัดเริ่มมีเสียงฟ้าร้อง สักพักฝนก็ตกลงมา ชาวบ้านต่างดีใจกันใหญ่เรื่องนี้ผู้เขียนเคยถามหลวงปู่ว่าท่านเรียกฝนได้หรือ ท่านยิ้มอย่างมีเมตตาและตอบว่า มันจะยากอะไรก็คาถามันมีนี่ ผู้เขียนถึงกับงงเลย ผู้เขียนคิดว่าหลวงปู่ท่านคงจะสำเร็จแล้วแน่นอนท่านถึงทำได้ ตอนนั้นหลวงปู่ท่านอายุก็ปาไปตั้ง 82 ปี แต่หลวงปู่ยังเดินเหินคล่องแคล่วดูท่านยังแข็งแรงมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยเห็นท่านสร้างวัตถุมงคลออกมาหลวงปู่นำมาแจก ท่านมักจะพูดเสมอว่าพระชุดนี้ดีนะ ท่านปลุกเสกเต็มที่ใช้ได้ 108 แล้วแต่จะอธิษฐานใช้ หลวงปู่ท่านมีสมาธิและพลังจิตกล้าแข็งมาก ผู้เขียนเชื่อว่าพระที่ท่านสร้างต้องดีแน่และไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน ผู้เขียนมีวัตถุมงคลของท่านแขวนบูชาติดตัวเกือบทุกรุ่นได้รับจากมือท่านตั้งแต่สมัยตอนบวชจนสึกออกมาก็ยังไปหาวัตถุมงคลของท่านที่สร้างออกมาไว้บูชาเสมอ เพราะผู้เขียนเชื่อว่าพระที่หลวงปู่สร้างออกมาแต่ละองค์นั้น มีพุทธคุณมากมายจริง ๆ ผู้เขียนเจอกับตัวเองมาแล้ว เคยถามหลวงปู่ว่าพระที่ท่านสร้างนั้นเวลาปลุกเสกแล้วมีพลังหรือไม่ ขลังหรือยัง หลวงปู่รู้ได้ยังไง ท่านตอบอย่างเมตตาว่า หลวงปู่ปลุกเสกพระท่านจะปลุกเสกไปจนเสร็จพิธี แล้วท่านก็จะนั่งสมาธิดูว่าพุทธคุณเต็มหรือขลังแล้วจะมีแสงสีฟ้าหรือเขียวขึ้นอยู่เต็ม หรือรอบองค์พระถ้ามีขึ้นน้อยท่านก็จะปลุกเสกต่อไปเรื่อย ๆ จนเต็ม

วัตถุมงคลที่หลวงปู่เชี่ยวชาญและถนัดมากในการทำคือ ตะกรุด อิ่น ขุนแผน หลวงปู่ท่านสร้างได้เข้มขลังมาก ลูกศิษย์ของท่านต่างรู้ดี วัตถุมงคลทุกชิ้นที่หลวงปู่ปลุกเสกท่านจะเน้นพุทธคุณสูง ให้ผู้นำไปใช้ได้เจอของจริงมีประสบการณ์แบบจะ ๆ ท่านจะสร้างออกมาแล้วหลายรุ่นคือ อิ่น ตะกรุด ผ้ายันต์ เทียนสืบชะตา พระขุนแผน พระสมเด็จ พระรูปเหมือน พระปิดตา สีผึ้ง วัวธนู และยังมีวัตถุมงคลอีกหลายชนิดที่ยังไม่ได้เขียนถึงในครั้งนี้ วัตถุมงคลทุกชิ้นหลวงปู่สร้างน้อยมาก บางชิ้นมีไม่ถึงสิบองค์ วัตถุมงคลบางองค์ก็มีราคาเกือบครึ่งหมื่น ยังไม่มีคนปล่อย เพราะหายากแถมมีประสบการณ์สูงอีกด้วย เป็นพระขุนแผนรุ่น 2 พิมพ์กรรมการ สร้างด้วยผงพุทธคุณล้วน สร้างไม่ถึง 10 องค์รุ่นนี้หายากมาก ผู้ที่มีต่างหวงแหนไม่ยอมให้หลุดมือ คนที่มีส่วนมากจะนับได้เลยว่ามีใครที่ได้ไปบ้าง พระขุนแผนรุ่นนี้ลูกศิษย์ของท่านบางคนมีคนมาขอบูชาประมาณครึ่งหมื่นเขายังไม่ขาย มีประสบการณ์มากมายทางเมตตาค้าขาย หลวงปู่ท่านยังเคยบอกว่า พระชุดนี้หลวงปู่ปลุกเสกให้อย่างเต็มที่ (ยังบ่อิใจ๋ออกหน๋า) ผู้เขียนได้ยินกับหูมาแล้ว จึงเชื่อและนับถือหลวงปู่มากขึ้น ผู้เขียนขอนำท่านผู้อ่านไปรู้จักกับวัตถุมงคลของหลวงปู่ว่า มีอะไรบ้าง

วัตถุมงคลยุคแรกที่หลวงปู่สร้างและดังมานานคงเป็นตะกรุดโทน ตะกรุดเมตตา ตะกรุดสาริกา ตะกรุดกำสะท้อน ตะกรุดผูกคอเด็ก กันเด็กร้องในตอนกลางคืน ตะกรุดกันคุณไสย ตะกรุดกันผี และผ้ายันต์ที่หลวงปู่สร้างมากคือ ผ้ายันต์ม้าเสพนาง หลวงปู่จะสร้างแจกเฉพาะลูกศิษย์ของท่าน ผ้ายันต์รับทรัพย์ ผ้ายันต์เมตตา ผ้ายันต์อิ่นแก้ว ผ้ายันต์ทางแคล้วคลาด คงกระพัน วัตถุมงคลทุกชิ้นหลวงปู่ท่านจะจารด้วยมือทุกชิ้นและปลุกเสกเดี่ยว มีประสบการณ์สูงทุกชิ้น วัตถุมงคลที่เป็นพระยุคแรกคือ พระสมเด็จ พระสมเด็จยุคแรกนี้สร้างทั้งหมด 50 องค์ แจกเฉพาะลูกศิษย์ไม่ค่อยสวยเพราะแกะบล๊อกด้วยมือและปั๊มกันในวัด มีมวลสารหลายชนิด ผู้เขียนจำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง สมเด็จชุดนี้พอหลวงปู่ปลุกเสกเสร็จท่านนำไปแจกลูกศิษย์ลูกหาของท่านและหมดไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันหายากมาก ด้านหลังสมเด็จชุดนี้หลวงปู่บรรจุตะกรุดสาริกา 1 ดอก

สมเด็จชุดนี้ได้มีเณรที่วัดอยู่รูปหนึ่ง ซนมากได้นำพระสมเด็จไปหักเล่น ปรากฏว่าตอนกลางคืนเณรรูปนี้จำวัดและฝันไปว่าเห็นพระสมเด็จองค์ที่หักลอยลงมาทับตัว จึงตกใจสุดขีดทำให้ไม่สบายไปหลายวัน ทำยังไงก็ไม่หาย สุดท้ายต้องไปขอขมากับหลวงปู่ จึงหาย ได้มีหนุ่มคนหนึ่งทำงานเป็นกุ๊กอยู่ร้านอาหารชอบลองวิชาพระเสมอ เคยได้รับตะกรุดจากหลวงปู่ไปเขาผู้นั้นนำไปใส่ในมือแล้วท่องคาถาปลุกดู (ชายคนนี้เคยบวชมาแล้ว) ปรากฏว่าของขึ้น ตกตอนกลางคืนเขาก็ฝันไปว่า มีสุนัขมาทำตาขวางใส่ ดวงตาของมันแดงก่ำมันทำท่าโกรธมากและกระโดดกัดที่ลำคอเขา ทำให้ชายคนนี้ตกใจมาก ทำให้เขาไม่สบายไปหลายวันเขาจึงจุดธูปอาราธนานึกถึงหลวงปู่ขอขมา เขาจึงหายเป็นปลิดทิ้ง จากนั้นมาเขาไม่กล้าลองอีกเลย

ผู้เขียนเชื่อว่าพระทุกรุ่นที่หลวงปู่ครูบาแก้วท่านสร้าง มีพุทธคุณจริง ๆ คงจะเป็นบารมีของหลวงปู่ที่สร้างมาท่านจึงสร้างวัตถุมงคลได้เข้มขลังมีประสบการณ์มากมายให้เห็นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน ครบทุกด้าน และมีคนชอบไปให้หลวงปู่ท่านทำพิธีสะเดาะเคราะห์กันมาก ท่านชำนาญจริง ๆ ท่านจะทำน้ำมนต์ให้กับผู้นั้นนำไปอาบและจุดเทียนสืบชะตาเขียนชื่อให้ได้ผลมาแล้ว น้ำมนต์หลวงปู่และเทียนของหลวงปู่ท่านดังมาก มีคนมาให้ท่านทำเสมอ วิธีสะเดาะเคราะห์นี้ท่านจะทำให้ทุกคนที่ไปหาท่าน โดยท่านจะจดชื่อไว้แล้วนำไปสวดตามคาถาที่ท่านเรียนมา ผู้ที่ไปทำถ้ามีเคราะห์หนักก็จะเบาลงหรือหายไป ผู้ไม่มีโชคก็จะมีโชคลาภมีบารมี ได้ตำแหน่งหน้าที่การงานดี คนเห็นรักใคร่เมตตา ใครเจ็บป่วยหรือโดนของโดนยาสั่งก็จะหายไป หลวงปู่ท่านทำให้ทุกคนโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

วัตถุมงคลที่หลวงปู่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น แม้แต่ผู้ที่มีวิชาอาคม หรือพระที่มีวิทยาคมอยู่แล้ว เห็นวัตถุมงคลที่หลวงปู่ครูบาแก้วปลุกเสก ยังกล่าวชื่นชมในพลังมหาพุทธานุภาพที่หลวงปู่บรรจุไว้ และท่านเหล่านั้นขนาดมีวิชาอาคมแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่หาวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาแก้วมาไว้บูชา ผู้อ่านก็คิดเอาเองนะครับว่าขนาดไหน นอกจากท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีพระเวทย์วิทยาคมแก่กล้า มีพลังจิตญานขั้นสูงแล้ว ท่านยังเป็นพระอริยสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบควรแก่การสักการบูชากราบไหว้เป็นอย่างยิ่ง



ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.amulet.in.th/forums/view_...12094275f9ef76